View Full Version : ว่าด้วยการเอาตัวรอด(survival)แบบไทยๆ....(กระทู้เก่า)
กระทู้เก่า เสียดายถ้าสูญหายไป เขียนใหม่ยาก;)
ผมเคยได้อ่านในหลายกระทู้เก่าที่พี่ๆ ได้เอามาลงในไทยเบลดเกี่ยวกับเรื่อง Survival หรือการเอาชีวิตให้รอดจากสถานการณ์ต่างๆ โดยมากจะเป็นภาษาอังกฤษ หรืออ้างอิงมาจากฝรั่ง ซึ่งเรื่องต่างๆมีประโยชน์อย่างยิ่ง
แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่ เหตุการณ์ อุปกรณ์ และปัจจัยที่แตกต่าง
เลยขอเขียนแบบบ้านนอกดูสักครั้ง
ณ บรรทัดนี้ต้องขออนุญาตบอกก่อนว่า ผมไม่ได้ร้อนวิชานะครับ ที่ดันเอามาเขียนลงอีกครั้ง
ไม่ได้เมา ไม่ได้เพี้ยน ไม่ได้เก่ง เพียงแค่อยากเรียบเรียงประสบการณ์กว่า ยี่สิบปีเต็มที่ต้องอยู่......ทำงานในป่าและทะเลเมืองไทย และประเทศเพื่อนบ้านทั้ง ๔ มาเล่าสู่กันฟัง.......ซึ่งน่าจะพอมีประโยชน์บ้าง มันก้อเพียงเท่านั้น
แต่ก่อนอื่นลองมาลับสมองตอบคำถามกันเล่นๆ ก่อนว่า อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง และคุณจะทำอย่างไร ถ้า
๑ ถ้า กรุงเทพและปริมณฑลเกิดไฟดับสามวันเต็มๆ
๒ ถ้าเกิดไปเดินป่ากับเพื่อนได้ ๒ วันแล้วดันหลงทางคนเดียว
๓ ถ้าไปเที่ยวเกาะขากลับเรือดันโดนพายุและคลื่นซัดล่ม
๔ ถ้าเครื่องบินตกบนโลก(ป่าก็ได้ ทะเลก็ดี)......แต่ดันรอดแค่ถลอก ขัดยอกนิดหน่อย
ได้คำตอบแล้วเก็บไว้ในใจฟังผมฝอยต่อไป
หลักในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆ นั้นสำหรับผม
๑ อย่าลืมสติ ต้องมีสติตลอด คุณอาจจะตระหนกตกใจได้เพียงชั่วแว้บ แต่หลังจากนั้นคุณจะต้องประเมินสถานการณ์ และหาทางแก้ไข
ข้อนี้พูดง่ายแต่ทำยาก ตรงนี้ถ้าคนที่เคยผ่านสถานการณ์ยากๆมาก่อนจะเข้าใจ การตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์นั้นไม่เกิดประโยชน์ ช่วงเวลานี้เราควรเอามาไตร่ตรองว่าเราจะทำอะไรบ้าง
ก่อนไปไหนมาไหนหรือทำงานเสี่ยงใดๆ ผมมักจะจินตนาการว่าถ้า.....เกิดเหตุการณ์นี้.....เหตุการณ์นั้น...แล้วผมจะทำอะไรบ้าง
จากเหตุการณ์จริงแบบเด็กๆ เช่น งานหนึ่ง ผมไปกับคู่หู ๒ คน ทางเรือ นัดหมายกับคนอื่นๆ ว่าวันพรุ่งนี้ที่แก่งหินแห่งหนึ่งในแม่น้ำสายหนึ่งตอนใต้เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าแห่งหนึ่งมาราวสิบ กม แถมเป็นหน้าฝน ก่อนหน้าได้สอบถามไปยังเขื่อนว่าวันนี้จะมีการปล่อยน้ำ ฤ ปล่าว คำตอบคือไม่มี ถ้ามีก็ให้ช่วย ว วิทยุ แจ้งให้ทราบล่วงหน้าด้วย...
