PDA

View Full Version : อำนาจหยุดยั้งของกระสุนปืนในการป้องกันตัว



ตาเกิ้น
14-05-12, 10:35 PM
วันก่อนนี้เพิ่งได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ผู้เขียนเล่าว่ามีคนที่ป้องกันตัวจากคนที่เข้ามาทำร้ายด้วยการยิงปืนขนาด .380 ถึง 8 นัดกว่าจะหยุดคนร้ายได้ แม้ว่าจะโชคดีที่รอดชีวิตออกมาได้แต่คนผู้นี้ก็ต้องใช้เวลาถึงสองปีเพื่อต่อสู้คดีพยายามฆ่า เพราะรัวไปจนหมดแม็กกาซีน(เหตุนี้เกิดในอเมริกา)

ผู้เขียน (คือปรมาจารณ์ Jeff Cooper) ตั้งข้อสังเกตว่าถ้าหากผู้นี้ใช้อาวุธปืนที่มีอำนาจหยุดยั้งเพียงพอก็อาจจะไม่ต้องตกเป็นจำเลยและเสียเวลาของชีวิตไปถึงสองปี

ก็เลยอยากจะถามท่านผู้รู้ถึงเรื่องอำนาจหยุดยั้งของกระสุนปืนขนาดและชนิดต่างๆให้เป็นความรู้ต่อพี่ๆน้องๆกันครับ เท่าที่ทราบคุณพี่นายแม็คเป็นผู้ที่ศึกษาเรื่องนี้ไว้ไม่น้อยเลย และท่านอื่นๆก็เชิญเลยนะครับ

movingbox
14-05-12, 11:08 PM
เคยเป็นเรื่องที่อาจารย์ผมเปิดประเด็นไว้ในห้องเรียนเช่นกันครับว่า "คนเราจะสามารถทนกระสุนปืนได้แค่ไหน?"
ทั้งห้องเรียนก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะ เรามักจะชินตาจากภาพยนต์ว่าน่าจะสัก 5 นัด ในขนาดปกติ (9มม.หรือ .38)
หรือในบางครั้งเราก็เห็นว่าโดนแค่นัดเดียวก็ลงไปกองได้เช่นกัน จึงไม่มีใครกล้าตอบอาจารย์เลยครับ

อาจารย์ได้เฉลยให้ฟังว่า "ไม่รู้เหมือนกัน" ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความทนทานของร่างกายแต่ละคน อาจารย์ผมจึงไม่สรุปว่ากระสุนปืนแต่ละขนาดมีอำนาจหยุดยั้งมากน้อยเพียงใด

หลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้ให้ดูภาพการยิงกระสุนปืนเข้าเจลลาตินทดสอบกระสุน(Ballistic Gelatin) เพื่อให้เปรียบเทียบอำนาจ"พลังงาน"ของกระสุนที่วิ่งเข้าไป
ว่าในกระสุนขนาดต่างๆและปืนชนิดต่างๆกันมี"พลังงาน"ต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ

ผมคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถอธิบายอำนาจหยุดยั้งของกระสุนปืนชนิดต่างๆนะครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอรับความรู้ไปเพิ่มเติมด้วยครับ :)

nam26
14-05-12, 11:44 PM
ยิ่งอ่านยิ่งน่าคิด

เรื่องยิงไปตั้งหลายนัดจากป้องกันตัวเป็นพยามฆ่า

โดนยิงไปแล้วยังไม่หยุด และยังพยามเข้ามาอีก น่าเป็นเหตุผลที่สมควรจะยิงอีกนัด เมื่อโดนอีกแล้วยังไม่ยอมหยุดจะเข้ามาอีกก็มีเหตุผลที่จะยิงอีกนัด.
ทำไมลูกขุนถึงตัดสินเป็นอย่างนั้น

อย่างนี้น่ายิงสองนัดที่ตัว และหนึ่งนัดที่หัวดีกว่าอิิิิอิอิอิ

น่าคิดในเรื่องขนาดของลูกปืน .380. อุตสาห์พกปืนไว้ป้องกันตัวแต่เมื่อใช้แล้วไม่สามารถหยุดคนที่จะเข้ามาทำร้ายได้
ต้องฝึกยิงให้มากขึ้นในการวางตำแหน่งลูกกระสุน ขนาดเล็กหากถูกจุดสำคัญน่าจะหยุดคนร้ายได้

ยิ่งทำให้มั่นใจว่าต้องเลือก .40 หรือ.45เล็กๆอุ่นใจกว่า

รอฟังคำตอบด้วยครับ

jackagee
15-05-12, 01:14 AM
เหมือนว่าเคยอ่านเจอที่ไหนสักแห่ง ว่ากำลังมีการพัฒนากระสุน .50 จะมาใช้กับปืนพกสั้น
โดยลดความแรงลง คุมปืนได้ง่ายขึ้น
ให้มีความเร็วน้อยกว่า .45 แต่จะได้อำนาจการปะทะมากกว่ามหาศาล
อันนี้เป็นอำนาจของกระสุน Hollow Point ที่ผ่านเจลลาติน หากเป็นเนื้อหนัง น่ากลัวมาก
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/LfcTjKyCH5E" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เดาว่า คนถูกยิงคงตัวใหญ่ด้วยนะครับ ถึงทนได้จนนัดที่8
หรือ คนยิง ยิงไม่เข้าจุดสำคัญ เพราะเหตุการณ์จริง คงวางกระสุนให้เข้าจุดสำคัญได้ยาก หากไม่ได้ฝึกมาแบบเข้มข้น
ปัจจุบัน ผมว่า หากให้ 1 นัด .45 น่าจะไว้ใจได้มากที่สุด แต่อย่างที่หลายท่านว่า หากเข้าจุดสำคัญ .380 ก็เอาอยู่ได้เหมือนกัน
หากเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่นโจรเข้าบ้าน มุ่งมาทำร้าย เป้าใหญ่ที่เราจะยิงคือ ช่วงอกถึงช่วงท้อง เพราะเป็นเป้าใหญ่
.45 น่าจะไว้ใจได้มากที่สุด เท่าที่เราๆท่านๆ จะหาปืนมาครอบครองได้
(หากจะว่าเป็น .44mag หรือ .50 ก็ดูจะไกลตัวไปน่ะครับ)

pati
15-05-12, 01:41 AM
ถ้าอยู่บ้านก็ลูกซองเลยครับ....นัดเดียวอยู่ :cool:

แวบมา
15-05-12, 02:49 AM
เหมือนว่าเคยอ่านเจอที่ไหนสักแห่ง ว่ากำลังมีการพัฒนากระสุน .50 จะมาใช้กับปืนพกสั้น


สงสัยพี่แจ็คจะอ่านจากหนังสือจักรวาลปืนกระมังครับ หรือไม่ก็คงอ่านจากหนังสือ gun digest ที่ประเทศนอก

เพราะผมจำได้ว่า ตั้งแต่ผมยังเป็นนักเรียนสวนกุหลาบ ตอนนั้นก็มีกระสุน .50 AE ออกมาแล้ว
คุ้นๆ ว่า น่าจะใช้กับปืน อินทรีทะเลทราย ( Desert Eagle )

จำได้ไม่ค่อยแม่นนะครับ เรื่องผ่านมาตั้ง สอง-สาม ปีแล้ว :p :p :p

ตี๋มือเก่า
15-05-12, 09:00 AM
ขอนอกเรื่องครับเพื่อนๆ ............ มันสวยมาก ครับ ขอบอก
remington-r1

http://i601.photobucket.com/albums/tt99/tee-oldhand/remington-r1-enhanced-45-acp.jpg

PARAM
15-05-12, 09:21 AM
ถ้าจำไม่ผิด เคยอ่านเจอ เจฟ คูเปอร์ เคยพูดไว้ว่าถ้าให้พกปืนขนาดต่ำกว่า .38 ขอพกขวานดีกว่า:p แต่ มาซซาด อยูป บอก ผมไม่ได้ตัวใหญ่อย่างพี่เจฟ ยังไงก็ขอให้มีปืนถึงแม้ว่าขนาดจะเล็กหน่อยก็เอา เรื่องนี้นานมากแล้วก่อนที่จะมีการพัฒนาปืนเล็กแบบ deep conceal ตัวเล็กลูกโตแบบพวก เคลเทค380 หรือ รูเกอร์ LCP

ในสถานการต่างประเทศโดยเฉพาะเมืองหนาว พวกเสื้อผ้าหนาๆก็บรรเทาความรุนแรงของกระสุนไปได้บ้างโดยเฉพาะกระสุนขนาดเล็ก แต่ถ้าเมื่อไทยแบบคลิปนี้

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/KYeGe0YVse8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

jackagee
15-05-12, 12:51 PM
สงสัยพี่แจ็คจะอ่านจากหนังสือจักรวาลปืนกระมังครับ หรือไม่ก็คงอ่านจากหนังสือ gun digest ที่ประเทศนอก

เพราะผมจำได้ว่า ตั้งแต่ผมยังเป็นนักเรียนสวนกุหลาบ ตอนนั้นก็มีกระสุน .50 AE ออกมาแล้ว
คุ้นๆ ว่า น่าจะใช้กับปืน อินทรีทะเลทราย ( Desert Eagle )

จำได้ไม่ค่อยแม่นนะครับ เรื่องผ่านมาตั้ง สอง-สาม ปีแล้ว :p :p :p

ครับ มันมีมานานแล้วผมทราบครับ
สารวัตรอ่านให้ดีๆครับ ผมบอกว่า พัฒนาให้มีความแรงลดลงครับ เพื่อให้คุมปืนได้ง่ายกว่านี้ ครับ
ที่ผมหมายถึงคือ .50 ที่ใช้กับปืนพกสั้นอยู่แล้วน่ะครับ ไม่ได้หมายความว่าเอากระสุนปืนยาว มาทำใหม่เพื่ิอใช้กับปืนสั้นครับ
ผมอาจจะพิมพ์ผิด จึงทำให้เข้าใจผิดก็ขออภัย แต่หากคิดสักนิด น่าจะทราบว่าผมหมายถึงอะไร
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/O1d7i3i0LLI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/ueoRLCxK918" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

prai
15-05-12, 05:08 PM
เคยเป็นเรื่องที่อาจารย์ผมเปิดประเด็นไว้ในห้องเรียนเช่นกันครับว่า "คนเราจะสามารถทนกระสุนปืนได้แค่ไหน?"
ทั้งห้องเรียนก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะ เรามักจะชินตาจากภาพยนต์ว่าน่าจะสัก 5 นัด ในขนาดปกติ (9มม.หรือ .38)
หรือในบางครั้งเราก็เห็นว่าโดนแค่นัดเดียวก็ลงไปกองได้เช่นกัน จึงไม่มีใครกล้าตอบอาจารย์เลยครับ

คนเราจะสามารถทนกระสุนปืนได้แค่ไหน? เป็นการตั้งคำถามโดยใช้ภาษาที่ค่อนข้างจะคลุมเคลือนะครับ ถ้าผมนั่งอยู่ในชั้นเรียนนั้นผมจะตอบว่า "มนุษย์" จัดอยู่ในประเภทสัตว์หนังบาง อะไรก็ตามที่สามารถทะลุผ่านผิวหนังเข้าไปได้ลึกเกิน 3 นิ้ว สามารถทำลายอวัยวะที่สำคัญจนเป็นเหตุให้ร่างกายหยุดปฎิกริยาหรือเสียชีวิตได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นความสามารถทนกระสุนได้แค่ไหน จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก ไม่ใช่ปัจจัยภายในร่างกาย

และถ้าจะจำกัดเรื่องราวให้อยู่ในเฉพาะเรื่องของกระสุนปืน กระสุนแต่ละนัดเมื่อถูกยิงออกไปจากลำกล้องปืน มีพลังอยู่ 2 ประเภทอยู่ในตัวของกระสุน

พลังประเภทแรกเรียกว่า Killing Power (อำนาจในการสังหาร) คืออำนาจในการทำลายอวัยวะสำคัญๆ ภายในร่างกายจนทำให้ผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต แต่อาจจะไม่เสียชีวิตทันทีที่ถูกยิง

พลังประเภทที่สองเรียกว่า Stopping Power (อำนาจหยุดยั้ง) อำนาจในการหยุดยั้ง ทำให้ร่างกายผู้ที่ถูกยิงหยุดปฎิกริยาในทันทีที่ถูกยิง แต่อาจไม่ถึงขั้นเสียชีวิต

อำนาจหยุดยั้งของกระสุนปืนในการป้องกันตัวตามที่ตาเกิ้นถามจึงน่าจะเป็นกระสุนในระดับ Sub Sonic ที่มีน้ำหนักของหัวกระสุนตั้งแต่ 200 เกรนขึ้นไป แต่ก็มีข้อแม้ที่สำคัญอยู่ข้อหนึ่งคือ ต้องวางตำแหน่งของกระสุนให้ถูกจุดด้วย


อาจารย์ได้เฉลยให้ฟังว่า "ไม่รู้เหมือนกัน" ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความทนทานของร่างกายแต่ละคน อาจารย์ผมจึงไม่สรุปว่ากระสุนปืนแต่ละขนาดมีอำนาจหยุดยั้งมากน้อยเพียงใด

