Drunken_Writer
05-02-12, 09:31 PM
ชีวิตนี้.....ควรได้มาลองสักครั้ง นิยามที่ผมมอบให้อาหารฝรั่งจานสวยๆเหล่านี้ ที่มีดีมากว่าหน้าตา เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว..... ประทับใจจนฝันถึง.......
สำหรับหลายๆคนที่เคยมีโอกาสเดินทางมายังแดนดินถิ่นล้านนา ณ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ คงได้รับการบอกเล่าถึงอาหารอร่อยๆ ขั้นสุดยอดในแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเปน ข้าวซอยร้านต่างๆ เค้กร้านโน้นร้านนี้ อาหารเมือง ขันโตกอันเปนเอกลักษณ์แห่งล้านนา.......
ผมเปนคนหนึ่งที่เคยอยู่เชียงใหม่มาหลายปีและหลังจากกลับไปอยู่ที่ภูมิลำเนา ก็ยังได้เดินทางกลับมาเยือนแดนดินถิ่นล้านนาปีละหลายๆครั้งด้วยกัน ทั้งมาทำงาน มาเที่ยว หรือแม้แต่มาพักผ่อนส่วนตัว.....
คราวนี้ การเดินทาง เปนการพาลูกค้า โคตะระ ดับเบิ้ล พลัส ทริปเปิ้ล วีไอพี บวก บวก สองท่าน ขับรถเลาะและมารายทางจากกทม โดยมีจุดหมายในการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และเยือนเรือนสหายเก่าของทั้งสองท่าน
ในค่ำคืนจันทร์ครึ่งดวง.....รอยต่อระหว่างเดือนมกราคมกับเดือนกุมภาพันธ์ คณะของพวกเราได้มีโอกาสเดินทางมาพักที่ "เชียงดาว เนส 1 : chiangdoa nest 1" ตามคำแนะนำของเจ้าถิ่นที่วันนี้มาสมทบในการเดินทางท่องเที่ยว.....
หลังจากออกจากถ้ำเชียงดาวในเพลาโพล้เพล้ ก็บ่ายหน้าหันเข้าสู่ป่าเชิงดอยหลวงเชียงดาว เข้าสู่ เชียงดาวเนส1
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/418910_10150661474216844_733516843_11182440_1436899136_n.jpg
http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/425105_10150650876126844_733516843_11151365_1019985194_n.jpg
http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/395611_10150650876031844_733516843_11151364_2037881003_n.jpg
http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/425718_10150650875921844_733516843_11151363_1146871246_n.jpg
ในคราวแรก ..... ไม่ได้คาดหวังอะไรไว้เลยทั้งในส่วนของที่พักและอาหารการกิจเพราะอิ่มมากมายมาจากร้านอาหารเวียดนาม "ปัญจรีย์" หน้าสนามกีฬาล้านนา ก็เลยชิวๆ นั่งกระแทก "หมาใจดำ" เหล้าพื้นเมืองขึ้นชื่อของเวียงเชียงใหม่กันเพื่อเผาหัว เจ้าถิ่นเสนอว่าเราควรทานอาหารของที่นี่เพราะเปนอาหารฝรั่งที่อร่อยมากกกกก
"ฝรั่ง!!!!" กูเกลียดฝรั่ง.....แต่ไม่เกลียดอาหารฝรั่ง กินได้ๆๆ ผมนึกในใจ
แต่ลูกค้าคนนึงทำตาละห้อยแววตามเศร้าสร้อย น้ำตาคลอ เพราะตั้งใจอยากชิม "ขาหมู เชียงดาว" อย่างเต็มที่ ก็เลยต้องจรลีออกไปหาของประกอบการละเลียดหมาใจดำ เลยออกไปจัดขาหมู เชียงดาวพร้อมหมั่นโถร้อนๆ มาบำเรอลูกค้าวีไอพีทั้งสามกันก่อน......
หลังจากขาหมูหอมๆนุ่มๆละลายในปากไม่ละลายในพุง ถุงเบ่อเร่อ ย้ายสำมะโนครัวไปสามัคคีกับหมั่นโถลูกโตครึ่งโหล ในพุงน้อยๆของคณะทั้งสี่แล้ว.....ก็ได้เวลาที่จองโต๊ะเอาไว้ 1930 น.
"อิ่มอ่ะ ไม่กินได้มั้ยข้าวเย็น" บางคนเริ่มโอด....