ไปถึงที่หมายบ่ายแก่ๆ ทำเลเหมาะ เป็นแก่งหินขนาดกว้างขวางลำน้ำอยู่ มีต้นไม้ผูกเปลนอนกลางแก่งสบาย มีร่องรอยคนมานอนประจำ......ได้ที่แล้วก็เอามันบนแก่งละหว่า แสนสุขสบาย......ปลอดภัย
ก่อนนอนคิดว่าเอ้ ถ้าเขื่อนมันดันพิเรนทร์ปล่อยน้ำมากลางดึกตูจะทำอย่างไรหว่า
อีกใจหนึ่งก้อว่า...ไม่น้า มันบอกแล้วว่ามันไม่ปล่อย......คิดได้ดังนั้นก้อหลับแต่ทุ่มกว่าๆ
หลับไปหลับมาดันฝันว่าเขื่อนปล่อยน้ำมา ในฝันผมก้อทำอย่างที่วางแผนไว้ เก็บอุปกรณ์สำคัญต่างๆแล้วลากเรือขึ้นบก
สามทุ่มกว่าได้ยินเหมือนเสียงฝนตก คู่หูก้อนอนไม่รู้เรื่อง เอามือโผล่ออกจากผ้ากันฝนไปดูเอ๊ะ ก้อไม่เปียกนี่ ทีนี้ผมฉวยไฟฉายลงจากเปลพอขาแตะพื้นน้ำ ก้อเพียงเข่าแล้วครับ ผมไม่ลังเลที่จะทำตามฝันและที่คิดไว้ทันที
เรื่องน้ำป่าก็โดนมาพอควร......ฝากไว้ก่อนเด๋วจะไปไม่ถึงฝั่ง
๒ อย่าคิดว่ากูเก่ง...กูแน่...... ดวงดี ยังไงก็รอด
๓ ใช้เหตุและผลในการคิดและคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ เมื่อตัดสินใจแล้วอย่าลังเลกลับไปกลับมา จงทำให้สำเร็จ
๔ ในกรณีมีผู้เผชิญภัยด้วยกันหลายคนจงประเมินและวิเคราะห์คนต่างๆ ด้วยความรอบคอบและรวดเร็วเพราะว่าพื้นฐานแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนดีแต่คุย พอเอาจริงแบบว่า....ไม่เข้าท่าหรือทำไม่เป็น บางคนขี้ขึ้นสมอง
สถานการณ์นี้ต้องการผู้นำในการตัดสินใจและนำให้ทำตาม
แต่ถ้ามีผู้นำที่ดีกว่า จงเคารพผู้นำและปฏิบัติตาม
แต่ถ้าช่วยกันคิดช่วยกันนำก้อจงรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน อย่าเถียงกันหรือเสียเวลาไปกับการถกเถียงไร้สาระ
ผมคิดเล่นๆโดยเนื้อแท้ของมนุษย์ส่วนใหญ่แล้ว กลัว กลัวในสิ่งที่ไม่รู้จักและเคยรู้จัก เช่น การตาย และการเจ็บ
ก่อนตายทั้งที่ยังไม่ตายบางคนก้อจินตนาการไปว่ามันคงหรืออาจจะต้องเจ็บทรมาน หรือไม่รู้ตัว
๕ รู้จักคิด ดัดแปลง หยิบฉวย สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว รอบตัว มาใช้ให้เกิดประโยชน์
๖ ยังคิดไม่ออก
๗ จงยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องเผชิญ อย่าท้อแท้สิ้นหวัง มองโลกในแง่ดี และจงสนุกสนานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเราจะได้ผจญมันต่อไป
ของเสริม คุณควรจะเรียนรู้ที่จะทำอะไรบางอย่างให้เป็นบ้าง เช่น ก่อไฟ หรือก่อไฟกับฟืนเปียกๆ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น หุงข้าวด้วยฟืนหรือแก๊สแบบไม่เช็ดน้ำ รู้จักต้นไม้ที่พอกินได้ในป่าสักสองอย่าง ฯลฯ......และอย่าเป็นคุณหนูหรือคุณชาย
ฝอยมาเยอะแล้ว หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมไม่พูดถึงอุปกรณ์เลย
กำลังจะพูดถึงพอดีครับแต่ผมอยากจะเน้นถึงการใช้สติกะสมองก่อนอุปกรณ์ หากมีอุปกรณ์ที่ดีมากๆ แต่คนใช้สติแตกก้อเปล่าประโยชน์
ในส่วนอุปกรณ์นี้ผมคงจะแยกประเภทของการใช้สอยหรือเดินทางหน่อยนะครับ
อุปกรณ์ที่ควรมีหรือติดตัวส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานเดียวกันต่างกันที่กาละในความต้องการใช้ประโยชน์
ชุดนี้ขอจัดเป็นชุดพื้นฐานของทุกชุดนะครับ ใช้ได้ทั้งในป่าและในเมือง
ไอ้นี่ครับตามรูป
คีมเอนกประสงค์ ผมเลือกชุดนี้ครับ เพราะได้มาฟรี ทำหายไปชุดนึงแล้ว ดูภาพเอานะครับมันครอบคลุมการใช้งานเกือบหมดทุกอย่าง ตะไบละเอียดของตัวนี้ใช้ลับและแต่งคมมีดเหล็ก D2 ได้ มีดไร้จันทร์โดนไปหลายเล่มแล้ว
http://img246.imageshack.us/img246/1352/80021243be8.jpg (http://imageshack.us)
ไฟแช็คอย่างน้อย ๒ อัน(เผื่อบอด)
http://img136.imageshack.us/img136/3376/10023825il7.jpg (http://imageshack.us)
ไฟฉายเอาแบบหลอด LED จะดีที่สุดเลือกแบบข้างในมีหลายหลอดและควรลงทุนใช้ของดี อันนี้ก้อได้มาฟรีใช้ถ่าน AAA ๓ ก้อนใช้ต่อเนื่องได้ถึง ๒๔ ชม โดยใช้กำลังไฟสูงสุด(ทดสอบแล้ว)ในแค็ตตาล็อคมันว่าได้ ๔๐ ชม