Stopping Power (อำนาจหยุดยั้ง) ถ้าพลังงานได้ถูกถ่ายทอดไปที่เป้าหมายอย่างเต็มที่จะทำงานอย่างได้ผลเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ขึ้นอยู่กับความทนทานของร่างการครับ ยกตัวอย่างเช่น กระสุนในระดับ Man Stopper ยิงเข้าที่กระดูกต้นขา, สะบ้าเข่า, ข้อเท้า จะทำให้เป้าหมายที่ถูกยิงยืนทรงตัวอยู่ไม่ได้ หรือถ้ายิงถูกร่างกายส่วนที่เป็นโครงกระดูกก็จะทำให้เป้าหมายชะงักลงได้ชั่วขณะหรือหยุดปฎิกริยาไปในทันที ตามความสำคัญของตำแหน่งที่ถูกยิง


หลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้ให้ดูภาพการยิงกระสุนปืนเข้าเจลลาตินทดสอบกระสุน(Ballistic Gelatin) เพื่อให้เปรียบเทียบอำนาจ"พลังงาน"ของกระสุนที่วิ่งเข้าไป
ว่าในกระสุนขนาดต่างๆและปืนชนิดต่างๆกันมี"พลังงาน"ต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ

ผมคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถอธิบายอำนาจหยุดยั้งของกระสุนปืนชนิดต่างๆนะครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอรับความรู้ไปเพิ่มเติมด้วยครับ :)

Ballistic Gelatin ในความเป็นจริง เป็นแค่วัสดุที่มีความหนาแน่นคล้ายกับเนื้อเยื่อที่สุดเท่าที่จะหาได้ในเวลานี้เท่านั้นครับ แต่มันแทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนอวัยวะภายในของร่างกายของคนเลย และที่สำคัญคือ Ballistic Gelatin แสดงได้แค่ความเสียหาย (โพลงอากาศ) ที่เกิดในขณะที่หัวกระสุนวิ่งผ่าน Ballistic Gelatin ซึ่งเป็น Killing Power ไม่ใช่ Stopping Power ครับ

แวบมา
16-05-12, 12:34 PM
ครับ มันมีมานานแล้วผมทราบครับ
สารวัตรอ่านให้ดีๆครับ ผมบอกว่า พัฒนาให้มีความแรงลดลงครับ เพื่อให้คุมปืนได้ง่ายกว่านี้ ครับ
ที่ผมหมายถึงคือ .50 ที่ใช้กับปืนพกสั้นอยู่แล้วน่ะครับ ไม่ได้หมายความว่าเอากระสุนปืนยาว มาทำใหม่เพื่ิอใช้กับปืนสั้นครับ
ผมอาจจะพิมพ์ผิด จึงทำให้เข้าใจผิดก็ขออภัย แต่หากคิดสักนิด น่าจะทราบว่าผมหมายถึงอะไร
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/O1d7i3i0LLI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/ueoRLCxK918" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ครั้งนี้พลาดแล้วก็แล้วไป

การจะพิมพ์อะไรในเชิงวิชาการควรต้องระมัดระวังครับ
คุยเรื่องสัพเพเหระยังอาจคาดเดาให้คนอ่านตีความตามเจตนารมณ์ได้
แต่เรื่องที่เป็นเชิงข้อมูล เขาให้ใช้วิธี "ตีความตามตัวอักษร" นะครับ ไม่ควรให้ผู้อ่านคิดเอาเอง ๒ แง่ ๒ มุม

และคำว่า
"กำลังมีการพัฒนากระสุน .50 จะมาใช้กับปืนพกสั้น
โดยลดความแรงลง คุมปืนได้ง่ายขึ้น ให้มีความเร็วน้อยกว่า .45 แต่จะได้อำนาจการปะทะมากกว่ามหาศาล"
อ่านกี่รอบก็ไม่ชักจูงให้เอนไปถึงความหมายที่ต้องการสื่อ
ครั้นจะว่า ตั้งใจพิมพ์คำอื่น แต่พิมพ์ผิด เช่น
"กำลังมีการพัฒนากระสุน .50 ที่ทำมาใช้กับปืนพกสั้น
โดยลดความแรงลง คุมปืนได้ง่ายขึ้น ให้มีความเร็วน้อยกว่า .45 แต่จะได้อำนาจการปะทะมากกว่ามหาศาล"
คำว่า "จะ" กับ "ที่ทำ" แป้นพิมพ์มันไกลกัน "ขริงๆ" ครับ


ปล. ผมอ่านดีแล้วครับก่อนพิมพ์ตอบความเห็น
ถ้ารีบอ่านแล้วผิด ที่ผ่านมาผมก็จะยอมรับตรงๆ เกือบทุกครั้ง
นอกจากจะมีมุมให้หลบเลี่ยงทำตลกแบบเนียนๆ ไปได้ครับ

jackagee
16-05-12, 12:51 PM
อะไรนักหนาครับสารวัตร
และผมว่า ที่ผมพิมพ์ ก็ไม่ได้เป็นเนื้อหาที่ซีเรียสมากอะไร เพียงบอกเล่าทั่วไปเท่านั้น
และประโยคที่ผมพิมพ์ อาจความหมายเป็นอย่างที่สารวัตรเข้าใจ
หรือความหมายเป็นอย่างที่ผมอยากบอก ก็ได้ครับ
ผมไม่ได้บอกนี่ครับว่า เอากระสุน .50 มาจากไหน
มาจากปืนยาว มาจากแหล่งอื่นๆ ฯลฯ
พัฒนาจะมาใช้กับปืนพกสั้น ก็ไม่น่าจะเข้าใจอย่างอื่น ตามหัวข้อกระทู้่ นะครับ
เพราะที่ผมจะบอกนั้น คือ พัฒนาจะมาใช้กับปืนพกสั้นครับ
แล้วยังไง..... ประโยคมันผิดตรงไหน เพราะไม่ได้พัฒนาเพืิ่อใช้กับปืนยาว หรือ ปืนกล ครับ
คิดสักนิดครับสารวัตร ตามหัวข้อกระทู้น่าจะเข้าใจกันว่า ผู้ตอบกระทู้น่าจะหมายถึงอย่างไร
ก่อนจะโทษอะไรท่านอื่น ผมว่า หยุด คิด และดูตัวเองดีกว่านะครับ
อีกอย่าง ผู้อ่านเค้ามองออกว่า เจตนาแต่ละคนคืออะไร

แวบมา
16-05-12, 02:15 PM
อะไรนักหนาครับสารวัตร
และผมว่า ที่ผมพิมพ์ ก็ไม่ได้เป็นเนื้อหาที่ซีเรียสมากอะไร เพียงบอกเล่าทั่วไปเท่านั้น
และประโยคที่ผมพิมพ์ อาจความหมายเป็นอย่างที่สารวัตรเข้าใจ
หรือความหมายเป็นอย่างที่ผมอยากบอก ก็ได้ครับ
ผมไม่ได้บอกนี่ครับว่า เอากระสุน .50 มาจากไหน
มาจากปืนยาว มาจากแหล่งอื่นๆ ฯลฯ
พัฒนาจะมาใช้กับปืนพกสั้น ก็ไม่น่าจะเข้าใจอย่างอื่น ตามหัวข้อกระทู้่ นะครับ
เพราะที่ผมจะบอกนั้น คือ พัฒนาจะมาใช้กับปืนพกสั้นครับ
แล้วยังไง..... ประโยคมันผิดตรงไหน เพราะไม่ได้พัฒนาเพืิ่อใช้กับปืนยาว หรือ ปืนกล ครับ
คิดสักนิดครับสารวัตร ตามหัวข้อกระทู้น่าจะเข้าใจกันว่า ผู้ตอบกระทู้น่าจะหมายถึงอย่างไร
ก่อนจะโทษอะไรท่านอื่น ผมว่า หยุด คิด และดูตัวเองดีกว่านะครับ
อีกอย่าง ผู้อ่านเค้ามองออกว่า เจตนาแต่ละคนคืออะไร

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ

ผมยังเหมือนเดิมครับ สงสัยก็คุยกันได้

สรุป
จบการพิมพ์โต้ตอบที่ทำให้เข้าใจไม่ตรงกันดีกว่า
เพราะผมคิดว่าข้อความที่ผมพิมพ์ไปก็ชัดเจนมากพอแล้วครับ

vkosum
16-05-12, 07:01 PM
ตอนจบแล้วมันก็อยู่ที่เจ้าของปืนนั่นแหล่ะว่าแม่นยำขนาดไหน
ทหารอเมริกันยิงปืนห่วยจนต้องเลิกใช้ .38 แล้วมาใช้ .45 แทนตอนเจอกับญี่ปุ่นเมายาม้า สมัยสงครามโลกโน่น
ซึ่งจริงๆ แล้ว .22 ถ้ายิงเข้าแสกหน้าก็เกินพอ

ไอ้ข้ออ้างว่าต้องใช้ลูกโตๆ เพราะต้องทะลุทะลวงเสื้อผ้าหนาๆ เพราะหน้าหนาวใส่เสื้อกันสามสี่ตัวนั่นก็ใช่
ลูกเล็กๆ ยิงเข้าหน้าทะลุสมองมันจะมีเสื้อผ้าอะไรมาลดทอนความเร็วความแรงของลูกนักหนา

ยกเว้นแต่เป็นตำรวจทางหลวง ต้องหยุดสิบล้อเมายาม้าปนลิโพนั่นจะลาก .44 แมกนั่ม มายิงให้เครื่องยนต์กระจุยก็ไม่มีใครว่า
แต่พูดก็พูดนะ .38 ยังยิงกันไม่ค่อยจะแม่น .357 จะยิงให้ตายต้องจ่อยิง .44 ยินโดนก็แปลกมิใช่น้อย
นี่พูดถึงตำรวจบ้านเมืองอื่นนะ ตำรวจบ้านเรา.... ไม่พูดดีกว่า หึ หึ

ผมบอกทุกคนที่มีปืนให้ยิงบ่อยๆ ซ้อมให้มันกลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย
แต่คนธรรมดาเดินดินจะหาเงินมาซื้อลูกปืนดีๆ ซ้อมบ่อยๆ ก็หนักอยู่มิใช่น้อย
ขนาดข้าราชการเบิกลูกปืนกันได้ยังไม่ค่อยจะขยันไปซ้อมกันเลย
อาจจะเพราะว่าลูกที่เบิกมันควันโขมง ยิงเสร็จต้องมาเหนื่อยเอาแส้กระทุ้งกันนานกว่าเขม่ามันหลุดหมดกระมัง

ไปๆ มาๆ มวยไทยนี่แหล่ะเด็ดสุด ฟันศอกเข้าคอหอยยังไงก็ร่วง อาจถึงตายด้วยซ้ำไป
หลายๆ คนไม่มีเส้นสาย ขอนายทะเบียนท่านมีปืนใช้ นายทะเบียนท่านไม่ให้มีสักที
ทั้งๆ ที่นามสกุลก็เก่า โคตรเหง้าก็รบกับพม่ามา แต่ดันมีเงินในบัญชีไม่พอให้ท่านดูแล้วเห็นว่ารวย
แต่พวกโจร พวกขี้ยา พวกคุมบ่อนคุมซ่อง นายทะเบียนท่านให้หมด แปลก

เห็นว่าท่านน้อยอกน้อยใจนายทะเบียนอยู่ผมเลยพาไปเข้าค่ายมวยซะ แม่ไม้มวยไทย ได้ทั้งป้องกันตัว แถมพุงยุบไปหลายนิ้วอยู่

หนอน
16-05-12, 07:18 PM
ถ้าพูดถึงกระสุน ผมว่าเป็นอะไรที่น่าศึกษามาก เพราะโลกเราผลิตออกมาเยอะจริงๆ ตามความเข้าใจของผม พวกหน้าตัดใหญ่ๆเวลามุดเข้าร่างกายตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป แล้วสร้างโพรงบาดแผลถาวรโตๆเส้นผ่าศูนย์กลางของโพลงบาดแผลสัก 6-7 นิ้ว น่าจะหยุดภัยคุกคามได้ดีที่สุด กรณีที่ขอเอาเป้าใหญ่ไว้ก่อน จากนั้นค่อยเลือกว่ามีกระสุนชนิดไหนทำแบบนี้ได้มั่ง การวางตำแหน่งกระสุนก็สำคัญแต่ต้องมาจากการฝึกฝนหมั่นซ้อมจนชำนาญ ขอรอฟังจากผู้รู้เช่นกันครับ

ตาเกิ้น
16-05-12, 08:43 PM
ผมเป็นคนตัวเล็กๆ ไม่มีฝีมือหมัดมวยหรือเพลงมีดจะไปป้องกันตัวจากใครเขาได้ อย่างเดียวที่พอจะพึ่งพาใช้ป้องกันครอบครัวในสถานการณ์ที่ใกล้บ้านป่าเมืองเถื่อนเข้าไปทุกทีแบบนี้ได้คือปืนครับ

