Gungdo. ธนู Korea Traditional Bow

[nam26]

กระทู้เก่าหายไปตอนเวปล่ม

ขอเรียนเชิญ. ดร.โอ้ดผู้เชี่ยวชาญ ธนูเกาหลี. มาให้ความรู้อีกรอบ

http://img600.imageshack.us/img600/4431/imageeczi.jpg (http://imageshack.us/photo/my-images/600/imageeczi.jpg/)

http://img804.imageshack.us/img804/7491/imageqxg.jpg (http://imageshack.us/photo/my-images/804/imageqxg.jpg/)

[nam26]

เพิ่งได้ลองมาจับธนูเกาหลี 50ปอนด์ จากการอนุเคราะห์ น้ำพี้

ได้คิดหลายประการ

ชอบคันสั้นกระทัดรัดเบาเหมาะแก่การพกพา มุดลัดเลาะพุ่มไม้

ลักษณะคันธนู สั้น แต่มีการพัฒนาออกแบบแก้ไขโดยเฉพาะส่วนปลายที่คล้องสายธนู ที่ทำให้สายไม่หลุดขณะ full draw

ลักษณะท่าทางร่างกายตอน full draw แสดงภูมิปัญญา ทางด้านความเข้าใจทางกายวิภาค
เพราะแสดงแนว alignment ดีมาก bow arm. Bow hand arrow. อยู่ในแนวเดียวกัน ทันสมัยเป็ะ

คันเล็ก ไม่เหมาะกับhold คันเล็งนานๆ แต่เหมาะแก่การเล็งแบบ สัญชาติญาณ การยิงแบบ3D. ไม่น่าใช่สำหรับการยิงเป้านับคะแนน

และอื่นๆอีกหลายประการที่น่าศึกษา

http://img265.imageshack.us/img265/5628/imageazg.jpg (http://imageshack.us/photo/my-images/265/imageazg.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)

[nam26]

มาดูที่ภาพอีกครั้งหนึ่ง

สายธนูที่แตะอกมีส่วนช่วยในการประคองคันธนูให้นิ่งแก้ปัญหาคันธนูสั้นเกินไปได้

เทคนิคพักสายธนูแตะอกยังใช้ในธนู รีเคริฟปัจจุบันด้วย

คาดไม่ถึงจริง

[n.s.hunter]

เคยยิงคันเกาหลีของคุณ โอ๊ด ติดใจมาก ต้องหามาครอบครองซัดคัน บอกได้เลยว่า ถ้าท่านเป็นนักธนู ต้องการเอาธนูติดไปด้วยในทุกๆที่ และธนูต้องขึ้นสายตลอด อยากยิงเมื่อไหร่ต้องพร้อมยิง ก็ต้องธนูเกาหลีนี่แหละ เห็น คุณโอ๊ด ว่าขึ้นสายทิ้งไว้ได้ ไม่ล้า ว่าแต่ธนูแบบนี้ ทำไมอาเชอรรี่ไม่สั่งเข้ามาขายบ้างหนอ....:D:love::D

[oat]

พี่ณัฐน่าจะจำสลับกับธนูอีกแบบครับ ที่เป็นสามเหลี่ยมแบบอียิปต์ อัสซีเรียน ลิ้มเป็นแบบดีเฟลกซ์ แบบนั้นจะไม่ล้าครับ
คันเกาหลีและรีเฟลกซ์ทุกแบบ ขึ้นสายทิ้งไม่ได้ครับ ลิ้มจะล้า แต่เล็กจริง พกง่ายจริง ขึ้นสายได้เร็วครับ

ผมเจอต้นฉบับที่เคยเขียนแล้ว จะค่อยๆเอามาลงครับ

การที่สายแตะอก น่าจะได้การประคองคันเป็นผลพลอยได้ครับ เพราะการยิงธนูในฟอรมนี้ จำเป็นต้องเอียงคัน เพราะแองเคอร์ คือก้านลูกแตะแก้มหรือกราม ในขณะที่ DL มันเลยไปถึงหู และหันหน้าตรงกับเป้า ถ้าไม่เอียงคัน บิดสาย หรือบิดหน้าหนี จะโดนสายตบหน้าครับ :D