โหมดประหยัดไฟได้ ๑๒๐ ชม (ยังไม่ได้ลอง) แต่แค่นี้ก้อพอแล้ว ไฟฉายจำพวกโชฟายแบบใช้ถ่าน CR123 ไม่แนะนำให้ใช้ เนื่องจากมันกินถ่าน แม้ไฟจะสว่างกว่าก้อจริงแต่เราไม่มีความจำเป็นขนาดที่จะใช้งานแบบนั้น ผมเคยใช้ในสถานการณ์จริง เปิดต่อเนื่องเดินตากฝน ๑ ชม หมด (ดีจริงแต่กินถ่าน ถ่านก้อแพงก้อนละ ร้อยกว่า)
http://img85.imageshack.us/img85/8030/95860811ts1.jpg (http://imageshack.us)
เทปพันสายไฟ ใช้ได้สารพัดประโยชน์ อยู่ที่ผู้ใช้จะนึกออก ซึ่งผมเองก็เอามาใช้แทนพลาสเตอร์ในการห้ามเลือดและปิดแผลมาแล้ว ถ้าคิดว่าพกเป็นม้วนเกะกะก้อเอามาพันกับอะไรก้อได้เช่น ไฟแช็ค ซองมีดพับ ปลายหรือหัวเข็มขัดที่ซ่อนปลายหรือหัวไว้ด้านใน
เข็มกลัดซ่อนปลาย เอาอันขนาดใหญ่หน่อยที่พอพกใส่ในกระเป๋าตังค์ได้สักสามสี่อัน อันนี้ใช้ประโยชน์ได้พอตัว โดยเฉพาะยามที่สาวกระโปรง-กางเกง-เสื้อปริ หรือตะขอหลุด นี่แหล่ะพระเอกตัวจริง ผมเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้หลายหน สาวๆ ถึงกับทึ่งว่าอีนี้คนนี้หล่อก้อหล่อ ล่ำก้อล่ำ ห้าวก้อห้าว เมาก้อเมา แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะรอบคอบขนาดพกเข็มกลัด
นึกออกแค่นี้ แถมด้วยที่ตัดเล็บอีกหนึ่ง
อุปกรณ์ที่กล่าวถึงข้างต้นนี้สามารถพกติดตัวไปไหนมาไหนได้ง่ายประเภทเช้าไปกลางคืนกลับควรพกไปด้วยนะครับ
รุ่นต่อไปประเภทเข้าป่าหรือทะเลไปนอนเล่น ย้ายที่กินเหล้า หรือ...........สองสามวัน
อุปกรณ์ต่อพ่วงจากชุดมาตรฐานที่อยากแนะนำหรืออยากให้หยิบไปด้วยมี
๑ ชุดปฐมพยาบาลขนาดเล็ก ตามรูป ชุดนี้พกเดินทางตลอดมีเข็มกับได้พร้อม เคยใช้ช่วยคนสองสามครั้ง
http://img204.imageshack.us/img204/5295/21405168ix5.jpg (http://imageshack.us)
๒ ยารักษาโรคขั้นพื้นฐานที่ไม่หมดอายุ
๓ ไฟฉายสำรองที่ใช้ถ่านขนาดเดียวกันกับไฟฉายหลัก
๔ ถ่านสำรอง
๕ มีดใหญ่ใช้งานหนัก(ไปทะเลอาจจะเป็นมีดแล่หรือมีดแคมป์)
๖ ถุงดำ(ไม่ได้เอาไว้ใส่ศพตัวเองนะครับ)หรือถุงพลาสติกที่ใหญ่เอาแบบหนาหน่อยสักสองสามใบ
๗ เสื้อกันฝนหรือเสื้อกันลมแบบหนาหน่อย
๘ คีมเอนกประสงค์ตามรูปข้างบน
๙ กระจกขนาดเล็กหรือตลับแป้งทาหน้าของกิ๊กเอาไว้ชะโงกดูเงาตัวเอง หลายท่านอ่านแล้วอาจจะคิดว่าผมสำอาง จริงๆแล้วพกเผื่อสาวๆมาขอ อิอิอิ ตรงนี้มันจะใช้เป็นกระจกสัญญาณในการสะท้อนแสงกรณีหลงป่าหรือติดเกาะ ให้เครื่องบินหรือเรือที่มาค้นหาเรา สามารถเห็นได้ไกลกว่า ๕ กม หลักการก้อง่ายมากกะเอาว่าสะท้อนกับแดดแล้วให้เขาเห็น ของนอกจะเป็นแผ่นโลหะทรงพาราโบล่าเจาะรูตรงกลางเวลาใช้ให้เล็งไปที่เป้าหมายโดยการสะท้อนกับแสงแดด
http://img204.imageshack.us/img204/8311/52785391tq8.jpg (http://imageshack.us)
๑๐ ขวดโออิชิ สองสามขวด เอาไว้ใส่น้ำดื่ม เนื่องจากมันแข็งเหนียวและเบา
๑๑ เชือกร่มขนาดเล็กไปจนถึงเชือกเปลยาวสัก ๓-๕ เมตร
๑๒ นึกไม่ออก
http://img91.imageshack.us/img91/4398/21887267mr7.jpg (http://imageshack.us)
ต่อไปที่อยากจะแนะนำเผื่อเป็นข้อคิดนะครับ
เวลาไปป่าหรือทะเลผมอยากให้นอนเปลและกางผ้ากันฝนมากกว่านอนเต้นท์
ทั้งนี้เนื่องจากป้องกันแมลงสัตว์กัดต่อยต่างๆ ได้ดีเวลาฝนตกแน่นนอนดีกว่าเต้นท์โข
ใช้ง่าย เก็บง่าย และแห้งเร็วกว่าเต้นท์(เปียกแค่ผ้ากันฝนถ้าโดนฝน)
ขนาดและน้ำหนักเบากว่าเต้นท์
ใช้เป็นแปลสนามในการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยได้
ถ้าฝนไม่ตกอากาศหนาวผ้ากันฝนเอามาห่มหรือห่อตัวกันหนาวได้
ผ้ากันฝนสามารถนำมาใช้ห่อสิ่งของสัมภาระและเป็นทุ่นในการข้ามลำน้ำหรือแหล่งน้ำต่างๆได้ แบบนี้ถ้าได้รับคำแนะนำหน่อยก้อทำได้ครับง่ายมากๆๆ
http://img91.imageshack.us/img91/2312/66017250pe2.jpg (http://imageshack.us)
เวลาหลงป่าใช้เป็นผ้าสัญญาณได้แบบนี้ครับ สามารถเห็นจาก ฮ. ได้ไกลไมต่ำกว่า ๖ กม.