ถ้าศึกษากันดูสักนิดจะพบว่ามีสถิติเก็บไว้บ่งบอกชัดเจนว่ากระสุนปืนชนิดต่างๆแม้จะยิงเข้าจุดสำคัญในบริเวณช่องอกก็ไม่สามารถจะหยุดคนที่ต้องการทำร้ายเราได้ทันที แม้จะเป็น 9ม.ม.หรือ .38 ที่นิยมใช้กัน ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าอยู่ในราว 70-80% ตัวเลขที่แน่นอนคงต้องรอพี่แม็คปรากฎกายออกมา ตัวยอย่างใน VDO ที่พี่พระรามเอามาลงก็เห็นได้ชัดครับว่าคนที่โดน .38 เข้าที่ช่องอก ยังหยิบปืนออกมาสวนได้อีกหลายนัด ส่วนคนที่โดน 9มม จังๆที่ช่องท้อง ยังวิ่งออกไปล้มข้างนอกได้

การเลือกใช้กระสุนหัวชนิดต่างๆก็มีผลมาก

ที่แน่ๆผมคงไม่มือดีขนาดว่าพก .22 เป็นปืนป้องกันตัวเป็นแน่

FABBRI
16-05-12, 09:36 PM
ปืนที่อยู่ในมือท่านแม้นว่าจะเป็น .22 Short ก็ตามที่ ในขณะที่ท่านอยู่ในอันตราย มันย่อมเป็นปืนที่ แม่นที่สุดดีที่สุด สังหารได้เจ๋งที่สุด จงไว้ใจมันเถิดว่า มันจะรักษาชีวิต ท่านได้ ดีกว่าปืน .357 .44 .45 ที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าที่บ้าน


แต่ขนาดของกระสุนที่ผมชอบที่สุด คือ 10 mm ที่เกจิ ออกแบบไว้ แต่ถูก .40 S&W แซงทางโค้ง

http://img267.imageshack.us/img267/1140/mg0037copyhp1.jpg (http://imageshack.us)


ส่วน ขนาด .500 S&W Mag (ชีพ แม็กนั่ม 5 นัด) เหมาะสำหรับ หมี มากกว่า พกไปยิงคน

prai
16-05-12, 09:38 PM
ปืนก็สำคัญ .. กระสุนก็สำคัญ .. แท็คติคในการใช้ต่อสู้ด้วยอาวุธปืนก็สำคัญ .. แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปืนกระบอกที่อยู่ในมือ ในยามที่จำเป็นต้องใช้ครับ

เลือกปืนที่ทำงานได้ดีทุกครั้งโดยไม่มีอาการติดขัด เลือกขนาดของกระสุนให้เหมาะใจ และเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ...Anything worth shooting is worth shooting twice. Ammo is cheap. Life is expensive. ต่อจากนั้นอะไรมันจะเกิด มันก็เกิดครับ

ปล. มีเรื่องแปลกใจอยู่ข้อนึงคือ เห็นแต่กระทู้ที่คุยกันเรื่องปืนและกระสุนขนาดต่างๆ ไม่เห็นมีใครมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันบ้างเลยว่า เคยเจอปืนยี่ห้อไหน รุ่นอะไร ที่ขัดลำ, ทำงานผิดปกติ, อาการเป็นอย่างไร, มีวิธีแก้ไขอย่างไร, กระสุนชนิดใดควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้กับปืนแบบใด ฯลฯ

แวบมา
16-05-12, 11:52 PM
ปืนก็สำคัญ .. กระสุนก็สำคัญ .. แท็คติคในการใช้ต่อสู้ด้วยอาวุธปืนก็สำคัญ .. แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปืนกระบอกที่อยู่ในมือ ในยามที่จำเป็นต้องใช้ครับ

กระสุนชนิดใดควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้กับปืนแบบใด ฯลฯ

นอกจากปืนที่อยู่ในมือ ผมคิดว่าที่สำคัญอีกอย่างคือสติ และจิตใจ ครับ
ถ้าตั้งสติได้การตัดสินใจจะตามมา
และการตัดสินใจนั้น ก็อยู่ที่ว่าใครจะใจแข็งพอหรือไม่

กระสุนที่ควรหลีกเลี่ยงใช้กับปืนบางชนิด เท่าที่ทราบคือ
กระสุนหัวแหลม FMJ (Full Metal Jacket) ไม่ควรบรรจุในซองกระสุนแบบหลอด ตัวอย่างปืนคานเหวี่ยงครับ
เพราะหัวกระสุนแหลมๆ แข็งๆ จะจ่อที่จอกแก๊ปของกระสุนนัดที่อยู่ข้างหน้า พร้อมที่จะทำหน้าที่คล้ายเข็มแทงชนวนหากมีแรงมากระทำมากพอ

และเป็นที่ทราบกันดีว่ากระสุนหัวตัดประเภท wadcutter เหมาะแต่กับปืนที่ไม่ต้องใช้กลไกป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง ตัวอย่าง ปืนบรรจุเดี่ยว หรือปืนลูกโม่ เท่านั้น
เพราะอาจสร้างปัญหาติดขัดเรื่องการป้อนกระสุน

ตัวอย่างข้างต้นเป็นเรื่องของกระสุนปกติ
นอกจากนั้นก็เป็นกรณีที่ควรระมัดระวังกระสุนที่ไม่ได้มาจากโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน
เพราะอาจมีกรณีที่โหลดกระสุนผิดพลาด จนแรงดันในรังเพลิงผิดปกติ
และเรื่องแรงดันในรังเพลิงผิดปกตินี้ อาจเกิดได้จากอีกกรณีคือ
กระสุนนัดที่เคยถูกแรงกระแทก (พบบ่อยจากการขึ้นลำเลื่อนป้อนกระสุนนัดเดียวหลายครั้ง)
จนหัวกระสุนจมลึกลงไปในปลอกรองกระสุนลึกกว่าที่มีคุณลักษณะออกแบบกำหนดมา

ยกตัวอย่างเพียงเท่านี้ก่อน ที่เหลือรอพี่ๆ มาว่ากันต่อครับ

แวบมา
17-05-12, 12:08 AM
ผมเป็นคนตัวเล็กๆ ไม่มีฝีมือหมัดมวยหรือเพลงมีดจะไปป้องกันตัวจากใครเขาได้ อย่างเดียวที่พอจะพึ่งพาใช้ป้องกันครอบครัวในสถานการณ์ที่ใกล้บ้านป่าเมืองเถื่อนเข้าไปทุกทีแบบนี้ได้คือปืนครับ

ถ้าศึกษากันดูสักนิดจะพบว่ามีสถิติเก็บไว้บ่งบอกชัดเจนว่ากระสุนปืนชนิดต่างๆแม้จะยิงเข้าจุดสำคัญในบริเวณช่องอกก็ไม่สามารถจะหยุดคนที่ต้องการทำร้ายเราได้ทันที แม้จะเป็น 9ม.ม.หรือ .38 ที่นิยมใช้กัน ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าอยู่ในราว 70-80% ตัวเลขที่แน่นอนคงต้องรอพี่แม็คปรากฎกายออกมา ตัวยอย่างใน VDO ที่พี่พระรามเอามาลงก็เห็นได้ชัดครับว่าคนที่โดน .38 เข้าที่ช่องอก ยังหยิบปืนออกมาสวนได้อีกหลายนัด ส่วนคนที่โดน 9มม จังๆที่ช่องท้อง ยังวิ่งออกไปล้มข้างนอกได้

การเลือกใช้กระสุนหัวชนิดต่างๆก็มีผลมาก

ที่แน่ๆผมคงไม่มือดีขนาดว่าพก .22 เป็นปืนป้องกันตัวเป็นแน่

เหมือนกันเลยครับพี่

ผมเป็นคนรักสบาย ขี้เกียจเรียนเวลาที่มีการสอนเป็นการเป็นงาน ซึ่งก็รวมถึงวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยครับ
ทำงานมาก็ชี้นิ้วสั่งเอาอย่างเดียว
เลยติดใจใช้แต่นิ้วครับ

ส่วนขนาดปืนป้องกันตัว ผมไม่รังเกียจกระสุนเล็กๆ อย่าง .๒๒ ครับ
แต่ก็ขออนุญาตพ่วงท้ายด้วยเลข ๓ อีกสักตัว
หรือจะลดลงมาให้เหลือแค่ครึ่งเดียว คือ ขนาด ๑๑ ผมก็ยังพอจะทนใช้ไปได้ครับพี่ :p :p :p

n.s.hunter
17-05-12, 02:09 AM
ตอนนี้ เทารัส ได้ทำปืนลูกโม่ 410 ออกมาครับ น่าจะเป็นคำตอบได้ ใช้กระสุนลูกปรายเบอร์ AAA มีลูกปรายขนาดเกือบเท่า .22 จำนวน 22 เม็ด (ถ้าจำไม่ผิด ไม่ได้ใช้นานแล้ว) ว่าแต่กระสุนที่พอเชื่อถือได้ในมือทั่วไป หน้าตัดควรเป็น 9 มม.ขึ้นไป ใช้ลูกหัวรู ลองยิงกระป๋องสีขนาด 1 แกลลอน ถ้ากระป๋องระเบิดออกถือว่าใช้ได้ เคยลองใช้ .38+Pหัวรู ยิงดูแล้ว ไม่ระเบิด แค่ทะลุน้ำไหลออกเฉยๆ พอใช้ .357 หัวรู กระป๋องระเบิดแตกออกเป็นแผ่นเลย ร่างกายคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มาก การช๊อคน้ำจากการโดนกระสุน เป็นการหยุดยั้งที่ดีครับ จุดยิงควรเป็นลิ้นปี่(กระเพาะ) เชิงกราน(กระเพาะปัสสาวะ) สำหรับ กระสุนหัวมลทุกชนิด อำนาจหยุดยั้งจะต่ำแต่ได้อำนาจทะลุทลวงครับ ชัวร์สุดก็ ลูกซองลูกปราย4B ครับ ตูมเดียว เตรียมหลักทรัพย์ไว้ประกันตัวได้เลย......:p:D

ตาเกิ้น
17-05-12, 07:21 AM
ปืนก็สำคัญ .. กระสุนก็สำคัญ .. แท็คติคในการใช้ต่อสู้ด้วยอาวุธปืนก็สำคัญ .. แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปืนกระบอกที่อยู่ในมือ ในยามที่จำเป็นต้องใช้ครับ

เลือกปืนที่ทำงานได้ดีทุกครั้งโดยไม่มีอาการติดขัด เลือกขนาดของกระสุนให้เหมาะใจ และเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ...Anything worth shooting is worth shooting twice. Ammo is cheap. Life is expensive. ต่อจากนั้นอะไรมันจะเกิด มันก็เกิดครับ

ปล. มีเรื่องแปลกใจอยู่ข้อนึงคือ เห็นแต่กระทู้ที่คุยกันเรื่องปืนและกระสุนขนาดต่างๆ ไม่เห็นมีใครมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันบ้างเลยว่า เคยเจอปืนยี่ห้อไหน รุ่นอะไร ที่ขัดลำ, ทำงานผิดปกติ, อาการเป็นอย่างไร, มีวิธีแก้ไขอย่างไร, กระสุนชนิดใดควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้กับปืนแบบใด ฯลฯ

ถ้าเป็นในเฟสบุ๊คก็ต้องกด like เลยครับพี่อ๊อด เรื่องปืนรุ่นไหนขัดลำ กระสุนชนิดไหนควรหลีกเลี่ยงนี่ก็น่าสนใจมากครับ ผมเองรู้สึกอยู่เสมอว่าเราซ้อมกันด้วยกระสุนซ้อมตลอดโดยที่ไม่ได้ลองยิงด้วยกระสุนจริงที่พกติดปืนมากนัก ก็มันนัดละหลายบาทนี่ครับ แต่พออ่านคำว่า Ammo is cheap. Life is expensive. เดี๋ยวจะต้องทดลองแล้วครับ

นายแม็ค
17-05-12, 09:10 AM
แต่พออ่านคำว่า Ammo is cheap. Life is expensive. เดี๋ยวจะต้องทดลองแล้วครับ

เป็นหนึ่งในเหตุผลที่พักหลัง เวลาเข้าสนามซ้อมยิง ผมจะยิงด้วยลูกเจริงเสมอครับ
อย่างน้อย 10-20 นัดทุกครั้งไป เพื่อให้คุ้นกับแรงรีคอยล์ของลูกจริงครับ
(โดยเฉพาะถ้าซื้อลูกแบบใหม่ ๆ ต้องลองยิงจริงทุกครั้งด้วย)

อีกเหตุผลหนึ่ง ตอนนี้ลุกจริงกับลูกซ้อม ราคาไม่แตกต่างกันมากแล้ว
อย่าง .45 ออโตฯ ลูกจริงอยู่ที่ 1,250.- /กล่อง ส่วนลูกซ้อมขึ้นจาก 750 เป็น 800-850 แล้ว....