[oat]

http://eastern-imports.com/images/PRK014%20Kim%20Hong-do%20archery%205x6.jpg
กุงโด แปลเป็นไทยว่าวิชาธนู หรือถ้าแปลแบบสำนวนกำลังภายใน ก็อาจจะเรียกว่าวิถีแห่งเกาทัณฑ์ :D

ไม่ได้มาพูดถึงประวัติศาสตร์นะครับ เพราะหาอ่านเองได้ใน
http://en.wikipedia.org/wiki/Gungdo
ถ้าว่างๆ อาจจะมาขยายความแง่มุมประวัติศาสตร์คุยกัน

และไม่ได้มาสอนด้วยนะครับ เพราะไม่ได้มีความรู้อะไรมากพอที่จะมาสอน

เอาเป็นว่า ได้พบเห็นอะไรที่เกี่ยวกับกุงโดมา ก็มาเล่าสู่กันฟังครับ

อาจจะแค่ผิวเผิน เหมือนฝรั่งมาดูมวยไทย ไม่มีรายละเอียดเชิงลึกมากนักนะครับ
คิดซะว่าอ่านเล่นสนุกๆก็แล้วกันนะครับ

เกาหลี ถือว่าธนูเป็นอาวุธประจำชาติอย่างหนึ่ง และวิชาธนู ก็ถือว่าเป็นศาสตร์ ศิลป์ และวัฒนธรรมประจำชาติด้วย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการยิงธนูในรูปแบบกีฬาสากลเข ้ามา แต่คำว่ากุงโดก็จำกัดใช้เฉพาะกับการฝึกธนูแบบดั้งเดิ ม

การฝึกกุงโดยัง มีอยู่ค่อนข้างแพร่หลาย มีสมาคมที่ค่อนข้างเข้มแข็ง และมีการจัดแข่งอย่างต่อเนื่อง ทั่วประเทศมีสนามยิงธนูแบบดั้งเดิมเป็นหลักร้อย เฉพาะในโซลเอง ก็มีอยู่เกือบสิบสนาม

ทั้งๆที่กรุงโซลเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่น แต่ก็ยังมีการจัดพื้นที่สีเขียวเยอะพอสมควร

รูปนี้เป็นพระราชวังหลวงเกยองบกกุง (เทียบได้กับพระบรมมหาราชวังบ้านเรา) ก็ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงเช่นเดียวกัน
http://www.goway.com/asia/korea/koreaimg/Seoul-Gyeongbokgung-Palace-500px.jpg

ใน อดีต บริเวณพระราชวังนี้จัดว่าเป็นศูนย์กลางเมืองหลวง ห่างไปทางตะวันออกเล็กน้อย ประมาณสนามหลวง เสาชิงช้า เป็นศาลบวงสรวงของวัง(หรือวัดหลวง) ไปทางตะวันตกเป็นพื้นที่เกษตรของวังหรือนาหลวง

ด้านหลังวัง เป็นสนามยิงธนูชื่อหอกระเรียนเหลืองหรือฮวาฮักจาง (황학정) แต่ภายหลังสนามยิงธนูและตัวหอได้ย้ายจากหลังวังมาอยู ่บนเขาหลังส่วนนาหลวง (ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ)
http://dicimg.nate.com/art/21/2109/225229/225229001.jpg
อันนี้อีกมุมหนึ่ง
http://cfs14.tistory.com/image/25/tistory/2008/11/24/13/14/492a2a250c1ad