"ไม่ได้ๆ อาหารที่นี่อร่อยมากควรต้องกิน มีเนื้อกวางนิวซีแลนด์ด้วย" เจ้าถิ่นที่เดินไปสอบเมนูอาหารรีบสรุปพร้อมฉุดกระชากลากถู เพื่อนเลิฟทั้งสองให้ลุกจากระเบียงหน้าบ้านมุ่งหน้า ครัวน่ารักๆ ที่เดินผ่านมาเมื่อเย็น ส่วนผมนะเหรอ เดินนำไปตั้งแต่ได้ยินคำว่า "เนื้อกวางนิวซีแลนด์แล้ว"
พอถึงโต๊ะอาหาร คนไทยกลุ่มเดียว นอกนั้นฝรั่งราวสามสิบคน ก็ทำตัวเขินๆเดินไปนั่งแบบกระมิดกระเมี้ยน พอนั่งได้ก็หันไปดูเมนูซึ่งที่นี่จะเขียนไว้บนกระดานดำ ใจแทบสลาย เนื้อกวางนิวซีแล่นนนนน หมด!!!!!!!!
แม้จะเดินมาด้วยความไม่คาดหวังเพราะว่าอิ่ม ขาหมูหมั่นโถ แต่........ก็นะเลยจัดอาหารมา "หก" อย่าง แบ่งๆกันชิมแบบสามัคคี ไม่แยกจากกัน เริ่มจากเครื่องดื่ม
ผมเองชื่นชอบเครื่องดื่มอุ่นๆ เลยสั่งชาคาโมมายด์ เพราะคืนนี้อยากหลับสบายๆ ส่วนที่เหลือสั่งน้ำเปล่า แต่.....ทางร้านน่ารักมาก นำ เฮาส์ไวน์นำเข้าจากออสเตรเลียมาให้ชิม สองแก้ว ขาวแก้วแดงแก้ว .... ผมไม่ถนัดชิมไวน์ เลยดมๆ ดูดๆ กลั้วๆอยู่ในปาก ให้หอมขึ้นจมูก ดม ชม ชิม แล้วสรุปว่า...สุโค่ยหว่ะ!!!! แต่ไม่สั่งเพราะ "หมาใจดำ" กำลังเห่าบ๊อกๆ ในกระแสเลือดกันให้ขรมไป!!!!
http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/398643_10150652738626844_733516843_11156292_1287132084_n.jpg
พอชาคาโมมายด์มาถึง.....บรรจงรินเบาๆ ไอกรุ่นร้อนๆพลุ่งพล่านขึ้นมาจากพวยกาและแก้วชาใบโต....กลิ่นหอมละมุน ลอยขึ้นมาสัมผัสจมูก ให้ความรู้สึกเหมือนโดนจุมพิศจากริมฝีปากเรียวนุ่มของสาวรุ่นที่มิเคยต้องมือชาย......ยกแก้วชาจิบเบาๆ...รสหวานอ่อนๆ ผสมปนเปมากับรสขมจางๆนัวอยู่รอบๆลิ้น นุ่มนวลอยู่ในช่องปาก กลืนชาลงคอหมดแล้วรสและกลิ่นของชายังคงอวลอยู่ในช่องปากช่องจมูกอยู่สักพักนึง.....มารู้ทีหลัง หลังจากเปิดกาขึ้นดูกากชา....ว้าวๆๆๆๆ .... เปนชาผสมเองและเมื่อสอบถามเจ้าของเมื่อเธอเข้ามาชวนพูดคุยสอบถามแล้วปรากฏเปนชาคาโมมายด์ออแกนิค....อืมมม!!!! ละมุนละม่อม กลมกล่อม เกินบรรยาย
http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/422161_10150655270571844_733516843_11163777_896849497_n.jpg
ระหว่างนี้ มีเฟรนฟรายและผักสดหั่นแท่งมาเสริฟพร้อมน้ำสลัดปรุงรสและมะเขือเทศปรุงเปนซอสสด รสชาตลงตัวมากมาย
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/421991_10150655264806844_733516843_11163747_1133879866_n.jpg
รอไม่นานเกินรอ Starter ที่เลือกไว้จานแรกก็มา ผมเองได้กินซุปฟักทองมาหลายที่ ก็พอจำได้กับรสชาติที่อร่อยหวานมันของซุปชนิดนี้ ทันทีที่เห็นหน้าตา เฮ้ย พอไปวัดไปวาได้....จัดแจงบรรจงตักรินลงลิ้นระริกที่พลิกไปมา....ทันที!!!!!!
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/421073_10150655265536844_733516843_11163752_145260930_n.jpg
แวบแรกที่ช้อนซุปยกมาใกล้ปาก กลิ่นที่คุ้นชิน...แต่ไม่คุ้นว่าเคยปรากฏอยู่ในซุปฟักทองที่เคยกินมาจากที่ไหน กลิ่มหอมอ่อนๆของขิง ที่ผสมมากับซุปฟักทองที่ทำจากฟักทองโครงการหลวง อวลอยู่ในปากทันทีที่ป้อนเข้ามาในปาก หอมและขิงแต่ไม่เผ็ด.....ที่สำคัญ ไม่กลบความหวานมันและกลิ่นฟักทองเลย รสชาติหวานมันไม่เลี่ยนแต่ให้ความรู้สึกแน่นๆในแต่ละช้อนยามป้อนเข้าปาก จะละลายหายไปพร้อมกับกลิ่นจางๆของขิงที่มีเนื้อพอแล่นใบที่ฟุ้งหายไปในลมหายใจ....เมื่อพินิจดีๆแล้ว มีกลิ่นของเบคอนบางๆ มาช่วยชูรส ผสมความลงตัวให้ซุปจานนี้แบบงงงัน.....เฮ้อ....นี่แค่จานแรก
ซุปฟักทองยังไม่ทันหมด......starter จานที่สองก็ถูกยกมาเสริฟตรงหน้า....