nam26
17-05-12, 10:03 AM
เห็นด้วยการซ้อมลูกจริงครับ

แรง รีคอย ของลูกจริง ทำให้ฟอร์มการยิงปกติที่ซ้อมด้วยลูกซ้อม ต่างกัน

ต้องวางแผนการซ้อมให้ดีได้ประโยชน์จากแต่ละแบบฝึก

ส่วนตัวผมเองกับลูกซอง

ซ้อมท่ายิง ต่างๆ การบรรจุกระสุน ทำหลาย ๆ เที่ยวให้คล่อง ชำนาญ

จากนั้น ใช้กระสุนของเป้าบิน ที่ราคาถูกกว่ามาก แรงรีคอยต่ำ ยิงเป้าเพลทเหล็กยังไม่ล้ม แต่พ่นสีขาว จะเห็นตำแหน่งกระสุน

สุดท้ายก็ด้วยกระสุนจริง....ตอนแรกที่ทำอย่างนี้ ก็รู้สึกถึงถึงความแตกต่างในฟอร์มการยิง ด้วยกระสุนซ้อมและกระสุนจริง
ลองปรับให้เข้าหากัน


ในเรื่องของอำนาจของกระสุนในการหยุดยั้ง จะเห็นได้ในกรณีศึกษาต่างๆมากมาย จากการอ่านหนังสือพิมพ์ วีดีโอเหตุการณ์

น่าจะนำมาปรับแนวคิด หรือ กลยุทธ ในการยิงปืน ตามที่คุณได้รับฝึกอบรมมา ปรับให้เหมาะสม กับระดับความสามารถของเรา

แนวคิดบางอย่างอาจจะดี แต่เราทำไม่ได้ ก็ต้องปรับเป็นแบบอื่น..ที่เหมาะสม

สองนัดที่ตัว หนึ่งนัดที่หัว เป้านิ่งๆ ยังยิงไม่ได้เลย แล้วเป้าเคลื่อนที่จะทำได้หรือ...น่าคิดครับ
แต่เป็นแบบ ฝึกที่ดีอันหนึ่งในหลายแบบฝึก....ซ้อมไว้ไม่เสียหลายครับ ..

คิดไว้ในเชิงทฤษฎีผมว่ามัน Work แต่ในทางปฎิบัติ ตัวใครตัวมันครับ...


ทุกทักษะ ซ้อมมากๆ จะทำให้คล่องรื่นไหลอัตโนมัต..ต่อให้อยู่ในสถานะการณ์กดดันจริงๆ...สิ่งที่ฝึกเหล่านั้นจะออกมาเองเป็นสัญชาตญาณ....แต่อย่าลืม และหลอกตัวเอง ฝึกซ้อมมานิดนึง ก็เหมาเอาว่าซ้อมมากแล้ว...บางทีมันยังไม่พอครับ

กลยุทธ และยุทธวิธี เป็นการเอาทักษะเหล่านั้นมาใช้

Tu555
18-05-12, 10:01 PM
ผมว่า 9 ก็พอครับ (ความเห็นส่วนตัว) เกิดมาไม่เคยยิงอะไรเลย นอกจากกระดาษ ก้อนหิน ร่ม เครื่องบินบังคับ เกาะ
แต่ถ้าถามผมตอนนี้(มี 9 อยู่แล้ว) ผมอยากจะบอกว่าใครเอา 11 มาแลกผมก็เอา
ปืนก็เป็นอุปกรณ์ในหมวดฉุกเฉินอย่างนึงที่ต้องมีเวลาจะใช้น๊ะครับ ถ้าพกแล้วเสี่ยงเข้าคุกก็ต้องคิดอีกครั้งนึงก่อนจะพกว่าคุ้มแค่ไหน:)

vkosum
18-05-12, 10:59 PM
9 นี่ผมว่าเกินพอเลยหล่ะสำหรับการป้องกันตัว ลูกก็ดกกว่า เกิดเจอช่างกลเมากัญชายกมากันเป็นฝูง 11 ลูกอาจไม่พอ ยิงๆ ไปลูกหมดนี่เซ็งยิ่งกว่าไม่มีปืนอีกนะ
คนเราก็แปลก มีอาวุธในมือความซ่าความห้าวจะพุ่งขึ้นเร็วกว่าตอนมือปล่าว ยกเว้นแต่พวกมือเก่า ปืนอยู่ที่เอว แต่ชกกันปากแตกจมูกหัก ไม่ยอมชักมายิง
ทั้งๆ ที่พกปืนทั้งคู่ ปืนก็อยู่ที่เอวนั่นแหล่ะ แต่ก็นะ ยิง IPSC มากันคนละหลายปีอยู่ ควักมานี่ไม่น่าจะมีบาดเจ็บสาหัสไปตายโรงบาล น่าจะตายคาที่กันเสียมากกว่า

เพิ่งดูข่าว ตำรวจบุกจับยาเสพติด ถีบประตูแล้วปืนลั่นโดนขา นั่งหัวเราะจนปวดท้อง แล้วก็มาถามตัวเองว่า เราบ้าไปหรือปล่าว คนเขาเจ็บแทนที่จะสงสารดันไปสมน้ำหน้าเขา
แต่ก็เหมือนๆ หลายคนที่อ้างโน่นอ้างนี่กันไป เช่น ปืนลั่นบ้าง คิดว่าเก็บไว้ดีแล้วบ้าง ลูกแอบเอาไปเล่นบ้าง คนร้ายแย่งปืนไปได้บ้าง ไม่ว่าอะไร เขาคือคนที่ไม่สมควรมีปืนใช้
ไม่รู้นายทะเบียนจะเคยคิดเรื่องนี้ก่อนจะออกใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืนกันบ้างหรือปล่าว

แต่จะไปหวังอะไรมาก ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ มีกันแทบทุกคน แต่ก็ยังเห็นขับกันผิดกฎหมายกระจุยกระจาย
ตำรวจก็จับแต่พวกทะเบียนขาด แต่ปาดซ้ายปาดขวาไม่จับ ขับแช่เลนขวาไม่จับ เฮ้ออ ตำรวจประเทศนี้

Libra
19-05-12, 12:29 AM
ฟังข่าวมาหลายเดือนแล้วครับ ตำรวจบุกจับบ่อน บังเอิญคนร้ายดันไปซ่อนตัวอยู่ที่บ่อน ยิงใส่ก่อน
ตำรวจสวน โดนไปคนละสามนัด คนร้าย ตายคาที่ ตำรวจ ไปตายโรงพยาบาล ทั้งคู่ใช้ 9 มม.ครับ

ผมพิจารณาว่า 9 มม. stopping power มีน้อย killing power มีอยู่:D เป็นผม จะไม่ใช้ 9 มม.ไว้ป้องกันตัวครับ ถ้าไม่จำเป็น
สำหรับ.45 stopping power สูง ยิงนัดแรกโดนที่ไหนก็ได้แล้วค่อยตามไปซ้ำจะจะ อยู่แน่นอนครับ แต่ต้องยิงให้โดนนะครับ:D เพราะกระสุนมันน้อยไปหน่อย ยิ่งปืนพกพาแล้วยิ่งมีน้อยลงไปอีก

ทางเลือกครับ .40 " stopping power มากพอที่จะหยุดคู่ต่อสู้ killing power เหลือเฟือ จำนวนกระสุน มากใกล้เคียงกับ 9มม. ฝึกยิงให้คุ้นกับปืน ใช้ติดตัวแล้วสบายใจครับ


ยังมีเทคนิคการใช้ปืนและกระสุนอีกมากมายให้เหมาะกับขนาดและชนิดของปืนที่เรามีครับ ไม่จำเป็นต้องใหญ่เสมอไปอย่าง กรณีข้างต้นครับ ถ้าเรารู้จักคุ้นเคยกับปืนของเราดี .22 นิ้ว ก็สามารถใช้งานอย่างได้ผลครับ ขอให้โชคดี อย่ามีภัยครับ

n.s.hunter
19-05-12, 01:04 AM
ูดูให้ละเอียดครับ กระสุนขนาด 9 มม.ที่คนส่วนใหญ่ใช้มักเป็นลูกหัวบอลครับ และที่สำคัญยิงโดนตรงไหน แนะนำให้ใช้ลูก ไฮดราช๊อก (หัวรู มีติ่งอยู่ตรงกลาง) ลูกแบบนี้ให้ น๊อคดาวเพาว์เวอร์ ดีกว่าลูก 11 หัวบอลแน่ ส่วนท่านที่ใช้ลูก 11 หัวรู ต้องคำนึงถึงควานเร็วของหัวกระสุนด้วย เพราะถ้าความเร็วต่ำเกินไป ถึงหัวรู ก็ไม่สามารถสร้างการ ช๊อคน้ำได้ ทางที่ดีลองยิงใส่แกลลอนน้ำ 5 ลิตรดู ถ้าไม่แตกออก ก็ถือว่าใช้ไม่ได้ครับ.........:D

เคยคุยกับพี่อี๊ด (ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ พนมเทียน) ท่านยืนยันว่า ไม่มีปืนพกใดๆแม้แต่ขนาด 44 แม็คนั่ม ที่จะสามารถผลักให้มนุษย์เราล้มหรือถอยหลังโดยแรงปะทะของลูกกระสุนโดยตรง แต่การที่คนล้ม ลงหรือหมดสภาพในการต่อสู้ เกิดจาก น๊อคดาวเพาว์เวอร์ ซึ่งเกิดจากการช๊อคน้ำ หรือยิงโดนจุดรวมประสาท เช่นสมอง กระดูกสันหลัง แต่ถ้าเป็นกระสุนขนาดใหญ่แรงปะทะมากๆ ยิงโดนกระดูกเชิงกรานอัน เป็นจุดศูนย์ถ่วง ยิงโดนกระดูกหัวไหล่ กระดูกขา ทำให้เสียหลัก เชๆไปแต่ก็ยังสามารถยิงต่อสู้อยู่ได้ จึงเห็นได้ว่ากระสุนยิงคนควรมีแรงปะทะพอสมควร และมีความเร็วและหัวกระสุนที่ทำให้เกิดการช๊อค น้ำได้ครับ.....:D

vkosum
19-05-12, 11:23 AM
เอ แต่ละสำนักนี่สอนมาต่างกันมากจริง

เอาของที่ผมเรียนมานะ ครั้งแรกเลยเขาสอนว่าจะยิง (ชก จิ้ม ต่อย เตะ กระแทก ฯลฯ) ตรงไหนก่อน
เอาโครงกระดูกคนมาห้อยไว้ให้ดู แล้วก็อธิบายไปว่ายิงตรงไหนมันจะไปโดนอะไร เกิดผลอะไร
จับข้อมือบิดอย่างไรคนมันจะลงไปกองไม่สามารถทำอะไรเราได้ หรือจะกระแทกไปตรงไหนเจ็บที่สุด

การต่อสู้หลายๆ ครั้งไม่ต้องเอาชีวิตคู่ต่อสู้หรอกครับ แค่หยุดเขาให้อยู่ก็เกินพอ
ส่วนจะโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดยิงหัวเข่าให้พิการไปตลอด หรือจะยิงเข้าหัวใจให้ตายไปตรงนั้นเลย (สนุกตรงไหนฟระนั่น)
ก็แล้วแต่ความเคียดแค้นของผู้ยิงแล้วกัน ตอนจบแล้วก็หาทนายเก่งๆ แล้วก็ไปคุยกับผู้พิพากษากันเอาเอง

คนดังระดับเปลี่ยนแปลงโลกนี้ที่ตายๆ ส่วนใหญ่จะโดนพวกลูกเล็กๆ ยิงเอาทั้งนั้นแหล่ะครับ
พกกันง่ายๆ ประมาณ Derringer เสียงเงียบๆ ไปยิงในที่มีเสียงดังหน่อย คนยิงเดินออกไปตั้งนานกว่าจะรู้ว่ามีคนโดนยิงตาย
ไอ้มือปืนประเทศนี้ที่เอา .357 หรือ .45 ซ้อนท้ายมอไซล์ไปกระหน่ำยิงให้หมดโม่หมดแม๊กมันเอิกเกริกเกินไปหน่อย ไม่คลาสสิคเลย
ยิ่ง .223 ที่ยิงกันเป็นร้อยๆ นัด แต่เป้าหมายดันไม่ตายก็เห็นอยู่บ่อยๆ

แต่ .22LR ที่นั่งรอนอนรอเป้าหมายมาถึงที่แล้วบรรจงยิงไปนัดเดียวไม่ค่อยจะรอดกัน แปลกม้ะ

ไอ้ยิงเปรี้ยงแล้วคนร้ายกระเด็นปลิวไปอย่างกับโดนช้างเตะมันมีเฉพาะในหนังที่ผู้กำกับขาดความรู้จริงเท่านั้นแหล่ะ
ดูเอาจากในคลิปตามยูทูปร้อยละห้าสิบทรุดลงไปกองซะเฉยๆ ที่เหลือยิงไม่โดนโดนสวนกลับก็ไม่น้อย

ยังขอยืนยันว่าขนาดไม่มีผลอะไรกับการยิงต่อสู้ระดับประชิดตัวเลย กลับกลายเป็นว่ายิ่งใหญ่ ยิ่งยาวจะยิ่งเสียเปรียบ