ดู จากรูปข้างบน ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสถานที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า แค่ระยะทางประมาณสยาม ไปสามย่านเท่านั้นเอง แต่มีเดินขึ้นเขานิดหน่อย
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1146.jpg
อันนี้ขึ้นมาจากรถไฟฟ้า เห็นสวนสาธารณะซาจิก
http://cfs14.tistory.com/image/16/tistory/2008/11/24/13/14/492a2a10c0b60
เดินเข้าในสวน ไปทะลุออกด้านหลัง
http://cfs14.tistory.com/image/24/tistory/2008/11/24/13/14/492a2a1483235
ได้เหงื่อนิดหน่อย ประมาณขึ้นภูเขาทองก็ถึงแล้ว วันนี้มีนักธนูซ้อมกันอยู่ห้าหกคน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1150.jpg
คนที่จะมายิงในสนามตรงนี้ ต้องผ่านการฝึกมาพอสมควร เพราะยิงระยะ 145 เมตร
ถ้าเป็นมือใหม่ก็หมดสิทธิ โอกาสที่ลูกจะถึงเป้าเป็นศูนย์
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1151.jpg

ตรงหลังกำแพงไม้เป็นทางเดินขึ้นมาบนสนาม ดังนั้นถ้ายิงมั่วๆลูกธนูอาจตกใส่หัวคนที่เดินอยู่ได ้เหมือนกัน :confused:
http://cfs8.blog.daum.net/image/5/blog/2009/04/19/04/50/49ea2effb3871&filename=IMG_3355.jpg

[oat]

มีภาพย้อนยุคให้ดูนิดนึง
http://hwanghakjeong.org/pro/data/file/gallery/1991270643_EauW69SK_F5E6D8D1FAEDCBD2F7D7.jpg
อันนี้ปัจจุบัน
การแข่งขันแบบเป็นทางการกำหนดให้แต่ชุดขาว รองเท้าขาว
ธนูต้องเป็นธนูเขาควายและวัสดุธรรมชาติเท่านั้น
ลูกธนูต้องเป็นลูกไม้ไผ่เท่านั้น
http://cfs8.blog.daum.net/image/29/blog/2009/04/19/04/50/49ea2efa449d3&filename=IMG_3282.jpg
เดี๋ยวแวะไปดูอีกสนามกันก่อน

[oat]

http://www.freewebs.com/narushinyak/korea4.jpg
สนามธนูอีกแห่งหนึ่ง ก็เป็นสนามเก่าแก่เช่นเดียวกัน ตั้งอยู่ในบริเวณเขานัมซาน

เขานัมซานนี้เป็นภูเขาลูกเล็กๆ เดาว่าขนาดประมาณเขตดุสิต :D ตั้งอยู่กลางเมือง รถไฟ้าผ่านหลายสาย เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช๊อปปิ้งอย่างเมียงดอง ใครผ่านมา เอาภรรยาไปปล่อยที่เมียงดอง แล้วขึ้นมาดูสนามธนูได้ครับ

ห่างจากรถไฟฟ้านิดเดียว ประมาณหนึ่งกิโล เดินไหว :)
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1162.jpg
แต่เดินขึ้นเขาครับ น่าจะสูงประมาณซำแฮกได้
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1164.jpg
มีป้ายให้อ่านประวัตินิดนึง เหนื่อยครับ ไม่ได้อ่าน ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1165.jpg
ส่วนที่พักนักกีฬาครับ
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1166.jpg
จากด้านข้าง มองไปเห็นเป้า
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1167.jpg
จากหลังเส้นแนวยิงครับ
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1168.jpg
เดี๋ยวไปดูอีกสนามครับ

[oat]

สนามนี้อยู่ติดแม่น้ำครับ ไม่ต้องขึ้นเขา
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1172.jpg
แต่เข้าใจว่ากำลังปรับปรุงพื้นที่ :(
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1171.jpg
จบเรื่องสนามแล้วครับ ;)

[oat]