http://img85.imageshack.us/img85/3971/84264217ya3.jpg (http://imageshack.us)
ถ้าถึงคราวจำเป็นใช้ห่อและเคลื่อนย้ายศพได้ แบบนี้
http://img527.imageshack.us/img527/1018/101ku2.jpg (http://imageshack.us)
จบข่าวเบื้องต้น ขอขอบพระคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกๆท่านที่สละเวลาติดตามครับ
หลงป่าทำไง:(
ตอบง่ายมากเลยครับว่าทำใจอิอิ
ผมว่าป่าที่พวกท่านทั้งหลายไปเที่ยวนั้นคงไม่ใช่เดินผ่าไปใจกลางป่าลึก
และการเดินไปเที่ยวค้างคืนในป่านั้นน่าจะมีเจ้าหน้าที่นำทาง คงไม่ดุ้ยดุ่ยเดินเข้าไปกันเอง
เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะหลงป่ายากมากๆๆ
เอาเป็นอันว่าผมหาเรื่อง ติต่างว่ามีเหตุอันต้องหลงป่าจริงๆ
เช่น เดินไปเจอช้างป่าแล้วต่างคนต่างหนี
หรือไปถ่ายหนักตอนเช้าไกลไปหน่อย...ต้องแสวงหาสถานที่เก็บกลิ่นและเสียงไว้ชื่นชมคนเดียว
หรือคนนำทางโดนงูกัดตาย
หรือคนนำทางหมั่นใส้แกล้งให้หลง
หรือคนนำทางเกิดแอบปิ้งกิ๊กที่พาไปด้วยวางแผนฉุดกิ๊ก
หรือเครื่องบินตกกลางป่าแล้วดันรอด
หรือฯลฯ....ล่ะ
ก่อนที่จะหลงผมแนะนำว่าเวลาเข้าป่าด้วยกันให้ท่านลองสังเกตรองเท้าคนนำทางกับเพื่อนที่เดินก่อนหน้าเราว่า
ใส่รองเท้าอะไร ลายที่พื้นเป็นอย่างไร
เป้คู่ชีพควรจะต้องมีอุปกรณ์ที่ได้กล่าวมาข้างต้นและอุปกรณ์ส่วนจะต้องแบกติดตัวตลอด
และห้ามขี้เกียจให้คนอื่นแบกให้เป็นอันขาด
น้ำตุนให้มากปกติเท่าตัวเวลาเข้าป่า ผมเองเวลาเข้าป่าพก ๔ ขวดครับ
ดื่มจริงๆ ทั้งวันแค่ขวดเดียว เหลือช่างมัน
ที่สำคัญที่สุดอย่าหวังน้ำบ่อหน้า เจอตุนๆๆๆๆๆ
น้ำในป่ากินได้หมดไม่ต้องกลัวติดเชื้อมาเลเรีย ผมดื่มน้ำในป่ามามากกว่า ๒๕ ปี ไม่เคยเป็นสักที
ซึ่งตามหลักมาเลเรียติดต่อโดยการโดนยุงก้นปล่องที่มีเชื้อกัด หรือทากที่มีเชื้อกัดเท่านั้น
น้ำขุ่นไม่ใส น้ำขังรอยตีนช้างก้อยังดีกว่าอด เจอน้ำดีแล้วค่อยเทเปลี่ยน
ตรงนี้เคยกินมาก่อนนะครับตอนผมไปทำงานในป่าที่มาเลเซีย เมื่อ ๑๕ ปีก่อน
พวกแขกมาเลเซียเขาไม่ยอมกินกันจะเอาแต่น้ำลำห้วยอย่างเดียว วันนั้นอดน้ำแต่สาย ผมเจอน้ำในรอยตีนช้าง
ขุ่นนิดหน่อยกินได้ก้อหลอกพวกแขกว่าให้เดินไปก่อน ขอไปหนักหน่อยเด๋วจะตามไป
จากนนั้นก็ค่อยตักน้ำใส่กระติกที่มีจนเต็ม แล้วก้อเดินตาม พอช่วงพักเที่ยงก็หลอกแขกว่าตอนไปหนัก ไปตัดเอาน้ำจากกระบอกไม้ไผ่ กระติกเราสีทึบพวกมองไม่เห็นก้อกระดกเอา กระดกเอา ........
ฝอยมากแล้วต่อ...
พยายามอย่าเดินหลับหูหลับตา ลองชื่นชมธรรมชาติและจดจำจุดเด่นต่างๆ โดยเฉพาะทางแยกต่างๆ
เวลาเดินควรจะจับคู่หูหรือบัดดี้แบบหลวมๆๆ
ไปไหนมาไหนให้บอกคู่หูและคนนำทางให้รอ อย่างน้อยจะได้ไม่หลงคนเดียว
พยายามทำเครื่องหมายที่แตกต่างบ้าง เช่น หักกิ่งไม้แบบบิดๆม้วนๆ ที่เรารู้ว่าเราทำ
เข้าเรื่องดีกว่า เอาเป็นว่าหลงแล้ว คนเดียวอีกต่างหากอันเนื่องจากเหตุผลต่างๆ
เช่น เพราะเธอว่าดีเกินไป อยากลองหลงดูสักครั้ง และฯลฯ
ขั้นแรกให้ร้องเพลงนี้ครับ
........ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว แต่ก้อยังยืนยันว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ ที่แล้วแล้วไป เพราะไม่คิด........