และอาวุธที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดของมนุษย์คือมือครับ ไม่ใช่ มีด ปืนสั้น อะไรพวกนั้นเลย
แต่มีเด็ดกว่ามืออีกอย่างก็ปาก อันนี้น่ากลัวมาก สามาระโน้นน้าวให้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวได้ น่ากลัวสุดๆ

n.s.hunter
23-05-12, 01:55 AM
เอ แต่ละสำนักนี่สอนมาต่างกันมากจริง

เอาของที่ผมเรียนมานะ ครั้งแรกเลยเขาสอนว่าจะยิง (ชก จิ้ม ต่อย เตะ กระแทก ฯลฯ) ตรงไหนก่อน
เอาโครงกระดูกคนมาห้อยไว้ให้ดู แล้วก็อธิบายไปว่ายิงตรงไหนมันจะไปโดนอะไร เกิดผลอะไร
จับข้อมือบิดอย่างไรคนมันจะลงไปกองไม่สามารถทำอะไรเราได้ หรือจะกระแทกไปตรงไหนเจ็บที่สุด

การต่อสู้หลายๆ ครั้งไม่ต้องเอาชีวิตคู่ต่อสู้หรอกครับ แค่หยุดเขาให้อยู่ก็เกินพอ
ส่วนจะโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดยิงหัวเข่าให้พิการไปตลอด หรือจะยิงเข้าหัวใจให้ตายไปตรงนั้นเลย (สนุกตรงไหนฟระนั่น)
ก็แล้วแต่ความเคียดแค้นของผู้ยิงแล้วกัน ตอนจบแล้วก็หาทนายเก่งๆ แล้วก็ไปคุยกับผู้พิพากษากันเอาเอง

คนดังระดับเปลี่ยนแปลงโลกนี้ที่ตายๆ ส่วนใหญ่จะโดนพวกลูกเล็กๆ ยิงเอาทั้งนั้นแหล่ะครับ
พกกันง่ายๆ ประมาณ Derringer เสียงเงียบๆ ไปยิงในที่มีเสียงดังหน่อย คนยิงเดินออกไปตั้งนานกว่าจะรู้ว่ามีคนโดนยิงตาย
ไอ้มือปืนประเทศนี้ที่เอา .357 หรือ .45 ซ้อนท้ายมอไซล์ไปกระหน่ำยิงให้หมดโม่หมดแม๊กมันเอิกเกริกเกินไปหน่อย ไม่คลาสสิคเลย
ยิ่ง .223 ที่ยิงกันเป็นร้อยๆ นัด แต่เป้าหมายดันไม่ตายก็เห็นอยู่บ่อยๆ

แต่ .22LR ที่นั่งรอนอนรอเป้าหมายมาถึงที่แล้วบรรจงยิงไปนัดเดียวไม่ค่อยจะรอดกัน แปลกม้ะ

ไอ้ยิงเปรี้ยงแล้วคนร้ายกระเด็นปลิวไปอย่างกับโดนช้างเตะมันมีเฉพาะในหนังที่ผู้กำกับขาดความรู้จริงเท่านั้นแหล่ะ
ดูเอาจากในคลิปตามยูทูปร้อยละห้าสิบทรุดลงไปกองซะเฉยๆ ที่เหลือยิงไม่โดนโดนสวนกลับก็ไม่น้อย

ยังขอยืนยันว่าขนาดไม่มีผลอะไรกับการยิงต่อสู้ระดับประชิดตัวเลย กลับกลายเป็นว่ายิ่งใหญ่ ยิ่งยาวจะยิ่งเสียเปรียบ

และอาวุธที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดของมนุษย์คือมือครับ ไม่ใช่ มีด ปืนสั้น อะไรพวกนั้นเลย
แต่มีเด็ดกว่ามืออีกอย่างก็ปาก อันนี้น่ากลัวมาก สามาระโน้นน้าวให้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวได้ น่ากลัวสุดๆ

:2TU::2TU::2TU::):D

ต่างสำนัก ก็อาจลงรายละเอียดต่างกันครับ ตรงกันอยู่อย่างคือ สอนให้เอาตัวให้รอดจากสถานะการณ์เลวร้ายครับ....:)

แวบมา
23-05-12, 03:53 AM
ตอนจบแล้วมันก็อยู่ที่เจ้าของปืนนั่นแหล่ะว่าแม่นยำขนาดไหน
ทหารอเมริกันยิงปืนห่วยจนต้องเลิกใช้ .38 แล้วมาใช้ .45 แทนตอนเจอกับญี่ปุ่นเมายาม้า สมัยสงครามโลกโน่น
ซึ่งจริงๆ แล้ว .22 ถ้ายิงเข้าแสกหน้าก็เกินพอ


การจดจำฝังใจในข้อมูลผิดๆ แล้วคิดจินตนาการเชื่อมโยงข้อมูล ผสมปนเป จนเชื่อสนิทใจว่าเป็นความจริง

อาจจะเป็นเหตุให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนกระจายออกไปเรื่อยๆ

ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อยากจะให้ช่วยกันทักท้วงเมื่อมีข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนออกมาครับ



อย่างกรณีนี้

ผมเชื่อว่า พี่ๆ ที่เล่นปืนมาแต่รุ่นเก่าคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า
คู่ศึกที่ทำให้ทหารในกองทัพสหปาลีรัฐอเมริกัน สมัครใจเปลี่ยนขนาดกระสุน จากหน้าตัด .38 นั้น
หาใช่ ญี่ปุ่นเมายาม้า สมัยสงครามโลก อย่างที่มีผู้ประมาทไว้ไม่ครับ
หากแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดยังหมู่เกาะฟิลิปปินส์ไกลโพ้น โดยจารึกบนกองซากศพนักรบเผ่าโมโรผู้ทรงเกียรติ
ในช่วงสงครามล่าเมืองขึ้น หรือศึกระหว่าง อเมริกัน-โมโร เมื่อคริสตกาลผ่านได้ประมาณ 1899-1913 ปี

และที่จริงแล้ว นักรบชาวญี่ปุ่นที่แท้จริงผู้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีโดยทั่วไป มิพักต้องเสพยาม้าหรือเมายาบ้าที่ไหน
ก็อาจจะกล้าหาญกว่าคนตัวใหญ่กว่าโดยไม่เกี่ยงรุ่น นั้นเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ด้วยประวัติศาสตร์อยู่แล้วครับ
สู้ได้หรือไม่ได้นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ แต่เขาสู้แน่

อาจจะจริงว่าทหารอเมริกันขวัญไม่แข็งอย่างทหารวิลันดาที่ต้องเผชิญหน้ากับกองทหารบาหลีที่ถือกริชถือหอก ด้วยปืน
และชวาเหล่านั้นก็พร้อมใจกันวิ่งเข้าหากลุ่มกระสุนของพวกฮอลันดา ชนิดเอาศพเข้าไปถมเพิ่ม
ครั้งนั้นก็ไม่ปรากฏมีบันทึกในวงการอาวุธปืนว่า กองทัพเนเธอร์แลนด์ต้องเปลี่ยนขนาดกระสุนแต่อย่างใด
ก็ไม่รู้ว่าชาวดัชต์ใจแข็งกว่าอเมริกัน หรือพวกโมโรทรหดกว่าชาวบาหลี

แต่ที่ไม่ทราบแน่ๆ เลย ก็คือ ไม่รู้ว่าข้อมูลเรื่อง .45 นี้ เริ่มเพี้ยนกันมาแต่เมื่อไร

ตาเกิ้น
23-05-12, 07:27 AM
ระหว่างที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาถาม ผมเองก็ได้ค้นคว้าอ่านหนังสือบางเล่มในหัวข้อนี้ครับ

เล่มหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือ The Gun Digest Book of Combat Handgunnery ที่เขียนโดย Massad Ayub
http://www.tradebit.com/usr/ebook-reader/pub/9002/795497814402182556174Pic.jpg

Massad Ayub เป็นเจ้าพนักงานตำรวจสหรัฐ, เป็นครูสอนยิงปืน, เป็นผู้ที่ค้นคว้าเกี่ยวกับศาสตร์ของการป้องกันตัวด้วยอาวุธ และเป็นนักเขียนเรื่องปืนที่ได้รับความนับถืออย่างกว้างขวางคนหนึ่ง
http://www.yothinfirearms.com/images/catalog_images/1269894617.jpg

ผมขออนุญาตเอาความรู้บางตอนจากการอ่านหนังสือเล่มนี้มาเล่าสู่กันฟังนะครับ ต้องออกตัวก่อนผมไม่ใ่ช่ผู้เชี่ยวชาญ เพียงแต่จำเขามาเล่าสู่กันฟังครับ

เริ่มเลยนะครับ

ผู้ศึกษาเรื่องอำนาจหยุดยั้งของกระสุนปืนพกอยู่สองค่ายหลักๆ โดยที่สองค่ายนี้เห็นตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง

ค่ายแรกนำโดย Evan Marshall อดีตนักสืบและผู้ฝึกสอนหน่วย SWAT จาก กรมตำรวจ Detroit โดยที่ Evan เก็บข้อมูลจากการต่อสู้ยิงกันจริงๆนับพันๆครั้งมาวิเคราะห์เชิงสถิติ

อีกค่ายหนึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์นำโดย Dr. Martin Fackler กับทีมงานที่ชื่อว่า International Wound Ballistics Association (IWBA) ซึ่งใช้วิธีทดสอบการยิงกระสุนชนิดต่างใส่ Ballistic gelatin

Stopping Power มีรายละเอียดที่ถกเถียงกันพอสมควร แต่ทั้งสองข้างก็มีนิยามคลล้ายๆกันที่แปลเป็นภาษาง่ายได้ประมาณว่า กระสุนที่มีอำนาจพอที่จะหยุดบุคคลซึ่งเป็นภัยคุกคามที่มีอาวุธไม่ให้สามารถได้ตอบโต้ได้ด้วยการยิงเข้าในบริเวณสำคัญได้ด้วยการยิงนัดเดียว

แม้รายละเอียดจำเพาะเจาะจงในเรื่องของกระสุนบางชนิดจะไม่ตรงกันและถกเถียงจนถึงขั้นทะเลาะเบาะแวงกันมานานนับสิบปีบนหน้าหนังสือปืนต่างๆ แต่ก็มีมากมายหลายอย่างที่ทั้งสองค่าย (และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ) ต่างเห็นพ้องต้องกัน ซึ่งผมก็คิดว่าเราน่าจะเอามาใช้ในการพิจารณาเลือกปืนและกระสุนกันได้อย่างมั่นใจ

ทั้งสองค่ายเห็นตรงกันว่า กระสุนเล็กๆอย่าง .22 และ .25 นั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวจากคนร้ายที่มีอาวุธ เพราะแม้ว่ากระสุนทั้งสองขนาดนี้จะสามารถฆ่าคนได้และฆ่ามาเยอะแล้ว แต่กระสุนขนาดเล็กนี้ไม่สามารถจะ”หยุด”คนร้ายได้เสมอไป การจะหยุดคนร้ายด้วยกระสุนเล็กๆเช่นนี้ ได้จะต้องยิงเข้าจุดสำคัญมากอย่างแม่นยำเท่านั้น ซึ่งน้อยคนมากจะสามารถจะทำได้ในเวลาคับขัน(และก็ไม่ได้ทำได้เสมอไป) มีกรณีมากมายที่คนใช้ปืน .22 .25 ถูกทำร้ายหลังจากยิงคู่ต่อสู้บาดเจ็บ จนหน่วยตำรวจสหรัฐส่วนใหญ่ห้ามไม่ให้ตำรวจของเขาใช้ปืนสองขนาดนี้เป็นอาวุธสำรอง

อันนี้ผมขอเสริมด้วยเรื่องที่ได้รับฟังมาสักนิดว่า เมื่อหลายสิบปีก่อนมีเจ้าหน้าที่สถานฑูตจากประเทศตะวันออกกลางในประเทศไทยคนหนึ่งถูกจ่อยิงด้วยปืนพกขนาด .25 ที่หัว ปรากฏว่ากระสุนแค่แฉลบกระโหลกและฝังอยู่ใต้ผิวหนัง แต่โชคร้ายที่เขาถูกรุมตีจนเสียชีวิต

อีกด้านหนึ่งที่ทั้งสองค่ายเห็นพ้องต้องกันก็คือ กระสุนที่แรงเกินอย่าง .460 Ruger, .454 Casull หรือ .50 Desert Eagle ที่เป็นกระสุนปืนสั้นที่ออกแบบมาเพื่อการล่าสัตว์นั้น ก็รุนแรงเกินไปสำหรับการป้องกันตัว

เดี๋ยวมาต่อครับ ตอนนี้ขอออกจากบ้านไปช่วยกันทำเป้าธนูสำหรับ Princess Cup ก่อนนะครับ

vkosum
23-05-12, 08:48 PM
การจดจำฝังใจในข้อมูลผิดๆ แล้วคิดจินตนาการเชื่อมโยงข้อมูล ผสมปนเป จนเชื่อสนิทใจว่าเป็นความจริง