เปลี่ยนมาคุยเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ บ้าง
ที่หอกระเรียนเหลืองมีส่วนที่สร้างเป็นโรงเรียนหรือส ำนักสอนกุงโด และจัดแสดงให้ความรู้ด้วย เลยเก็บภาพมาครับ

ลักษณะเป็นโรงฝึกในร่ม ใช้ฝึกฟอร์มและการปล่อยลูกระยะสามเมตรเท่านั้นครับ
ที่เห็นวางเรียงริมหน้าต่าง เป็นคันไฟเบอร์เทรดดี้ ขนาดปอนด์ต่างๆกัน ไว้ให้นักเรียนฝึกฟอร์มครับ
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1204.jpg
คันไฟเบอร์ขึ้นสายแล้ว ลักษณะและฟีลลิงจะคล้ายๆกับคันเขาควาย แต่ราคาถูกกว่า และดูแลง่ายกว่ามากครับ
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1203.jpg
เค้ามีบอร์ดจัดแสดงด้วย เข้าใจว่าคงมีคนมาเยี่ยมชมพอสมควร
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1205.jpg
อันนี้วิธีผูกบ่วงครับ ดูแล้ววุ่นวายไม่น้อย
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1200.jpg
สายธนูแบบดั้งเดิมทำจากไหมนะครับ
ส่วนผ้าสีฟ้าๆ เป็นซองใส่คัน เรียกว่ากุงเด ถ้าเอาคันออกมาแล้ว เค้าจะเอามาผูกเอวไว้ครับ จะได้ไม่หาย ไม่เปื้อน กันเสื้อปลิวเข้าไปพันสาย (เดาเอาทั้งนั้น) เค้ามีกระเป๋าเล็กๆด้วยครับ พอผูกเอวแล้ว ก็จะมีกระเป๋าเอาไว้ใส่แหวนห้อยติดข้างเอว สะดวกดีเหมือนกัน เพราะจะได้ไม่เอาแหวนไปวางลืมทิ้งที่ไหน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1206.jpg
ขอบรรยายวิธีผูกนิดนึงนะครับ กันตัวเองลืม ยังไม่มีรูปครับ อ่านแล้วจะงงนิดนึง
ถือผ้าไว้ ฝั่งก้นถุง(กระเป๋า) อยู่ซ้ายมือ
เอาทาบเอวด้านหน้า ผ้าชนกันด้านหลัง จับเอาไว้แล้วหมุนตรงที่ชนกันมาด้านหน้า
เอาด้านขวา ทับด้านซ้าย แล้วลอดขึ้นมาหนึ่งคืบ เอามือซ้ายรวบส่วนหนึ่งคืบเอาไว้
เอาปลายที่เหลือพันทับนิ้วโป้งมือซ้าย (จากด้านนอก เข้าด้านใน) ส่งให้มือซ้ายจับลอดขึ้นมาเป็นโบว์ ดึงให้แน่น
หมุนปมไปด้านหลัง ทางขวา เป็นอันเสร็จ

อันนี้เป็นคันตอนปลดสาย จะโค้งเป็นวงกลมแบบนี้
ตรงกลางโชว์แหวนนิ้วโป้งที่เรียกว่ากั๊กจี๊ มีหลายแบบครับ
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1207.jpg

ภาพที่เห็นนี่คันไฟเบอร์ล้วนๆครับ วันเสาร์จะมีนักเรียนมาฝึกเกือบสิบคน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1213.jpg

[oat]

http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1153.jpg
ในการแข่งและการซ้อม นักธนูจะเหน็บลูกไว้กับผ้าคาดพุง โดยจะเสียบไว้ทางฝั่งขวามือ เอาหางลูกธนูชี้ออกไปนอกตัวทางด้านหน้า

แต่ละรอบ จะเหน็บลูกธนู 5 ลูก ไม่ขาดไม่เกิน เริ่มยิงจากคนซ้ายสุด ไล่ไปทีละคนจนได้ยิงคนละลูก แล้วมาเริ่มที่คนแรกใหม่ ห้ารอบ ทุกคนก็ยิงครบห้าลูก นับเป็นหนึ่งจบ(ซุน)