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/430772_10150655266451844_733516843_11163759_912167368_n.jpg
...ว้าว ไอ้จานนี้หล่อเลยอ่ะ "แซลมอนรมควันยัดไส้มาด้วยชีสปรุงรส เคียงมาด้วยผักสลัดสดกรอบหวานกรุบกริบ"
เมื่อตัดแยกชิ้นแซลมอนพอคำมาพร้อมกับไส้ชีสก้อนโต หุ้มห่อด้วยสลัดใบสวยขนาดพอคำ บีบมะนาวลงใส่สองสามหยด กลิ่นของชีส บวกน้ำมะนาวหอมฟุ้ง กลบกลิ่นแซลมอนรมควันแทบสนิท.....แต่พอใช้ส้อมจิ้ม สตาร์ทเตอร์ก้อนนี้เข้าปาก ....
กลิ่นแรกที่อวลขึ้นในปากกลับเปนกลิ่นของแซลมอนรมควัน ยิ่งพอเนื้อแซลมอนแตะลิ้นความนวลนุ่มของแซลมอนระริกอยู่ที่ผิวลิ้นประดุจสายไหมโดนลิ้นที่ชุ่มชื้น เหมือนแซลมอนที่เปนริ้วๆหนาด้วยไขปลาจะละลายลงคอไม่ต้องเคี้ยวเลยทีเดียว
ลงฟันไปเตมเขี้ยว ชีสทะลักทะล้นออกมาปะปนกับแซลมอนเพิ่มความละไมลิ้นจนยากจะเอ่ยบรรยาย คำเดียวนี้เคี้ยวอยู่ราวสี่นาที เพราะไม่อยากกลืน.....ลิ้นยังระรื่นอยู่กับรสชาติระดับ เมพขิงขิง
อาหารจานหลักจานแรก เดินทางมาถึง......ข่าวว่าเริ่มฮิตในหมู่คนไทย เมื่อคราว"ครูกุ๊ก" ออกมาโลดแล่นอยู่บนจอแก้ว ไทยทีวีช่องสาม เพราะเปนอาหารที่ปรากฏอยู่ในฉากการสอนทำอาหารระหว่างพระเอกกับนางเอก....
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/429234_10150661474416844_733516843_11182441_146585363_n.jpg
"ซูเฟรย์" ... หน้าตาไอ้หมอนี่....ดูดีไม่เบา จึงบรรจงจ้วงส้อมตัดขึ้นมาเปนชิ้นพอคำ.....ความหอมจากผิวชีสที่ีเดือดปุด...ดูเหมือนจะโดนไฟร้อนแผดเผามาจนเกรียมกรุ่นผุดขึ้นมาทักทายก่อนใคร ความนุ่มของชีสสำแดงความกะล่อนไหลลื่นไปตามลิ้นที่บดอัดขึ้นไปกระทบกับเพดานปากด้านบน จนกระจาย!!!!!! ไหลลื่นลงคอ อร่อยจับใจ ติ่งกระเพาะสั่นระรัววววววว จัดเต็มไปอีกสามดอกกก หมดจาน!!!! ได้อารมณ์คล้ายๆ ผักโขมอบชีสเล็กน้อย แต่หอมกรุ่นกว่านัก
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/417631_10150655267146844_733516843_11163765_820803999_n.jpg
จานหลักที่สอง.....เปน "ทูน่าจี่ร้อนสุกนอกแบมีเดียมแรร์ (ผมอยากได้แบบเกือบดิบๆ) เสริฟมาพร้อมกับมันอบก้อน(เรียกชื่อมะถูก)กับหอมใหญ่ดองราดซอสซีอิ้วดำหวาน"
ทูน่าถูกคลุกมาด้วยงาดำ-ขาวหอมกรุ่น เสียแต่เนื้อนั้นน่าจะดิบกว่านี้ แต่ว่าที่ร้านไม่ได้เพราะลูกค้า(ที่มากะเค้า)ขอให้เปนมีเดียมแรร์ คำแรกที่ใส่ปากเคี้ยว ส่วนดิบ เนื้อทูน่าจะนุ่มกัดแล้วจมลงทั้งเขี้ยวแต่ส่วนสุกจะแข็งไปสักนิดแต่ก็ชดเชยมาด้วยความกรุบกรอบหอมกรุ่นจากงาดำ-ขาว ที่คั่วมาใหม่ๆ รสเค็มปะแล่มๆเสริมความหวานของเนื้อทูน่า ทำให้ชูรสทูน่าขึ้นมากลบงาคั่วกลับไป-มา ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ แกล้มด้วยหอมใหญ่ดอง....เปรี้ยว เค็มหวานจัด ตัดกับความละมุนของเนื้อทูน่าอย่างไร้ความเกรงใจ แต่........อาาาาาาาหย่อยยยยยยยอ๊าาาาาาาาาา!!!!