อย่างที่เกริ่นมา จะต้องมีสติหรือเรียกสติกลับมาโดยเร็ว
และผมขอแยกเป็น ๒ กรณีดังนี้
๑ ไปเป็นคณะใหญ่ กรณีนี้ให้หยุดอยู่กับที่ทันทีห้ามเดินต่อ
ลองกู่สัก ๓-๔ ครั้งแล้วรอฝังเสียงกู่กลับ
รอคนนำทางมารับ ห้ามเดินไปหาเสียงกู่ การกู่ให้ร้องกู่อยู่กับที่และทิศทางเดียวกัน
เวลาได้ยินเสียงกู่กับอย่าเพิ่งรีบกู่ ให้รอสัก ๓ วินาที เพราะคนมาหาจะได้ตั้งหลักหาต้นเสียงได้ก่อน
หลังจากนั้นกู่ทุก ๕ วินาที
กรณีที่กู่แล้วไม่มีเสียงตอบให้เล็งต้นไม้เหมาะๆ เพื่อมีสัตว์ใหญ่มาหาจะได้เผ่นทัน
เดินสำรวจรอบบริเวณไม่ต้องกว้างมากเอารัศมีสัก ๒๐ เมตรก้อพอ
หาที่ผูกเปลนอนในบริเวณนั้น ห่างทางด่านสัก ๕ เมตรก้อพอ
หาฟืนแถวนั้นๆ เตรียมก่อกองไฟ
ประหยัดน้ำให้มากที่สุด อาหาร รู้จักพืชที่กินได้แถวนั้นก็เก็บตุนได้
การทดสอบพืชที่รู้จักว่ากินได้ไหม ให้เด็ดมานิดเดียวลองเคี้ยวและเอาลิ้นแตะๆดูว่าคันหรือไม่เผื่อพลาด
เพราะพืชป่าบางชนิดรูปทรงและใบคล้ายหรือเหมือนกันมาก เช่น ผักหวาน ถึงตายได้
เพราะฉะนั้นอย่ากินพืชที่ไม่รู้จักและไม่มั่นใจจะดีที่สุด
อย่าเก็บเห็ดมากินเป็นอันขาด แม้ว่าจะรู้จักก็ตาม เพราะว่าเห็ดชนิดเดียวกันถ้ามันดันไปขึ้นบนขอนไม้ที่มีพิษกินแล้วจะลำบาก กรณีนี้แม้ชาวบ้านยังพลาดบ่อย ตายมาหลายรายแล้ว....ขอบอก
ทำกิจกรรมให้น้อยลงเพื่อประหยัดพลังงานและรอ
กรณีต่อไป
๒ ในกรณีที่ไม่มีใครมารับแน่ๆ กรณีนี้เกิดขึ้นยากมากๆ ถ้าคุณไม่ได้โดดร่มแบบพันน้องผู้น่ารัก(ตอนนี้ไม่รู้ว่าโดดไปไหน...)
หรือบินเดี่ยว หรือไปปฏิบัติภารกิจแบบต้องเอาตัวให้รอด
หรือมีความจำเป็นต้องเดินกลับคนเดียว หรือไม่ก้อซ่าส์หมาว้อไปเที่ยวป่าคนเดียวแล้วหลง
หรือฯลฯ โดยไม่มีแผนที่ และเครื่องบอกตำแหน่งจากดาวเทียมหรือ GPS
ผมเองก้อเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้หลายครั้ง แต่ครั้งแรกเมื่อราวปี ๒๗
แบบว่าซ่าส์หมาว้อไปเดินป่าคนเดียว ปกติตอนวัยรุ่นผมชอบแอบเข้าไปเดินป่านอนเล่นแถวเขาเขียวอยู่บ่อยๆ
ส่วนใหญ่ก้อไปที่ๆเคยไป ซึ่งป่าที่ว่ามันติดกัน ๓ อำเภอ ไอ้ความที่อยากผจญไพรและว่างก็คว้าเป้ขึ้นหลัง
กะว่าผมจะเดินไปออกอีกอำเภอหนึ่งซึ่งใช้เวลาไม่น่าถึงวัน เข้าทาง อ.เมือง ไปออก อ.ศรีราชา ไอ้ทางที่เราไปกลประจำมันก้อได้อยู่แต่ทีนี้ไอ้ทางที่ไม่เคยไปสิ ฟังเขาว่าและเขาบอก เอาก้อเอาวะทางนี้แหละ ว่าแล้วก้อเดินไปตามด่าน เดินไปเดินมา ด่านก้อหาย แถมเจอหมีอีกตัว ทำไงดีหว่าใกล้ค่ำแล้วฝนก้อดันตกอีก ทากนี่ไม่ต้องพูดถึง ในเป้ก้อมีแค่ผ้าขาวม้า เปลกะฟลายชีตตอนนั้นยังไม่รู้จัก ไฟแช็คแบบปัจจุบันตอนนั้นยังไม่มี มีแค่ไม้ขีดตราพญานาค เดินไปเดินมาเจอลำห้วย เอาวะเดินตามลำห้วยดีที่สุด แต่หาที่นอนก่อนดีกว่า
ได้ที่นอนในซอกราก ต้นสมพงขนาดใหญ่ ตัดใบกล้วยมารองพื้นกลับคลุมตัวก้อพอ ไฟก็ก่อ ไม่ได้เพราะฝนตกนอนมันอย่างงี้ล่ะว่ะ ทากก้อช่างหัวมัน พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันใหม่ ...........ปรากฎว่าผมดันเดินมาออกอีกอำเภอ
นึงคือ อ.บ้านบึง ประมาณว่าคนละทิศกันเฉย........