เมื่อนักธนูคนไหนทำ perfect round ได้เป็นครั้งแรกคือภายในหนึ่งซุน ห้าลูกยิงโดนเป้าห้าครั้ง จะได้รับเกียรติเทิร์นเป็นโปร และได้รับฉายานาม (เหมือนในหนังจีน)

หลังจากเทิร์นโปรแล้วก็จะมีโอกาสเลื่อนขั้น คือใน 9 ซุน (ยิงรวม 45 ลูก) ถ้าได้ 25 แต้มก็จะได้ขั้นแรก หลังจากนั้นเมื่อได้แต้มเพิ่ม ก็จะเลื่อนไปขั้นสอง ขั้นสาม ไปเรื่อยๆ จะบรรลุขั้นที่ 9 ได้ ต้องทำคะแนนได้ 39 แต้ม

สนนราคาคันธนูแบบลามิเนต ตกประมาณสามแสน และคันเขาควายแบบดั้งเดิม ตกประมาณหนึ่งล้าน ลูกไม้ไผ่ราคาสามหมื่นห้า

หน่วยเป็นวอน คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณหนึ่งหมื่นบาทสำหรับลามิเนต และธนูเขาควายราคาสามหมื่นบาท ลูกราคาหนึ่งพันบาท ... โดยประมาณ

คนที่มาเล่นนี่ก็อารมณ์ประมาณก๊วนกอล์ฟครับ คือเป็นคนที่มีเงินและเวลาพอสมควร มีทั้งเป็นพวกนักธุรกิจหรือคนที่ทำงานพอแล้ว รีไทร์ตัวเองมายิงธนูแก้เซ็งกับเพื่อนฝูง จ่ายค่าเมมเบอร์สนามกันเป็นรายปี

ดังนั้นยิงแล้วไม่ต้องเดินขึ้นเขาลงเขาให้เมื่อยครับ ในสนามจะมีพนักงานเก็บลูกไว้บริการ พอยิงครบหนึ่งซุน ก็ไปพักกันสิบห้านาทีครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นพนักงานก็จะเก็บลูกใส่กระเช้าส่งขึ้นตามส ายเคเบิลรอไว้เรียบร้อยแล้ว พักเสร็จก็มายิงต่อได้เลย ดูไฮโซสมกับเป็นกีฬาชนชั้นสูง :D

[oat]

อันนี้วิธีใส่แหวนครับ จิ๊กมาจากเวบอื่นอีกที
แหวนจะมีรูเป็นวงรีครับ พอใส่เข้าไปแล้วจะได้ล๊อคกับข้อนิ้ว ไม่หลุดออกมา
ตอนใส่จึงต้องหมุน เอาด้านที่ปิดนิ้วหมุนไปด้านข้างก่อน จึงจะใส่เข้า
พอใส่เลยข้อนิ้วแล้ว หมุนด้านปิดนิ้วกลับมาปิดนิ้วโป้งไว้ ก็พร้อมใช้งาน
http://www.koreanarchery.org/classic/thumbring004.jpg
http://www.koreanarchery.org/classic/thumbring005.jpg
http://www.koreanarchery.org/classic/thumbring006.jpg
http://www.koreanarchery.org/classic/thumbring007.jpg
อันนี้ภาพวิธีเหนี่ยวสายด้วยนิ้วโป้ง ในรูปเป็นแบบจีน ที่ใช้แค่นิ้วชี้มาล๊อคนิ้วโป้ง
ถ้าแบบเกาหลีจะเก็บแค่สองนิ้ว โดยใช้ทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางมาล๊อคนิ้วโป้ง
http://www.atarn.org/chinese/stringhand.jpg

[oat]