http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/396648_10150661474896844_733516843_11182446_1950071_n.jpg
!!!!! ความเอร็ดเข็ดฟันยังไม่หมดแค่นั้น อาหารจานนี้เสริมมาพร้อมกับ "มันบดปรุงรสอบกรอบนอกนุ่มในหอมกลิ่นชีสไปทุกอณูเนื้อ" ซึ่งตอนแรกผมผ่าน..........ไม่สนใจ อยู่นอกสายตา ไม่กิน ไม่แจ่ม ไม่น่ากิน กูอิ่ม.....แต่เมื่อได้ลองชิมตามคำคะยั้นคะยอ กลิ่นไม่ได้หอมออกมาเตะจมูกแต่ รสชาติ..........เฮ้ย!!! มันใช่เลย มันใช่เล้ยยยย!!!!!!!!!
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/406398_10150655268991844_733516843_11163770_1950858062_n.jpg
เนื้อมันฝรั่งที่ผ่านการบดกับชีสราวครึ่งต่อครึ่ง คลุกเคล้าจนเปนเนื้อเดียวกัน จับปั้นเปนก้อนอบจนข้างนอกกรอบเกรียมเหลืองกรุบแน่ข้างในฉ่ำนัก ระหว่างอบทาเนยไปจนตลอด กลิ่นชีสผสมผสานกับกลิ่นหอมของมันบดแบบแยกไม่ออก รสเค็มอ่อนๆปะปนเป เซแซร่ดๆ มาพร้อมๆกัน เมื่อเข้ามาในปากมันละลายๆปกับน้ำลายที่ไหลพรากๆมารออยู่แล้ว ผิวเกรียมๆกรอบกรุบ เคี้ยวมันฟัน อ่าาาาา........สุขี มีอยู่จริง!!!! ฟันธง!!!!
ยังครับ.... ยังไม่จบ สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพตะหาน
จานหลักจานสุดท้าย เพิ่งยกออกมาเสริฟ ด้วยความอิ่มทำให้จานนี้ดูด้อยไปถนัดตาถนัดพุง
"เป็ดย่างหนังกรอบราดซอสเกรวี่" รสชาตลงตัวเข้าเนื้อดีครับจานนี้ ที่สุดๆ คือ แม้จะราดเกรวี่มาแล้ว เนื้อเป็ดนุ่ม เหนียว เคี้ยวแล้วละลาย......แต่หนังเป็ดยังกรอบบบบบบ กรึบๆ กรุบๆ กรับๆ !!!!!! อร่อยมากครับแต่อิ่มจนลืมสัมผัสรสชาติเต็มๆของเป็ดจานนี้
http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/427375_10150655270191844_733516843_11163776_1369300639_n.jpg
พักดื่มชาคาโมมายด์ อีกเหยือก ท้องก็ร้องเรียกหาของหวาน........เลยขออนุญาตปิดการบำเรอกระเพาะครั้งนี้ด้วย "ชีสเค็ก ราดแพสชั่นฟรุต"
http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/429674_10150661476021844_733516843_11182453_1670445353_n.jpg
บรรยายไม่ถูก ชีสดูเหมือนแข็งแน่นนุ่มละลาย แผ่นแครกเกอร์กรอบกรุบเคี้ยวแล้วละเอียดแหลกคาฟัน ความเปรี้ยวของเสาวรสผสมผสานกับความหวานมันของชีสกำลังพอดีๆ ชูรสบำรุงพุงมาด้วยวิปครีมสดปรุงรสก้อนโต เปนการปิดเมนูย่ำค่ำนี้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/399846_10150661475601844_733516843_11182449_43622462_n.jpg
จบจานนี้แล้วร่ำลาขึ้นเตียงนอนพร้อมความสุขแห่งสุนทรียรสของอาหารที่ ในชีวิตนี้ ควรมาชิมสักครั้งนึงครับ
ฟันธง!
แต่.....เดี๋ยวก่อน....!!!!
ยามเช้าก่อนออกเดินทางกระตุ้นสมองให้สดชื่นด้วยกาแฟหอมกรุ่นแบบนี้ครับ
http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/422450_10150655264331844_733516843_11163745_385401598_n.jpg
อ่อที่เล่ามาทั้งหมด สนนราคาค่าอาหาร(เย็น+เช้า) ราว ๑,๖๐๐ บาท เท่านั้นครับ!!!ถูกกว่าไปกินซิสเลอร์พร้อมกันสี่คนเสียอีกคร้าบบบบบ พี่น้องงงงงงง!!!