อาจจะเป็นเหตุให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนกระจายออกไปเรื่อยๆ

ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อยากจะให้ช่วยกันทักท้วงเมื่อมีข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนออกมาครับ



อย่างกรณีนี้

ผมเชื่อว่า พี่ๆ ที่เล่นปืนมาแต่รุ่นเก่าคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า
คู่ศึกที่ทำให้ทหารในกองทัพสหปาลีรัฐอเมริกัน สมัครใจเปลี่ยนขนาดกระสุน จากหน้าตัด .38 นั้น
หาใช่ ญี่ปุ่นเมายาม้า สมัยสงครามโลก อย่างที่มีผู้ประมาทไว้ไม่ครับ
หากแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดยังหมู่เกาะฟิลิปปินส์ไกลโพ้น โดยจารึกบนกองซากศพนักรบเผ่าโมโรผู้ทรงเกียรติ
ในช่วงสงครามล่าเมืองขึ้น หรือศึกระหว่าง อเมริกัน-โมโร เมื่อคริสตกาลผ่านได้ประมาณ 1899-1913 ปี

และที่จริงแล้ว นักรบชาวญี่ปุ่นที่แท้จริงผู้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีโดยทั่วไป มิพักต้องเสพยาม้าหรือเมายาบ้าที่ไหน
ก็อาจจะกล้าหาญกว่าคนตัวใหญ่กว่าโดยไม่เกี่ยงรุ่น นั้นเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ด้วยประวัติศาสตร์อยู่แล้วครับ
สู้ได้หรือไม่ได้นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ แต่เขาสู้แน่

อาจจะจริงว่าทหารอเมริกันขวัญไม่แข็งอย่างทหารวิลันดาที่ต้องเผชิญหน้ากับกองทหารบาหลีที่ถือกริชถือหอก ด้วยปืน
และชวาเหล่านั้นก็พร้อมใจกันวิ่งเข้าหากลุ่มกระสุนของพวกฮอลันดา ชนิดเอาศพเข้าไปถมเพิ่ม
ครั้งนั้นก็ไม่ปรากฏมีบันทึกในวงการอาวุธปืนว่า กองทัพเนเธอร์แลนด์ต้องเปลี่ยนขนาดกระสุนแต่อย่างใด
ก็ไม่รู้ว่าชาวดัชต์ใจแข็งกว่าอเมริกัน หรือพวกโมโรทรหดกว่าชาวบาหลี

แต่ที่ไม่ทราบแน่ๆ เลย ก็คือ ไม่รู้ว่าข้อมูลเรื่อง .45 นี้ เริ่มเพี้ยนกันมาแต่เมื่อไร



ขอบคุณที่แก้ไขความเชื่อผิดๆ ที่ผมมี นี่หล่ะหนาพระพุทธเจ้าสอนไว้ไม่จำเลย กาลามสูตรข้อแรกก็ไปแล้ว
ฟังมานานมากสามสิบกว่าปีแล้วจากปากนายตำรวจสูงอายุจนๆ ที่ยศไม่สูง เพราะไม่รับสินบน ไม่เลียแข้งเลียขาเจ้านาย
และท่านเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เกลียดญี่ปุ่นยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น ท่านเล่าถึงความระยำของญี่ปุ่นที่ทำต่อคนจีนไว้เลวร้ายขนาดไหน
และชาวสยามก็โดนแบบเดียวกันมิใช่น้อย แต่โดนปิดปากกันหมด และเปลี่ยนชื่อประเทศหนีอายโดยจอมพล ป

ไอ้ผมไม่มีเชื้อจีนแต่ไปไหนมาไหนเห็นอาตี๋อาหมวยขับรถญี่ปุ่น เข้าบ้านคนไทยเชื้อสายจีนเจอแต่โซนี่ โตชิบ้า ซันโย
ก็ยังแปลกใจไม่หายว่านั่นเขาอุดหนุนสินค้าของศัตรูกันหรืออย่างไร

แวบมา
24-05-12, 12:12 AM
ขอบคุณที่แก้ไขความเชื่อผิดๆ ที่ผมมี นี่หล่ะหนาพระพุทธเจ้าสอนไว้ไม่จำเลย กาลามสูตรข้อแรกก็ไปแล้ว
ฟังมานานมากสามสิบกว่าปีแล้วจากปากนายตำรวจสูงอายุจนๆ ที่ยศไม่สูง เพราะไม่รับสินบน ไม่เลียแข้งเลียขาเจ้านาย
และท่านเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เกลียดญี่ปุ่นยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น ท่านเล่าถึงความระยำของญี่ปุ่นที่ทำต่อคนจีนไว้เลวร้ายขนาดไหน
และชาวสยามก็โดนแบบเดียวกันมิใช่น้อย แต่โดนปิดปากกันหมด และเปลี่ยนชื่อประเทศหนีอายโดยจอมพล ป

ไอ้ผมไม่มีเชื้อจีนแต่ไปไหนมาไหนเห็นอาตี๋อาหมวยขับรถญี่ปุ่น เข้าบ้านคนไทยเชื้อสายจีนเจอแต่โซนี่ โตชิบ้า ซันโย
ก็ยังแปลกใจไม่หายว่านั่นเขาอุดหนุนสินค้าของศัตรูกันหรืออย่างไร

สามสิบปีคิดได้ ก็ไม่สาย อาจจะทำให้จำได้ไปอีกหลายปีว่าควรรู้จักประมวลความคิดก่อนปักใจเชื่อ

ส่วนเรื่องอุดหนุนสินค้าของศัตรู ทำให้ผมนึกถึงบทประพันธ์ของ ป. อินทปาลิต ในยุคใกล้เคียงกันนั้น
ท่านเล่าว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ทำตัวเป็นญี่ปุ่นน้อย
คือชาตินิยมขวาจัด ต่อต้านสินค้าต่างชาติทุกชนิดและเกลียดชังคนจีนเป็นที่สุด
(ผมขอใช้คำว่าไทย เพราะไทยเราเรียกตัวเองว่าไทยมานาน อาจจะไม่น้อยกว่าที่คนชอบคิดว่าเราเพ่อเปลี่ยนเป็นไทย)

ถ้าคุณอยากใช้ความคิดอีกครั้ง ก็ลองมองไปรอบๆ ตัวของคุณเอง หรือในขณะที่อ่านบทความนี้ลองเพ่งมองไปข้างหน้า
หรือแต่งตัวออกจากบ้านแล้วสำรวจดูสิว่ามีสิ่งของอะไรที่เกี่ยงเนื่องเชื่อมโยงกับต่างชาติ หรือโดยเฉพาะชาติที่คุณเรียกว่าศัตรูอยู่บ้าง
สำหรับผม มีความคิดที่ปฏิเสธสินค้าฝรั่งเศษ(ใช้ตัวสะกดโดยตั้งใจ) มาแต่รู้ความ
จนมาบรรลุไม่นานนี้เองว่า การเหยียบย่ำฝรั่งเศษอยู่ใต้ฝ่าเท้านั้น มันรู้สึกดีเพียงใด :2TU:

ปู่เหา
24-05-12, 09:12 AM
ขออภัย.....ตกลงกำลังพูดถึงอำนาจการหยุดยั้งของลูกกระสุนหรือความสามารถของผู้ใช้กระสุนนั้นๆ ตามความคิดของผมซึ่งคงจะแตกต่างจากคนอื่นถ้าคนโดนยิงที่หัวใหล่ด้วยลูกขนาด .๔๕ย่อมมีการหยุดยั้งและทำลายมากกว่า .๒๒ค่อนข้างแน่นอน นั่นเป็นการหยุดยั้งและทำลายของลูกกระสุน แต่ถ้าคนโดนยิงที่ใหล่ด้วย .๔๕กับโดนยิงที่หัวด้วย .๒๒ย่อมเกิดความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเล็งยิงเนียนๆที่จุดตายทำได้ไม่ง่ายต้องผ่านการฝึกอย่างหนักทั้งด้านการยิงแบบเป้านิ่งและการต่อสู้ต้องฝึกจนเข้ากระแสเลือดซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะทำได้แม้กระทั่งผู้ที่ทำคะแนนในการแข่ง ไอพีเอสซี ได้ดีมากพอไปแข่งในสนามแข่งที่คนร้ายมีตัวประกันเหมือนที่เคยแข่งแต่ต่างที่คนร้ายก็มีอาวุธและยิงตอบโต้ได้ก็เละเทะกันมามากแล้ว ผมเป็นชาวบ้านธรรมดาๆมีปืนหนึ่งกระบอกไว้ป้องกันครอบครัวเคยนำไปฝึกเพื่อเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยและการใช้งานหวังว่าถ้าถึงคราวจำเป็นหนึ่่งนัดที่ยิงไปไม่ว่าจะถูกส่วนใดของร่างกายจะต้องหยุดยั้งภัยคุกคามได้เพื่อให้ผมมี่โอกาสหนีหรือตามไปซ้ำได้อย่างปลอดภัย......ผมกำลังพูดถึงอำนาจการหยุดยั้งของกระสุนไม่ใชความสามารถความสามารถของผู้ใช้กระสุน

ตาเกิ้น
24-05-12, 03:19 PM
มาต่อกันครับ

เมื่อตัดที่ใหญ่ไปแรงไป และเล็กไปเบาไปออกไปแล้ว เหลืออะไรอีกบ้าง

.32 Auto

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/5/55/7.65x17_mm_Browning_ReconTanto.jpg

.32 Auto เคยเป็นปืนที่ตำรวจ New York เคยใช้ในยุคที่ปืน Auto ออกมาใหม่ๆ แต่เพียงไม่นานก็พบว่ากระสุนเบาเกินไปที่จะหยุดคนร้าย ตำรวจทางยุโรปเคยจ่ายปืน .32 Auto ให้กับนายตำรวจเหมือนกับเป็นส่วนประกอบของเครื่องแบบ แต่ไม่นานนักเมื่ออาชญากรรมในยุโรปเพิ่มขึ้นก็เปลี่ยนเป็นปืนที่มีอำนาจหยุดยั้งสูงขึ้น

ปัจจุบันกระสุนขนาดนี้มีใช้ในปืน Auto ขนาดเล็กที่สะดวกต่อการพกซ่อน แต่อำนาจของกระสุนเองไม่น่าเชื่อถือนัก หากไม่มีทางเลือกจริงและต้องใช้ปืนขนาดนี้ก็จะต้องเลือกกระสุนหัวรูดีๆติดปืนก็จะช่วยได้อีกนิดหน่อย
http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSDjSA-ZzevHisIN00zYAdlF9c_8gIfdjBl6JSq99DstY_yAsymXtaxxc1Y
http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRr0CwXaIEpAUV87xt82ySvxRe1yP8mbbvbh3ymI1XdbmpE3YMoLYg4NXoH

ตาเกิ้น
24-05-12, 05:27 PM
.38 Auto

ตัวนี้ละครับที่ผมสนใจเป็นพิเศษ เพราะผมใช้อยู่เองเป็นปืนติดตัว

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/0/0d/380_Auto_vs_9mm_Luger.jpg


กระสุนขนาดนี้ดูเหมือนจะเป็นกระสุนที่ที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายบอกว่าเป็นเส้นแบ่งระหว่างกระสุนที่มีอำนาจหยุดยั้งพอที่จะไว้ใจได้ บางคนบอกว่าเป็นกระสุนที่ป้องกันตัวได้พอดีๆ บางคนก็บอกว่าเป็นกระสุนที่เกือบจะใช้ได้ (คือใช้ไม่ได้ครับ)

.38 Auto ใช้หัวกระสุนขนาด 90 เกรน ให้ความเร็วปากลำกล้องประมาณ​1000 ฟิตต่อวินาที กระสุนชนิดนี้ถ้าเป็นลูกหัวทองแดงธรรมดาจะเจาะลึกเกินไปและไม่สร้างบาดแผลที่กว้างนัก ด้วยน้ำหนักหัวกระสุนที่ค่อนข้างเบา หัวกระสุนมักจะแฉลบเมื่อกระทบของแข็งและอาจจะไม่เข้าที่สำคัญ ด้วยความเร็วที่ค่อนข้างต่ำ หัวกระสุนที่เป็นหัวรูก็อาจจะบานบ้างไม่บานบ้าง และเมื่อบานก็อาจจหมดพลังงานที่จะเจาะลึกเข้าไป

จากการทดลองที่ Massad Ayub ทำขึ้นมาเอง ก็พบว่า .380 ไม่ใช่กระสุนที่จะไว้ใจได้ในการป้องกันตัวเสมอไปนัก แต่หากจะใช้จริงๆเพราะว่าเป็นปืนขนาดเล็กพอที่จะพกติดตัวได้ ก็ควรจะเลือกกระสุนที่ดีที่สุดที่จะหาได้อย่าง Winchester Ranger, Remington Golden Saber, Federal Hydra-Shok หรือ Cor-Bon

http://3.bp.blogspot.com/-bwun0AvKeZM/TeWSWoDpG8I/AAAAAAAAAB8/jLh1Qimwp7Q/s1600/RugerLCP2.jpg