การเลือกไผ่ที่จะเอามาทำธนู จะเลือกตัดมาแค่สองปล้อง ความยาวปล้องประมาณศอกนึงกระมังครับ ตัดมาทั้งหมดสองปล้อง สามข้อ
แล้วก็จับดัดเป็นรูปครึ่งวงกลมก่อน เปลือกไผ่จะอยู่ด้านที่เป็นท้อง

http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1217.jpg

มีข้อนึงอยู่ตรงกลางพอดี
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1218.jpg
และมีข้อปิดปลายทั้งสองด้าน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1219.jpg
บากปลายทั้งสองด้านเป็นรูปตัว V (ที่จริงบากผ่ากลางเลยเข้ามาอีกหน่อย น่าจะเป็นตัว Y มากกว่า)
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1220.jpg
ส่วนหู จะใช้ไม้เนื้อเบาอย่างตระกูลหม่อนหรือกระถินที่ดัดแล ้ว (บางตำราว่าใช้ชิ้นง่ามกิ่ง ไม่ต้องดัด) เหลามาให้เข้ากับรอยบาก
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1222.jpg
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1221.jpg
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1223.jpg

[oat]

ไม้โอ๊คขนาดประมาณคืบ เอาไว้ติดส่วนหลังคัน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1243.jpg
แปะเขาควายลงไปด้านท้อง
ด้านหลังแปะเอ็น ตามด้วยไม้(ตระกูลโอ๊ค) แล้วเอ็นอีกที
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1230.jpg
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1231.jpg
ภาพตัดตามยาวครับ
จากชิ้นข้างบน เป็นไม้ เขาควาย ไม้ไผ่ เอ็น ไม้โอ๊ค แล้วก็ เอ็น เป็นชั้นสุดท้าย
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1212.jpg
เขาควายไม่ต้องยาวมากนะครับ
แค่โคนหูก็พอ
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1232.jpg

ถาพตัดขวางจะเป็นแบบนี้ครับ ใส่เอ็นเยอะเหมือนกัน :confused:
พอทุกอย่างเซตตัวแล้ว ก็แกะลวดออก เหลาหูไว้คล้องสาย

http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1233.jpg
ขึ้นโครงก่อน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1234.jpg
เก็บรายละเอียด ด้านหลัง
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1235.jpg
ด้านท้อง
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1238.jpg
ต้องมีแนวสันนูนๆด้วย จะได้เอาไว้รับกับบ่วงที่สาย

[oat]

กลับมาดูวัสดุอุปกรณ์
เอ็น
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1244.jpg
เอ็นทุบ
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1245.jpg
กระเพาะปลา เอาไว้ทำต้มกระเพาะปลา
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1246.jpg
ผิวเปลือกไม้ไว้ปิดหลังคัน กันความชื้น
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1247.jpg
ภาพนี้แสดงรอยต่อระหว่างคันไม้ไผ่ชิ้นกลาง กับหูไม้หม่อน
http://i84.photobucket.com/albums/k40/s_issara/yellowcrane/IMG_1248.jpg
จบเรื่องสร้างคันธนูแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาต่อเรื่องอื่นวันหลังครับ

http://img2.cdn.crunchyroll.com/i/spire4/05162008/a/7/1/9/a7195a31b00c40_full.jpg

[n.s.hunter]

เอ็นที่ใช้ ใช้ใยไฟเบอร์หรือใยแบบอื่นแทนได้มั๊ยครับ แล้วกาวใช้กาวหนังควายได้มั๊ยครับคุญโอ๊ด

[boom]

กด like ให้อาจารย์โอ๊ต 1000 ครั้งแลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มอบให้ค่ะ

ยิ่งอ่านยิ่งอยากลอง ถ้านัดกับคุณน้ำได้แล้ว อย่าลืมบอกด้วยนะคะ:):)

[siriwut]

ได้อ่านและดูใน youtube มานิดหน่อย ชักเริ่มอยากลองบ้างซะแล้วสิครับ :)