ปิดครัวววววววววววววววว!!!!!!!!!
สำหรับหลายๆคนที่เคยมีโอกาสเดินทางมายังแดนดินถิ่นล้านนา ณ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ คงได้รับการบอกเล่าถึงอาหารอร่อยๆ ขั้นสุดยอดในแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเปน ข้าวซอยร้านต่างๆ เค้กร้านโน้นร้านนี้ อาหารเมือง ขันโตกอันเปนเอกลักษณ์แห่งล้านนา.......
ผมเปนคนหนึ่งที่เคยอยู่เชียงใหม่มาหลายปีและหลังจากกลับไปอยู่ที่ภูมิลำเนา ก็ยังได้เดินทางกลับมาเยือนแดนดินถิ่นล้านนาปีละหลายๆครั้งด้วยกัน ทั้งมาทำงาน มาเที่ยว หรือแม้แต่มาพักผ่อนส่วนตัว.....
คราวนี้ การเดินทาง เปนการพาลูกค้า โคตะระ ดับเบิ้ล พลัส ทริปเปิ้ล วีไอพี บวก บวก สองท่าน ขับรถเลาะและมารายทางจากกทม โดยมีจุดหมายในการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และเยือนเรือนสหายเก่าของทั้งสองท่าน
ในค่ำคืนจันทร์ครึ่งดวง.....รอยต่อระหว่างเดือนมกราคมกับเดือนกุมภาพันธ์ คณะของพวกเราได้มีโอกาสเดินทางมาพักที่ "เชียงดาว เนส 1 : chiangdoa nest 1" ตามคำแนะนำของเจ้าถิ่นที่วันนี้มาสมทบในการเดินทางท่องเที่ยว.....
หลังจากออกจากถ้ำเชียงดาวในเพลาโพล้เพล้ ก็บ่ายหน้าหันเข้าสู่ป่าเชิงดอยหลวงเชียงดาว เข้าสู่ เชียงดาวเนส1
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/418910_10150661474216844_733516843_11182440_1436899136_n.jpg
http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/425105_10150650876126844_733516843_11151365_1019985194_n.jpg
http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/395611_10150650876031844_733516843_11151364_2037881003_n.jpg
http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/425718_10150650875921844_733516843_11151363_1146871246_n.jpg
ในคราวแรก ..... ไม่ได้คาดหวังอะไรไว้เลยทั้งในส่วนของที่พักและอาหารการกิจเพราะอิ่มมากมายมาจากร้านอาหารเวียดนาม "ปัญจรีย์" หน้าสนามกีฬาล้านนา ก็เลยชิวๆ นั่งกระแทก "หมาใจดำ" เหล้าพื้นเมืองขึ้นชื่อของเวียงเชียงใหม่กันเพื่อเผาหัว เจ้าถิ่นเสนอว่าเราควรทานอาหารของที่นี่เพราะเปนอาหารฝรั่งที่อร่อยมากกกกก
"ฝรั่ง!!!!" กูเกลียดฝรั่ง.....แต่ไม่เกลียดอาหารฝรั่ง กินได้ๆๆ ผมนึกในใจ
แต่ลูกค้าคนนึงทำตาละห้อยแววตามเศร้าสร้อย น้ำตาคลอ เพราะตั้งใจอยากชิม "ขาหมู เชียงดาว" อย่างเต็มที่ ก็เลยต้องจรลีออกไปหาของประกอบการละเลียดหมาใจดำ เลยออกไปจัดขาหมู เชียงดาวพร้อมหมั่นโถร้อนๆ มาบำเรอลูกค้าวีไอพีทั้งสามกันก่อน......
หลังจากขาหมูหอมๆนุ่มๆละลายในปากไม่ละลายในพุง ถุงเบ่อเร่อ ย้ายสำมะโนครัวไปสามัคคีกับหมั่นโถลูกโตครึ่งโหล ในพุงน้อยๆของคณะทั้งสี่แล้ว.....ก็ได้เวลาที่จองโต๊ะเอาไว้ 1930 น.
"อิ่มอ่ะ ไม่กินได้มั้ยข้าวเย็น" บางคนเริ่มโอด....
"ไม่ได้ๆ อาหารที่นี่อร่อยมากควรต้องกิน มีเนื้อกวางนิวซีแลนด์ด้วย" เจ้าถิ่นที่เดินไปสอบเมนูอาหารรีบสรุปพร้อมฉุดกระชากลากถู เพื่อนเลิฟทั้งสองให้ลุกจากระเบียงหน้าบ้านมุ่งหน้า ครัวน่ารักๆ ที่เดินผ่านมาเมื่อเย็น ส่วนผมนะเหรอ เดินนำไปตั้งแต่ได้ยินคำว่า "เนื้อกวางนิวซีแลนด์แล้ว"
พอถึงโต๊ะอาหาร คนไทยกลุ่มเดียว นอกนั้นฝรั่งราวสามสิบคน ก็ทำตัวเขินๆเดินไปนั่งแบบกระมิดกระเมี้ยน พอนั่งได้ก็หันไปดูเมนูซึ่งที่นี่จะเขียนไว้บนกระดานดำ ใจแทบสลาย เนื้อกวางนิวซีแล่นนนนน หมด!!!!!!!!