แวบมา
24-05-12, 10:32 PM
ผมเคยเก็บตารางสถิติอำนาจหยุดยั้งของกระสุนปืน ในการยิงนัดเดียวเข้าสู่เป้าหมาย

เป็นตารางเก่า สิบกว่าปีก่อน แต่น่าจะมีประโยชน์บ้าง
แต่ขอเวลาค้นหาก่อนนะครับ
จำได้รางๆ ว่า กระสุน .๓๕๗ JHP เฟเดอรัล ทำคะแนนสูงสุดในยุคนั้น
ส่วนกระสุนแปลกๆ จำพวก เกลเซอร์เซฟตี้สลัก ตามหลักการทฤษฎีสวยหรู แต่ตัวอย่างทดลองคงน้อย

ตอนรับราชการใหม่ๆ ผมก็เห่อเรื่องพวกนี้
เที่ยวตามเก็บหัวกระสุนแปลกๆ มาใช้ติดปืน
แต่ทุกวันนี้รู้แล้วครับว่า แค่จะให้มีเงินเหลือพอหาซื้อลูกกระสุนใหม่ๆ
แบบที่ไม่ต้องระบุเน้นย้ำเลือกยี่ห้อ ชนิด/น้ำหนัก หัวกระสุน
หรือพูดง่ายๆ คือ ลูกอะไรก็ได้ มาเปลี่ยนลูกติดปืนก็ยังยาก :p

Tu555
25-05-12, 09:13 AM
นั่นนะสิ เห็นด้วยกะแวบมา
ผมชื่นชมญี่ปุ่นมากกว่าฝรั่ง

ตาเกิ้น
25-05-12, 09:53 AM
.38 Special

.38 Special เป็นกระสุนที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นกระสุนที่เบาที่สุดที่มั่นใจได้สำหรับการป้องกันตัว แต่ถึงกระนั้นก็ขึ้นอยู่กับกระสุนที่เลือกใช้เป็นอย่างมาก

แม้กระสุน .38 Special จะแรงพอและกระสุนบางชนิดเช่น กระสุนหัวตะกั่วหนัก 158 เกรน ที่เคยเป็นกระสุนหลักของตำรวจที่ใช้ปืน .38 ในยุคก่อนนั้น (ผมคิดว่าเราจะยังเจอกระสุนชนิดในปืนของตำรวจไทยอีกมาก) เจาะผ่านร่างกายไปโดยที่ไม่สามารถหยุดคนร้ายได้ จนมีหลายเหตุการณ์มากที่เจ้าหน้าที่ยิงใส่จนหมดโม่แล้ว คนร้ายก็ยังวิ่งสวนเข้ามาทำร้ายคนยิงถึงตายได้

กระสุน .38 ที่มีชื่อเสียงว่าหยุดคนร้ายได้ดีคือกระสุนที่ Winchester ผลิตให้กับ FBI เป็นหัวกระสุนตะกั่วล้วน หัวรูปลายตัด (Semi-Wadcutter Hollow point) หนัก 158 เกรน ที่ความเร็ว +P ซึ่งเหมาะมากกับปืนลำกล้องมาตรฐาน 4”
http://www.hipowersandhandguns.com/Image46.jpg

ในปัจจุบันมีกระสุน .38 ใหม่ๆออกมาอีกมาก ถ้าจะใช้กับปืนลำกล้องสั้นๆ 2” ยิงต้องเลือกกระสุนให้ดีเพราะกระสุนหัวรูบางชนิดอาจจะไม่ทำงานเมื่อมีความเร็วต่ำลงเพราะยิงจากปืนลำกล้องสั้น กระสุนที่ Massad Ayub แนะนำสำหรับปืนลำกล้องสั้นคือ Federal NyClad ซึ่งเป็นกระสุนหัวรูเคลือบด้วยไนล่อน (ไม่แน่ใจว่าจะหาซื้อในบ้านเราได้หรืเปล่านะครับ)
http://media.midwayusa.com/productimages/large/724/724210.jpg

อีกชนิดหนึ่งที่แนะนำกันมากก็คือ Federal HydraShok ครับ
http://www.ammunitionstore.com/product_images/k/761/38_special_p_129gr_hydra_shok_jhp_box__18302_zoom.jpg

ejom
25-05-12, 09:09 PM
.....พรานเกิ้นขอรับ ผมได้แบบนี้มา

http://i284.photobucket.com/albums/ll2/eedjom/38p.jpg

เป็น 38สเป บวกพี เซมิ แจ็คเก็ต แถมฮอลโลว์ป๊อย หนัก158เกรน
ยิงจากไอ้จู๋ 1นิ้ว7/8 เอาไปลองยิงแกลลอนน้ำมันเครื่องบรรจุน้ำ
กะว่าระเบิดกระจายแน่ :) ปรากฏว่าแค่ทะลุ น้ำไหลจ๊อกๆ

มันจู๋เกินไปหรือเปล่าขอรับ :D

ตาเกิ้น
25-05-12, 11:04 PM
ท่านเล่าถึงความระยำของญี่ปุ่นที่ทำต่อคนจีนไว้เลวร้ายขนาดไหน
และชาวสยามก็โดนแบบเดียวกันมิใช่น้อย แต่โดนปิดปากกันหมด และเปลี่ยนชื่อประเทศหนีอายโดยจอมพล ป

ไอ้ผมไม่มีเชื้อจีนแต่ไปไหนมาไหนเห็นอาตี๋อาหมวยขับรถญี่ปุ่น เข้าบ้านคนไทยเชื้อสายจีนเจอแต่โซนี่ โตชิบ้า ซันโย
ก็ยังแปลกใจไม่หายว่านั่นเขาอุดหนุนสินค้าของศัตรูกันหรืออย่างไร

นี่ก็อีกความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนครับ

ประเทศสยามเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยตั้งแต่ เดือนตุลาคม พ.ศ.2482 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบกถึงสองปี และเหตุผลหลักในการเปลี่ยนชื่อในตอนนั้นก็คือ
เพื่อใช้เป็นเหตุผลหนึ่งในการเรียกร้องดินแดนที่มีคนเชื้อชาติไทยอยู่จากฝรั่งเศษให้กลับมาเป็นเป็นอาณาจักรเดียวกัน (นัยว่าเป็นความคิดที่เอาแบบอย่างประเทศเยอรมัน) มิได้เป็นการเปลี่ยนชื่อประเทศหนีอายในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นสองปีหลังจากนั่นตามที่ท่านได้รับฟังมาครับ

ตาเกิ้น
25-05-12, 11:17 PM
.....พรานเกิ้นขอรับ ผมได้แบบนี้มา

http://i284.photobucket.com/albums/ll2/eedjom/38p.jpg

เป็น 38สเป บวกพี เซมิ แจ็คเก็ต แถมฮอลโลว์ป๊อย หนัก158เกรน
ยิงจากไอ้จู๋ 1นิ้ว7/8 เอาไปลองยิงแกลลอนน้ำมันเครื่องบรรจุน้ำ
กะว่าระเบิดกระจายแน่ :) ปรากฏว่าแค่ทะลุ น้ำไหลจ๊อกๆ

มันจู๋เกินไปหรือเปล่าขอรับ :D
ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ที่จริงน่าจะเหมาะกับปืนนะครับ เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะถังน้ำไม่ได้เหมือนเนื้อก็เป็นได้ครับ

แวบมา
26-05-12, 03:37 AM
นั่นนะสิ เห็นด้วยกะแวบมา
ผมชื่นชมญี่ปุ่นมากกว่าฝรั่ง

นั่นสิครับชาวญี่ปุ่นมักจะละเมียดละไม ทำอะไรประณีตแฝงปรัชญาซ่อนความละเอียดอ่อนมากกว่าฝรั่ง

เข้าใจว่า Tu555 หมายถึงเรื่องภาพยนตร์ด้วย ใช่ไหมครับ :rolleyes: :p

แวบมา
26-05-12, 03:55 AM
ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ที่จริงน่าจะเหมาะกับปืนนะครับ เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะถังน้ำไม่ได้เหมือนเนื้อก็เป็นได้ครับ

เข้าใจว่าน่าจะเป็นได้ครับพี่

ไม่งั้นฝรั่งคงไม่พยายามผสมแท่งเยลาตินให้ใกล้เคียงเนื้อคนมาใช้ทดสอบปืนดอกครับ
อีกอย่างหนึ่งคือ ความเหนียวแน่นของถังน้ำมันเครื่องแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นอาจจะไม่เหมือนกัน
หรือต่อให้เป็นรุ่นชนิดยี่ห้อทุกอย่างเหมือนกัน การแตกกระจายของน้ำ(ถ้ามี) ก็อาจต่างกันไปตามแต่มุมยิง (ยิงทางก้นถังก็อย่างหนึ่ง ยิงด้านข้างก็อาจจะอีกอย่างหนึ่ง)
แต่ถ้าพี่จ๋อมหาถังน้ำมันเครื่องรุ่นเก่าๆ ครั้งคุณปู่แต่งงานกับคุณย่า ที่ตากแดดตากยูวีมานานจนกรอบใกล้หมดอายุมาลองยิง
ภาพการระเบิดน้ำอาจกระจายสวยงามกว่าที่คิดไว้ก็เป็นได้ครับ

ในหลักการทดสอบหัวกระสุน นอกจากแท่งดินเหนียว หรือเยลาติน
อย่างหนึ่งที่นักทดสอบปืนบ้านเราอาจพอทำได้คือ ยิงลงในถังน้ำที่ทำมาเพื่อเก็บตัวอย่างหัวกระสุนโดนเฉพาะ
ว่ากันว่า กระสุนหัวรูยิงจากปืนลำกล้องสั้น ถ้ายิงลงน้ำเก็บตัวอย่างได้บานดี
ก็เป็นที่คาดเดาได้ในเบื้องต้นว่าเมื่อใช้ยิงคนแล้วก็น่าทำความเร็วได้พอที่จะแบะบานสร้างโพรงบาดแผลชั่วคราวและถาวรได้พอสมควรครับ
นอกจากนั้นก็เป็นการทดสอบยิงผ่านแผ่นไม้ที่มีความหนาแน่นต่างๆ และหรือยิงใส่วัตถุชีวภาพที่เนื้อหนาแน่นใกล้เคียงเนื้อหนังมนุษย์เป็นต้นครับ

ตาเกิ้น
26-05-12, 06:44 AM
นึกออกอีกอย่างครับ พี่ชัยยศอาจารย์ผมใช้มันแกวลูกใหญ่ๆในการทดสอบหัวกระสุนครับ

แวบมา
27-05-12, 01:04 AM
นึกออกอีกอย่างครับ พี่ชัยยศอาจารย์ผมใช้มันแกวลูกใหญ่ๆในการทดสอบหัวกระสุนครับ

นั่นแหละครับพี่ วัตถุชีวภาพที่ผมว่า :D

แวบมา
27-05-12, 01:44 AM
ไหนๆ ก็จะพูดกันเรื่องกระสุนปืนแล้ว ขออนุญาตคัดลอกตำรามาเลยก็แล้วกันครับ
สำหรับคนที่เพ่อจะสนใจอยากเล่นปืน(มือใหม่) หรือมือเก่าบางท่านที่อาจไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อนหรืออาจรู้จนลืมไปแล้ว

เริ่มตั้งแต่มารู้จักหัวกระสุนชนิดต่างๆ กันก่อน
เพราะกระสุนแต่ละขนาดอาจใช้หัวกระสุนต่างชนิดกันก็ได้
มาดูและทำความรู้จักกับความหมายที่ส่วนมากเขาจะบอกไว้ข้างกล่องกระสุนกันก่อน เอาเฉพาะที่พบเห็นได้บ่อยๆ นะครับ