เข้าเรื่องดีกว่าข้อย่อยเป็น ๒ กรณี
๒.๑ กรณีนี้ติต่างว่าหลงในป่าที่ไม่รู้จักแนะนำว่าให้เดินกลับไปทางเก่าหรือจุดตั้งต้น
ห้ามเดินไปตามทางข้างหน้า แม้ว่าจะมีทางอยู่ก้อตาม เด๋วเดินไปเดินมาก้อจะเจอหลายแยก แล้วเดินไปเดินมาทางก้อจะหายไปดื้อๆ
ให้หยุดพิจารณาดูสิ่งรอบข้างโดยเฉพาะรอยเท้าตัวเองและเพื่อนฝูง ณ ตำแหน่งที่รู้ตัวว่าหลง
ตั้งสติให้มั่น สูดลมหายใจลึกๆๆ แล้วให้พิจารณาที่พื้นค่อยๆแกะรอยเท้าตนเองและพรรคพวก รวมถึงร่องรอยต่างๆที่ตนทำไว้ ห้ามรีบโดยเด็ดขาด เดี๋ยวจะพลาด ทางในป่ามันเหมือนๆกันหมด
สัญชาติญานคนที่หลง ถ้ามีทางก้อจะเดินไป บางทีเจอทางที่ใหญ่หรือดีกว่าก้อจะเตลิดไปอีกทาง
ตรงไหนไม่มั่นใจให้ถอยกลับมาตั้งต้นใหม่สัก ๑๐-๒๐ เมตร ค่อยๆไป เดี๋ยวถึงเอง พยายามอย่าไปทำลายร่องรอยของเพื่อนฝูงที่ผ่านมา เป็นไปได้ควรทำเครื่องหมายในการเดินกลับไว้ด้วย ถ้าจำเป็นต้องค้างคืนในป่า ก่อนที่จะพักให้สำรวจร่องรอยไปข้างหน้าสัก ๑๐๐-๒๐๐ เมตร ตรวจดูทิศทางที่จะไปในวันรุ่งขึ้นล่วงหน้าก่อน
เพราะแค่คืนเดียวร่องรอย บางอย่างอาจเลือนหายไปได้
ย้ำนะครับว่า ขอให้ไปอย่างช้าๆ แต่มั่นใจ ใช้สติ ความทรงจำมาแก้ไข
ขอฝากคาถาวิเศษบทนึงให้ไว้สำหรับทุกท่านไว้อาราธนาก่อนออกเดินทางครับตามนี้
ตั้งนะโม ๓ จบ กูลืมอะไรบ้างหว่า กูทำการบ้านก่อนออกเดินทางดีรึยัง
เดินไปทิศไหน ถ้าหลงจะกลับอย่างไร อย่าประมาท อย่าประมาท เพี้ยง แล้วกระทืบเท้าขวา ๓ ทีก่อนออกเดินทาง:D
โชคดีครับ
ขาดเหลืออะไรก็ช่วยกันเดิมนะครับ
กรณีที่ ๒.๒ กรณีแบบผู้พันน้องหรือ ใกล้เคียง
ผมว่ากรณีนี้ก่อนที่จะหลง คงต้องทำการบ้านในหัวหรือศึกษาภูมิประเทศมาพอสมควร
และต้องวางแผนเผื่อหลงไว้แล้ว
เอาจากประสบการณ์หลงๆ ขอผมไปพิจารณาประยุกต์ใช้ละกัน
ครั้งหนึ่งเมื่อ ๑๕ ปีที่แล้วพาชุดปฏิบัติการชุดจิ๋ว รวมผม ๕ คน ภารกิจแค่ ๔ วัน
ออกทำงานในป่าใหญ่รอยต่อชัยภูมิเพชรบูรณ์ ผมเริ่มที่ชัยภูมิ
ในครั้งนั้นชุดผมได้แผนที่แค่แผ่นเดียว จริงๆต้องใช้อย่างน้อย ๒ ระวาง เครื่อง GPS เมื่อก่อนก็ยังไม่มี
ทำงานได้ ๔ วันก้อหลุดแผนที่แล้วครับ จริงแล้วตอนนั้นแผนที่แทบไม่มีประโยชน์เลย
ไอ้วิชาที่ร่ำเรียนมาแบบเล็งสกัดยอดเขาไม่ต้องพูดถึง ป่ามันทึบแบบไม่เห็นยอดเขา
จะสกัดต้องปีนยอดไม้ที่สูงแถมปีนไปก้อยอดไม้บังอีก
ทำไง....
แบบว่าก่อนออกทำงานผมวางแผนแล้วว่าถ้าหลงจะเดินตัดทิศตะวันตกไปออกที่ จ.เพชรบูรณ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
จะไม่หันหลังกลับทางเดิม และลูกชุดพลนำทางก็ไม่เคยไป เพียงแค่ได้ยินพรานเขาว่ามีทางด่านไป
เสบียงมันก้อกินกันเปลือง จัดสรรแล้ว พวกเราจะต้องกินข้าวต้มวันละ ๑ ถ้วยเท่านั้น!
เดินไปเดินมาทางก็แสนไกล น้ำเริ่มหายาก ผมเตือนลูกชุดว่าอย่าหวังน้ำบ่อหน้า เจอให้ตุน
แต่ลูกชุดนั้นคิดว่าพวกกูยังไงก้อรอดแน่
เย็นวันที่ ๖ เราเจอลำห้วยสุดท้าย ผมตุนน้ำ ลูกชุดแค่กิน แล้วข้ามไปเฉยๆ
พวกเราเดินขึ้นเขาที่แบบยิ่งขึ้นยิ่งชันเพื่อไปนอนบนสันเขา ที่ลูกชุดคาดว่าจะมีน้ำ
๒ ทุ่มก็แล้วไม่เจอ ลำห้วยสักสาย เอาไง ตอนก้อนอนวะ ข้าวก็ไม่ได้กิน แถมน้ำก้อ อด.....