แม้จะเดินมาด้วยความไม่คาดหวังเพราะว่าอิ่ม ขาหมูหมั่นโถ แต่........ก็นะเลยจัดอาหารมา "หก" อย่าง แบ่งๆกันชิมแบบสามัคคี ไม่แยกจากกัน เริ่มจากเครื่องดื่ม
ผมเองชื่นชอบเครื่องดื่มอุ่นๆ เลยสั่งชาคาโมมายด์ เพราะคืนนี้อยากหลับสบายๆ ส่วนที่เหลือสั่งน้ำเปล่า แต่.....ทางร้านน่ารักมาก นำ เฮาส์ไวน์นำเข้าจากออสเตรเลียมาให้ชิม สองแก้ว ขาวแก้วแดงแก้ว .... ผมไม่ถนัดชิมไวน์ เลยดมๆ ดูดๆ กลั้วๆอยู่ในปาก ให้หอมขึ้นจมูก ดม ชม ชิม แล้วสรุปว่า...สุโค่ยหว่ะ!!!! แต่ไม่สั่งเพราะ "หมาใจดำ" กำลังเห่าบ๊อกๆ ในกระแสเลือดกันให้ขรมไป!!!!
http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/398643_10150652738626844_733516843_11156292_1287132084_n.jpg
พอชาคาโมมายด์มาถึง.....บรรจงรินเบาๆ ไอกรุ่นร้อนๆพลุ่งพล่านขึ้นมาจากพวยกาและแก้วชาใบโต....กลิ่นหอมละมุน ลอยขึ้นมาสัมผัสจมูก ให้ความรู้สึกเหมือนโดนจุมพิศจากริมฝีปากเรียวนุ่มของสาวรุ่นที่มิเคยต้องมือชาย......ยกแก้วชาจิบเบาๆ...รสหวานอ่อนๆ ผสมปนเปมากับรสขมจางๆนัวอยู่รอบๆลิ้น นุ่มนวลอยู่ในช่องปาก กลืนชาลงคอหมดแล้วรสและกลิ่นของชายังคงอวลอยู่ในช่องปากช่องจมูกอยู่สักพักนึง.....มารู้ทีหลัง หลังจากเปิดกาขึ้นดูกากชา....ว้าวๆๆๆๆ .... เปนชาผสมเองและเมื่อสอบถามเจ้าของเมื่อเธอเข้ามาชวนพูดคุยสอบถามแล้วปรากฏเปนชาคาโมมายด์ออแกนิค....อืมมม!!!! ละมุนละม่อม กลมกล่อม เกินบรรยาย
http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/422161_10150655270571844_733516843_11163777_896849497_n.jpg
ระหว่างนี้ มีเฟรนฟรายและผักสดหั่นแท่งมาเสริฟพร้อมน้ำสลัดปรุงรสและมะเขือเทศปรุงเปนซอสสด รสชาตลงตัวมากมาย
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/421991_10150655264806844_733516843_11163747_1133879866_n.jpg
รอไม่นานเกินรอ Starter ที่เลือกไว้จานแรกก็มา ผมเองได้กินซุปฟักทองมาหลายที่ ก็พอจำได้กับรสชาติที่อร่อยหวานมันของซุปชนิดนี้ ทันทีที่เห็นหน้าตา เฮ้ย พอไปวัดไปวาได้....จัดแจงบรรจงตักรินลงลิ้นระริกที่พลิกไปมา....ทันที!!!!!!
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/421073_10150655265536844_733516843_11163752_145260930_n.jpg
แวบแรกที่ช้อนซุปยกมาใกล้ปาก กลิ่นที่คุ้นชิน...แต่ไม่คุ้นว่าเคยปรากฏอยู่ในซุปฟักทองที่เคยกินมาจากที่ไหน กลิ่มหอมอ่อนๆของขิง ที่ผสมมากับซุปฟักทองที่ทำจากฟักทองโครงการหลวง อวลอยู่ในปากทันทีที่ป้อนเข้ามาในปาก หอมและขิงแต่ไม่เผ็ด.....ที่สำคัญ ไม่กลบความหวานมันและกลิ่นฟักทองเลย รสชาติหวานมันไม่เลี่ยนแต่ให้ความรู้สึกแน่นๆในแต่ละช้อนยามป้อนเข้าปาก จะละลายหายไปพร้อมกับกลิ่นจางๆของขิงที่มีเนื้อพอแล่นใบที่ฟุ้งหายไปในลมหายใจ....เมื่อพินิจดีๆแล้ว มีกลิ่นของเบคอนบางๆ มาช่วยชูรส ผสมความลงตัวให้ซุปจานนี้แบบงงงัน.....เฮ้อ....นี่แค่จานแรก
ซุปฟักทองยังไม่ทันหมด......starter จานที่สองก็ถูกยกมาเสริฟตรงหน้า....
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/430772_10150655266451844_733516843_11163759_912167368_n.jpg
...ว้าว ไอ้จานนี้หล่อเลยอ่ะ "แซลมอนรมควันยัดไส้มาด้วยชีสปรุงรส เคียงมาด้วยผักสลัดสดกรอบหวานกรุบกริบ"
เมื่อตัดแยกชิ้นแซลมอนพอคำมาพร้อมกับไส้ชีสก้อนโต หุ้มห่อด้วยสลัดใบสวยขนาดพอคำ บีบมะนาวลงใส่สองสามหยด กลิ่นของชีส บวกน้ำมะนาวหอมฟุ้ง กลบกลิ่นแซลมอนรมควันแทบสนิท.....แต่พอใช้ส้อมจิ้ม สตาร์ทเตอร์ก้อนนี้เข้าปาก ....
กลิ่นแรกที่อวลขึ้นในปากกลับเปนกลิ่นของแซลมอนรมควัน ยิ่งพอเนื้อแซลมอนแตะลิ้นความนวลนุ่มของแซลมอนระริกอยู่ที่ผิวลิ้นประดุจสายไหมโดนลิ้นที่ชุ่มชื้น เหมือนแซลมอนที่เปนริ้วๆหนาด้วยไขปลาจะละลายลงคอไม่ต้องเคี้ยวเลยทีเดียว
ลงฟันไปเตมเขี้ยว ชีสทะลักทะล้นออกมาปะปนกับแซลมอนเพิ่มความละไมลิ้นจนยากจะเอ่ยบรรยาย คำเดียวนี้เคี้ยวอยู่ราวสี่นาที เพราะไม่อยากกลืน.....ลิ้นยังระรื่นอยู่กับรสชาติระดับ เมพขิงขิง
อาหารจานหลักจานแรก เดินทางมาถึง......ข่าวว่าเริ่มฮิตในหมู่คนไทย เมื่อคราว"ครูกุ๊ก" ออกมาโลดแล่นอยู่บนจอแก้ว ไทยทีวีช่องสาม เพราะเปนอาหารที่ปรากฏอยู่ในฉากการสอนทำอาหารระหว่างพระเอกกับนางเอก....
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/429234_10150661474416844_733516843_11182441_146585363_n.jpg
"ซูเฟรย์" ... หน้าตาไอ้หมอนี่....ดูดีไม่เบา จึงบรรจงจ้วงส้อมตัดขึ้นมาเปนชิ้นพอคำ.....ความหอมจากผิวชีสที่ีเดือดปุด...ดูเหมือนจะโดนไฟร้อนแผดเผามาจนเกรียมกรุ่นผุดขึ้นมาทักทายก่อนใคร ความนุ่มของชีสสำแดงความกะล่อนไหลลื่นไปตามลิ้นที่บดอัดขึ้นไปกระทบกับเพดานปากด้านบน จนกระจาย!!!!!! ไหลลื่นลงคอ อร่อยจับใจ ติ่งกระเพาะสั่นระรัววววววว จัดเต็มไปอีกสามดอกกก หมดจาน!!!! ได้อารมณ์คล้ายๆ ผักโขมอบชีสเล็กน้อย แต่หอมกรุ่นกว่านัก
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/417631_10150655267146844_733516843_11163765_820803999_n.jpg
จานหลักที่สอง.....เปน "ทูน่าจี่ร้อนสุกนอกแบมีเดียมแรร์ (ผมอยากได้แบบเกือบดิบๆ) เสริฟมาพร้อมกับมันอบก้อน(เรียกชื่อมะถูก)กับหอมใหญ่ดองราดซอสซีอิ้วดำหวาน"
ทูน่าถูกคลุกมาด้วยงาดำ-ขาวหอมกรุ่น เสียแต่เนื้อนั้นน่าจะดิบกว่านี้ แต่ว่าที่ร้านไม่ได้เพราะลูกค้า(ที่มากะเค้า)ขอให้เปนมีเดียมแรร์ คำแรกที่ใส่ปากเคี้ยว ส่วนดิบ เนื้อทูน่าจะนุ่มกัดแล้วจมลงทั้งเขี้ยวแต่ส่วนสุกจะแข็งไปสักนิดแต่ก็ชดเชยมาด้วยความกรุบกรอบหอมกรุ่นจากงาดำ-ขาว ที่คั่วมาใหม่ๆ รสเค็มปะแล่มๆเสริมความหวานของเนื้อทูน่า ทำให้ชูรสทูน่าขึ้นมากลบงาคั่วกลับไป-มา ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ แกล้มด้วยหอมใหญ่ดอง....เปรี้ยว เค็มหวานจัด ตัดกับความละมุนของเนื้อทูน่าอย่างไร้ความเกรงใจ แต่........อาาาาาาาหย่อยยยยยยยอ๊าาาาาาาาาา!!!!