แล้วไอ้กระติกที่ตุนเลยต้องแกล้งวางทิ้งไว้กลางวง ให้ลูกชุดกิน
ตอนเช้าต้องเดินลงเขามาอีกชั่วโมงเพื่อเอาน้ำแล้วเดินกลับขึ้นไปใหม่
ลูกชุดบางคนเริ่มสติแตก กลัวไม่รอด ต้องปลุกขวัญกำลังใจกันใหม่
คนเราเวลาอด หิว เหนื่อย และง่วง นี่ ผมบอกเลยถ้าไม่เคยผ่านสถานการณ์โหดๆมา สันดานธาตุแท้นี่จะออก
ตอนนั้นผักอะไรกินได้คว้าหมด
หยวกกล้วยเวลาตัดแล้วเอาแกนมันมากิน ให้เอาไม้มาม้วนๆเอาใยเหนียวมันออกก่อนครับเด๋วติดคอ
เถาวัลย์น้ำที่รู้จักตัดเก็บหมดรูปไม่รู้อยู่ไหน
การตัดเถาวัลย์น้ำให้ตัดเส้นยาวตัดปลายแล้วตัดโคน ปกติเถาวัลย์หลายชนิดจะมีน้ำพอดื่มได้
ยกเว้นเถาที่คัดออกมาแล้วมียางขาวๆนี่ไม่แนะนำ กินแล้วคัน เวลาลองก้อให้แตะๆลิ้นก่อน
เมื่อตัดเส้นยาวเสร็จรองน้ำเรียบร้อย ให้ทอนอีกครึ่งหนึ่งน้ำก็จะไหลมาอีก
ทอนไปจนเหลือท่อนแค่คืบครับ เอาปากเป่าที่เถาน้ำได้น้ำจะไหลออกมา
เถาน้ำที่เคยตัดยาว ๓ เมตร ได้น้ำกระติกครึ่งครับ พวกเถาน้ำชอบขึ้นบนเขา และส่วนใหญ่อยู่ห่างน้ำครับ
เราต้องเดินย้อนกลับขึ้นเขาลูกเดิมไปแต่เช้าเดินไปหิวไป จนถึง ๒ ทุ่มเลยเจอทางลงเขา
ที่มองเห็นแสงไฟจากในเมืองริบหรี่ ไม่ไกลจากเขา
ก้อเดินลงไปกันคืนนั้นเลย เกือบห้าทุ่มจึงถึงตีนเขาที่มีลำห้วยอีกครั้ง.......
ตอนเช้าเดินกันแต่หกโมงกว่า ไปถึงหมู่บ้านแรกเกือบ ๑๑ โมง
ติดต่อให้รถมารับไปกินก๋วยเตี๋ยวในตัวเมืองเพชรบูรณ์ซึ่งห่างแค่ ๑๙ กม””””อิ่ม....
ประสบการณ์ตรงนี้ ผมคิดว่าถ้าเรามีสติที่ไม่แตก ตั้งเป้าหมายหรือตัดสินใจแล้วต้องไม่ลังเล....ทุกอย่างมันไม่ยาก
คนเราถ้าคิดว่าทำไม่ได้โอกาสก็เท่ากับศูนย์
แต่ถ้าคิดว่าน่าจะหรือทำได้ โอกาสเรามีห้าสิบถึงร้อยครับ
ตอนต่อไปขอพาไปเที่ยวทะเลต่อนะครับหวังว่าคงยังไม่เบื่อ
จริงๆแล้วเรื่องเล่าในป่ายังมีอีกเยอะครับ ค่อยๆทยอยละกัน
เอาเป็นว่าสมมติว่าเรานั่งเรือทัวร์ไปแอ่วทะเล
ขากลับมีอันซวยเจอพายุกะทันหัน หรือเรือบรรทุกเกินพิกัดเพราะความงกของเจ้าของ
ตอนนี้ล่ะเป็นเรื่อง.......
http://img138.imageshack.us/img138/5641/b45p1py1.jpg (http://imageshack.us)
http://img256.imageshack.us/img256/3305/85972553be9.jpg (http://imageshack.us)
ลืมๆๆ ก่อนไปทะเลอย่าลืมอุปกรณ์มาตรฐานบ้านนอกตามที่บอกแต่ตรงนี้ขอเสริมอีกนิด
สิ่งที่ควรมีและเอาไปด้วยเป็นอย่างยิ่งคือ
๑ ถุงทะเลแบบดีๆน้ำไม่เข้าขนาดสัก ๑๐-๒๐ ลิตร ใบนึง สีเจ็บๆเช่น ส้มแปล้ด แดงสะใจ รู้สึกว่าใบไม่น่าถึงพัน ตามรูป
ใบนี้ถ้าปิดดีๆ แม้ใส่ของเราสามารถกอดมันเป็นทุ่นได้ ไม่จม สีเจ็บสามารถตรวจการณ์เห็นได้ไกล
๒ เสื้อแจ็คเก็ตแบบกันลมควรใส่เสมอเวลาคลื่นลมแรง เพราะเสื้อก้อเป็นทุ่นในตัวและช่วยลดการสูญเสียความร้อนจากร่างกายเวลาที่ต้องลอยคอในน้ำ จะเสริมด้วยกางเกงกันลมก้อไม่ผิดอะไร
๓ อันนี้ไม่รู้ว่าจะมากไปรึปล่าว แว่นตาที่ใส่ว่ายน้ำ หรือดีหน่อยก้อแว่นดำน้ำพร้อมท่อหายใจ(สนอร์เกิ้ล)อันนี้เอาเหน็บติดไว้ด้านนอกตรงสายที่มีคลิ้ปล็อคกระเป๋า ฉุกเฉินจะได้ปลดออกสะดวก
๔ ยังนึกไม่ออกเพราะปกติผมไม่ค่อยงกสมบัติ แบบว่าที่จริงไม่มีตังค์ซื้อต่างหาก
๕ นึกออกแล้วบรั่นดีกรอกใส่ขวดโออิชิสักแบน
๖ ขนมที่กินแล้วไม่หิวน้ำหนึ่งถุง แถมด้วยฮอลล์อีก ๑๐ เม็ด
๗ น้ำเปล่า ๑ ขวด
ออกทะเลแล้ว......อิอิ
ข้อควรปฏิบัติ
๑ เมื่อขึ้นเรือแล้วต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ควบคุมเรือโดยเคร่งครัด สงสัยอะไรให้ถามไปเลย
๒ ถ้าว่ายน้ำไม่เก่งกรุณาใส่เสื้อชูชีพด้วย ไม่ต้องอายใคร
๓ ควรเดินสำรวจเรือให้ทั่วและควรจะรู้ตำแหน่งที่เก็บห่วงชูชีพหรือ อุปกรณ์ยังชีพในทะเล(ถ้ามี)
รวมไปถึงอุปกรณ์ปฐมพยาบาล รวมไปถึงเส้นทางเดินต่างๆบนเรือให้แม่น
๔ รู้ว่าเมาเรือกินยาแก้เมาก่อนขึ้นเรือ ๑ ชม
๕ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ขณะนั่งเรือ โดยเฉพาะเวลาที่คลื่นลมแรง
๖ กรณีที่ต้องค้างคืนบนเรือตอนนอนกรุณาติดเสื้อชูชีพไว้ใกล้ๆพร้อมกระเป๋าใส่ของ
๗ กระเป๋าใส่ของที่จำเป็นไม่ควรห่างตัวโดยเฉพาะเวลาหน้ามีดหน้าขวาน
๘ สมมติเหตุการณ์ว่าเรือล่ม คุณจะทำอย่างไรและไปเส้นทางไหนบนเรือ
๙ ยังนึกไม่ออก
กรณีที่เรือล่มหรือเรือจม ส่วนใหญ่จะต้องมีลางบอกเหตุเช่น ลูกเรือวิ่งกันวุ่น หรือไกด์มาบอกให้เราใส่เสื้อชูชีพ
เวลาเรือจะล่มหรือจม ส่วนใหญ่ด้านท้ายจะจมลงก่อน ส่วนหัวจะจมทีหลัง เพราะส่วนหัวจะมีโพรงมากกว่าส่วนท้าย อีกทั้งเครื่องยนต์ส่วนใหญ่จะวางไว้ที่กลางลำค่อนไปทางท้ายเรือ
ก่อนเรือจะจมให้เอาเสื้อผ้ากางเกงที่มีมาใส่ไว้ให้มากที่สุดกันหนาว
ชูชีพก้อใส่ด้วยรัดสายล็อคต่างๆให้แน่น
มันไม่จมหรอกครับ น้ำทะเลหนาแน่นกว่าน้ำจืด ๓ เท่า เวลาคนจะดำน้ำยังไม่ยอมจมเลย
ต้องใส่ตะกั่วถ่วง
จากนั้นอย่าลืมสะพายถุงทะเลไปด้วย พร้อมกับฉวยน้ำเปล่าเหน็บไปด้วย ๑ ขวด
ถ้าสามารถหยิบห่วงยางไปด้วยก้อหยิบไปเพื่อช่วยลากคนอื่น
อ้อหน้ากากหรือแว่นดำน้ำถ้ามีใส่ไปเลย
อย่าลืมสติไว้บนเรือละกัน
ตอนนี้เรือกำลังจะเริ่มจมแล้ว เมื่อเรือเริ่มจมให้ท่านรีบออกจากเรือโดยเร็วโดดแบบเอาขาลงคู่
ห้ามพุ่งหลาว ค่อยๆลง ไม่ต้องรีบ ตรวจดูทิศทางลงให้ดีๆ ว่าไม่มีสิ่งกีดขวาง
จากนั้นให้ว่ายออกให้ห่างจากเรือมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเมื่อเรือจมทั้งลำแล้วจะมีแรงน้ำดูดตัวเราให้จมไปกับเรืออีก
พยายามเกาะกลุ่มกันไว้
การช่วยเหลือผู้อื่นให้ช่วยเหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น (ไม่ได้ใจร้าย) ตรงนี้หมายถึงคนที่ถูกช่วยว่ายน้ำไม่แข็ง
ถ้าไม่ห่างฝั่งมากก้อให้ค่อยๆลอยคอเข้าฝั่ง
แต่ถ้าอยู่กลางทะเลให้ลอยคอรวมกันไว้ แต่ไม่ต้องใกล้กันมากนัก ออกแรงให้น้อยที่สุด และพยายามให้กำลังใจผู้อื่น
ท่าที่ดีในการรอคือ ท่านอนหงายอาบแดดเพื่อลดการสูญเสียความร้อน แถมยังเอาขนมหรือน้ำมากินได้ รวมถึงกระจกสะท้อนแสงจากกระเป๋าได้อีกต่างหาก
กินน้ำอย่างประหยัดที่สุด
ไม่ต้องอวดเก่งว่ายเข้าฝั่ง รอครับไม่เกินสองวันมีคนมาช่วยแน่
กรณีที่จะช่วยคนที่ว่ายน้ำไม่แข็งค่อยๆพูดปลอบเขา อย่าเข้าใกล้ พยายามเข้าด้านหลัง
ถ้ามีห่วงก้อโยนให้เขาเกาะ หรือเรียกให้ว่ายมาเกาะเอง กรณีช่วยเหลือชั้นสูงไม่ขอกล่าว
สรุป คือ มีสติ และเอาตัวเองให้รอดก่อนที่จะไปช่วยผู้อื่น
Powered by vBulletin® Version 4.2.3 Copyright © 2025 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.