http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/396648_10150661474896844_733516843_11182446_1950071_n.jpg
!!!!! ความเอร็ดเข็ดฟันยังไม่หมดแค่นั้น อาหารจานนี้เสริมมาพร้อมกับ "มันบดปรุงรสอบกรอบนอกนุ่มในหอมกลิ่นชีสไปทุกอณูเนื้อ" ซึ่งตอนแรกผมผ่าน..........ไม่สนใจ อยู่นอกสายตา ไม่กิน ไม่แจ่ม ไม่น่ากิน กูอิ่ม.....แต่เมื่อได้ลองชิมตามคำคะยั้นคะยอ กลิ่นไม่ได้หอมออกมาเตะจมูกแต่ รสชาติ..........เฮ้ย!!! มันใช่เลย มันใช่เล้ยยยย!!!!!!!!!
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/406398_10150655268991844_733516843_11163770_1950858062_n.jpg
เนื้อมันฝรั่งที่ผ่านการบดกับชีสราวครึ่งต่อครึ่ง คลุกเคล้าจนเปนเนื้อเดียวกัน จับปั้นเปนก้อนอบจนข้างนอกกรอบเกรียมเหลืองกรุบแน่ข้างในฉ่ำนัก ระหว่างอบทาเนยไปจนตลอด กลิ่นชีสผสมผสานกับกลิ่นหอมของมันบดแบบแยกไม่ออก รสเค็มอ่อนๆปะปนเป เซแซร่ดๆ มาพร้อมๆกัน เมื่อเข้ามาในปากมันละลายๆปกับน้ำลายที่ไหลพรากๆมารออยู่แล้ว ผิวเกรียมๆกรอบกรุบ เคี้ยวมันฟัน อ่าาาาา........สุขี มีอยู่จริง!!!! ฟันธง!!!!
ยังครับ.... ยังไม่จบ สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพตะหาน
จานหลักจานสุดท้าย เพิ่งยกออกมาเสริฟ ด้วยความอิ่มทำให้จานนี้ดูด้อยไปถนัดตาถนัดพุง
"เป็ดย่างหนังกรอบราดซอสเกรวี่" รสชาตลงตัวเข้าเนื้อดีครับจานนี้ ที่สุดๆ คือ แม้จะราดเกรวี่มาแล้ว เนื้อเป็ดนุ่ม เหนียว เคี้ยวแล้วละลาย......แต่หนังเป็ดยังกรอบบบบบบ กรึบๆ กรุบๆ กรับๆ !!!!!! อร่อยมากครับแต่อิ่มจนลืมสัมผัสรสชาติเต็มๆของเป็ดจานนี้
http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/427375_10150655270191844_733516843_11163776_1369300639_n.jpg
พักดื่มชาคาโมมายด์ อีกเหยือก ท้องก็ร้องเรียกหาของหวาน........เลยขออนุญาตปิดการบำเรอกระเพาะครั้งนี้ด้วย "ชีสเค็ก ราดแพสชั่นฟรุต"
http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/429674_10150661476021844_733516843_11182453_1670445353_n.jpg
บรรยายไม่ถูก ชีสดูเหมือนแข็งแน่นนุ่มละลาย แผ่นแครกเกอร์กรอบกรุบเคี้ยวแล้วละเอียดแหลกคาฟัน ความเปรี้ยวของเสาวรสผสมผสานกับความหวานมันของชีสกำลังพอดีๆ ชูรสบำรุงพุงมาด้วยวิปครีมสดปรุงรสก้อนโต เปนการปิดเมนูย่ำค่ำนี้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/399846_10150661475601844_733516843_11182449_43622462_n.jpg
จบจานนี้แล้วร่ำลาขึ้นเตียงนอนพร้อมความสุขแห่งสุนทรียรสของอาหารที่ ในชีวิตนี้ ควรมาชิมสักครั้งนึงครับ
ฟันธง!
แต่.....เดี๋ยวก่อน....!!!!
ยามเช้าก่อนออกเดินทางกระตุ้นสมองให้สดชื่นด้วยกาแฟหอมกรุ่นแบบนี้ครับ
http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/422450_10150655264331844_733516843_11163745_385401598_n.jpg
อ่อที่เล่ามาทั้งหมด สนนราคาค่าอาหาร(เย็น+เช้า) ราว ๑,๖๐๐ บาท เท่านั้นครับ!!!ถูกกว่าไปกินซิสเลอร์พร้อมกันสี่คนเสียอีกคร้าบบบบบ พี่น้องงงงงงง!!!
ปิดครัวววววววววววววววว!!!!!!!!!