SWC ย่อมาจาก Semi-Wadcutter หมายถึง กระสุนชนิดกึ่งปลายตัด คือหัวตันคล้ายหัวมน แต่ด้านปลายตัดตรงไม่เป็นทรงมน (ว่ากันว่า ฝรั่งออกแบบมาให้เป็น "ลูกเจาะกระดาษ")
LRN ย่อมาจาก Lead Round Nose หมายถึง กระสุนชนิดหัวมน ทู่ๆ ตันๆ
LHP ย่อมาจาก Lead Hollow Point หมายถึง กระสุนชนิดหัวรู
FMJ ย่อมาจาก Full Metal Jacket หมายถึง กระสุนชนิดหัวมนหุ้มเปลือกโลหะแข็ง (โลหะหุ้มด้านปลายของหัวกระสุน บางทีถึงจะหุ้มไม่หมดเห็นตะกั่วอยู่ด้านท้ายบ้าง ก็จัดเป็น FMJ)
JHP ย่อมาจาก Jacketed Hollow Point หมายถึง กระสุนชนิดหัวรูหุ้มเปลือกโลหะแข็ง
SJHP ย่อมาจาก Semi-Jacketed Hollow Point หมายถึง กระสุนชนิดหัวรูหุ้มเปลือกโลหะแข็งด้านท้ายของหัวกระสุน โดยเว้นส่วนปลายไว้ ไม่หุ้ม
JSP ย่อมาจาก Soft Point หมายถึง กระสุนชนิดหัวมนนหุ้มเปลือกโลหะแข็งครึ่งหนึ่ง(ด้านท้ายหัวกระสุน)
JPF ย่อมาจาก Jacketed Pre-Fragmented หมายถึง กระสุนชนิดมีเปลือก แต่ภายในเปลือกหุ้มจะมีหัวกระสุนเม็ดเล็กๆ อัดแน่นอยู่ ซึ่งกระสุนเม็ดเล็กๆ เหล่านั้นจะกระจายตัวออกเมื่อยิงเข้าสู่เป้าหมาย
PHP ย่อมาจาก Plated Hollow Point หมายถึง กระสุนชนิดหัวรู เคลือบด้วย โลหะหรือวัตถุเคมีอื่นๆ (เช่น ไนลอน , เทฟลอน ฯลฯ)
BHP ย่อมาจาก Bonded Hollow Point หมายถึง กระสุนชนิดหัวรูหุ้มเปลือกโลหะแข็ง แต่หุ้มเปลือกด้วยวิธีทางเคมีบางชนิดที่จะทำให้หัวกระสุนคงรูปได้ดี แม้จะยิงผ่านวัตถุ (ซึ่งไม่หนานัก) ที่คั่นอยู่หน้าเป้าหมาย (ถ้าบานเสียรูปก่อนถึงตัวเป้าหมายอำนาจเจาะลึกจะลดลง)
TMJ ย่อมาจาก Total Metal Jecket หมายถึง กระสุนชนิดตะกั่วหัวมนหุ้มเปลือกโลหะแข็ง (เหมือน FMJ แต่หุ้มเต็มทั้งหมดตั้งแต่ปลายจรดท้าย)

แวบมา
28-05-12, 03:44 AM
ขอโฆษณาคั่นเวลา

เมืองไทยเราก็มีหนังสือดีๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของกระสุนปืน
นั่นคือหนังสือ " CARTRIDGES ทดสอบกระสุน " แต่งโดย คุณชัยยศ ชิโนกุล ครับ

http://img389.imageshack.us/img389/7393/244pa0.jpg

เป็นหนังสือเกี่ยวกับ เรื่องราวความเป็นมา ลักษณะและปฎิบัติการของหัวกระสุนแบบต่างๆ
ในขนาด .38 สเปเชี่ยล , .22 ชอร์ท , .22 ลอง , .22 ไรเฟิล , .17 เอ็ชเอ็มอาร์ , 6.35 ม.ม. , แม็กเชฟ , พินไฟร์ ที่รวบรวมไว้อย่างละเอียดที่สุด

ลองหามาศึกษากันนะครับ
หรือถ้าอยากอ่านแต่หาซื้อไม่ได้ก็ลองแจ้งความประสงค์มา
ผมจะลองติดต่อไปถามพี่เขาให้ว่า ที่โรงพิมพ์ยังพอมีเหลือในคลังอยู่หรือไม่ครับ

Marshal Thorsak
28-05-12, 10:05 AM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลและสาระดีๆจากทุกท่านครับ

เมื่อเช้ามีโอกาสได้อ่านบทความของ Massad Ayoob เหมือนกันครับ เรื่องการเลือกอาวุธสำหรับต่อสู้คนร้ายที่บุกรุกเข้ามาในบ้าน

ผู้เขียนบรรยายว่า ความเชื่อว่าการใช้ปืนลูกซองบรรจุกระสุนลูกปรายจะได้ผลชะงัด และไม่เป็นอันตรายแก่ผู้ที่อาจโดนลูกหลงนั้น เป็นความเชื่อที่เลื่อนลอย โดยอธิบายเหตุผลและประสพการณ์ประกอบ

สุดท้ายผู้เขียนแนะนำว่า หากจะเลือกใช้ปืนยาว ควรเลือกใช้ไรเฟิล

Marshal Thorsak
28-05-12, 10:18 AM
นี่ก็อีกความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนครับ

ประเทศสยามเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยตั้งแต่ เดือนตุลาคม พ.ศ.2482 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบกถึงสองปี และเหตุผลหลักในการเปลี่ยนชื่อในตอนนั้นก็คือ
เพื่อใช้เป็นเหตุผลหนึ่งในการเรียกร้องดินแดนที่มีคนเชื้อชาติไทยอยู่จากฝรั่งเศษให้กลับมาเป็นเป็นอาณาจักรเดียวกัน (นัยว่าเป็นความคิดที่เอาแบบอย่างประเทศเยอรมัน) มิได้เป็นการเปลี่ยนชื่อประเทศหนีอายในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นสองปีหลังจากนั่นตามที่ท่านได้รับฟังมาครับ

เป็นประวัติศาสตร์ไทยอีกช่วงหนึ่งที่น่าศึกษามากครับ

ดูเหมือนว่าญื่ปุนจะเข้ามามีอิทธิพลในสยามอยู่พักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ก่อนสงครามอินโดจีน และรัฐบาลในขณะนั้นก็ค่อนข้างเลือกปฎิบัติต่อชาวจีนในสยาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีนที่ต่อต้านญี่ปุ่นอย่างเปิดเผย และชาวจีนที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับพ่อค้าชาวจีนด้วยกัน (บางครั้งถึงขั้นลอบทำร้ายกัน) ที่ไปคบหาทำการค้ากับญี่ปุ่น

การเปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามเป็นไทย บ้างก็มองว่า เป็นการกีดกันทางเชื้อชาติด้วยเหมือนกัน เป็นนัยว่า ประเทศนี้เป็นของผู้ที่มีเชื้อชาติไทยเท่านั้น เชื้อชาติอื่นเป็นเพียงผู้อาศัย

ผมก็อ่านๆเขามานะครับ ท่านอื่นอ่านเจออะไรอีกก็อย่าลืมมาแชร์กัน

แวบมา
28-05-12, 12:43 PM
ขออภัย.....ตกลงกำลังพูดถึงอำนาจการหยุดยั้งของลูกกระสุนหรือความสามารถของผู้ใช้กระสุนนั้นๆ ตามความคิดของผมซึ่งคงจะแตกต่างจากคนอื่นถ้าคนโดนยิงที่หัวใหล่ด้วยลูกขนาด .๔๕ย่อมมีการหยุดยั้งและทำลายมากกว่า .๒๒ค่อนข้างแน่นอน นั่นเป็นการหยุดยั้งและทำลายของลูกกระสุน แต่ถ้าคนโดนยิงที่ใหล่ด้วย .๔๕กับโดนยิงที่หัวด้วย .๒๒ย่อมเกิดความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเล็งยิงเนียนๆที่จุดตายทำได้ไม่ง่ายต้องผ่านการฝึกอย่างหนักทั้งด้านการยิงแบบเป้านิ่งและการต่อสู้ต้องฝึกจนเข้ากระแสเลือดซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะทำได้แม้กระทั่งผู้ที่ทำคะแนนในการแข่ง ไอพีเอสซี ได้ดีมากพอไปแข่งในสนามแข่งที่คนร้ายมีตัวประกันเหมือนที่เคยแข่งแต่ต่างที่คนร้ายก็มีอาวุธและยิงตอบโต้ได้ก็เละเทะกันมามากแล้ว ผมเป็นชาวบ้านธรรมดาๆมีปืนหนึ่งกระบอกไว้ป้องกันครอบครัวเคยนำไปฝึกเพื่อเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยและการใช้งานหวังว่าถ้าถึงคราวจำเป็นหนึ่่งนัดที่ยิงไปไม่ว่าจะถูกส่วนใดของร่างกายจะต้องหยุดยั้งภัยคุกคามได้เพื่อให้ผมมี่โอกาสหนีหรือตามไปซ้ำได้อย่างปลอดภัย......ผมกำลังพูดถึงอำนาจการหยุดยั้งของกระสุนไม่ใชความสามารถความสามารถของผู้ใช้กระสุน

พี่ใช้ปืนอะไรอยู่ครับ

ขออนุญาตถามเพื่อจะได้จัดลัดคิวหาคำตอบให้เป็นพิเศษ :cool:

ปู่เหา
31-05-12, 01:50 PM
สวัสดีครับ ศาลาวัด ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงมากครับ ผมใช้ .๔๕ ของ glock ไม่ต้องลำบากหาอะไรต่อมิอะไรให้ผมหรอกครับ ความเห็นและมุมมองของผมค่อนข้างจะ แตกต่างและแตกแยก จากชาวบ้านชาวเมืองคนปกติแต่ก็ขอขอบคุณที่สนใจ

Thammaluk
31-05-12, 08:33 PM
สวัสดีครับ ศาลาวัด ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงมากครับ ผมใช้ .๔๕ ของ glock ไม่ต้องลำบากหาอะไรต่อมิอะไรให้ผมหรอกครับ ความเห็นและมุมมองของผมค่อนข้างจะ แตกต่างและแตกแยก จากชาวบ้านชาวเมืองคนปกติแต่ก็ขอขอบคุณที่สนใจ

น่าจะเป็น G21 แม็กเดียวบรรจุกระสุนได้เป็นโหล เสียดายแย่ถ้าจะยิงนัดเดียวเอง :D

แวบมา
01-06-12, 02:20 PM
น่าจะเป็น G21 แม็กเดียวบรรจุกระสุนได้เป็นโหล เสียดายแย่ถ้าจะยิงนัดเดียวเอง :D

ปืนพกยิงนัดเดียวมันลูกซองเดี่ยวไทยประดิษฐ์แล้วครับพี่ทนาย :p :p :p

Marshal Thorsak
03-06-12, 12:10 AM
วันนี้อ่าน มาสสาด อายูบ ต่อจากที่ค้างไว้ (ในหนังสือ Complete Book of Handguns 2012 หน้า 72 บทที่ว่าด้วยเรื่อง Burning Ammo) สรุปว่า แกแนะนำกระสุนยี่ห้อและขนาดเหล่านี้ไว้สำหรับใช้งานครับ คือ

Speer GoldDot 38 SPL +P 125gr GDHP

Winchester Ranger 9mm LUGER +P+ 127gr T-SERIES

Remington Golden Saber 357 SIG 125gr BJHP (บ้านเราคงหาปืนยากมั้ง)

Remington UMC 357 MAGNUM 125gr SJHP

Speer Blazer 44 S&W SPECIAL 200gr GDHP

Winchester White Box 45 ACP 230gr HP

Fegeral Premium 45 Auto (+P) 230gr HST HP

ที่น่าสนใจอีกอย่าง มาสสาดพูดถึงกระสุนจริงสำหรับซ้อมมือ อย่าง MagTech และ Speer Lawman (เวลานี้มีขายอยู่ที่สนาม ศรภ.) ว่า เป็นกระสุนคุณภาพดี ความแม่นยำคงที่ใช้ได้ โดยเฉพาะ MagTech ของบราซิลนี้ แม่นยำกว่ากระสุนอเมริกันหลายยี่ห้อที่แพงกว่าเสียอีก

ตาเกิ้น
12-06-12, 09:43 AM
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/168214_464031656957722_1132259936_n.jpg

ชัดๆ เข้าใจง่าย:fighting0023::fighting0023:

แวบมา
12-06-12, 11:58 AM
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/168214_464031656957722_1132259936_n.jpg

ชัดๆ เข้าใจง่าย:fighting0023::fighting0023:

หัวเขียวด้วย :cool:

ejom
12-06-12, 01:10 PM
...


ปืนครูฝึก(โค้ช) :)


<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/XpDL2dadvmc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

แวบมา
22-06-12, 03:29 AM
การจดจำฝังใจในข้อมูลผิดๆ แล้วคิดจินตนาการเชื่อมโยงข้อมูล ผสมปนเป จนเชื่อสนิทใจว่าเป็นความจริง

อาจจะเป็นเหตุให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนกระจายออกไปเรื่อยๆ

ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อยากจะให้ช่วยกันทักท้วงเมื่อมีข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนออกมาครับ



อย่างกรณีนี้

ผมเชื่อว่า พี่ๆ ที่เล่นปืนมาแต่รุ่นเก่าคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า
คู่ศึกที่ทำให้ทหารในกองทัพสหปาลีรัฐอเมริกัน สมัครใจเปลี่ยนขนาดกระสุน จากหน้าตัด .38 นั้น
หาใช่ ญี่ปุ่นเมายาม้า สมัยสงครามโลก อย่างที่มีผู้ประมาทไว้ไม่ครับ
หากแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดยังหมู่เกาะฟิลิปปินส์ไกลโพ้น โดยจารึกบนกองซากศพนักรบเผ่าโมโรผู้ทรงเกียรติ
ในช่วงสงครามล่าเมืองขึ้น หรือศึกระหว่าง อเมริกัน-โมโร เมื่อคริสตกาลผ่านได้ประมาณ 1899-1913 ปี

และที่จริงแล้ว นักรบชาวญี่ปุ่นที่แท้จริงผู้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีโดยทั่วไป มิพักต้องเสพยาม้าหรือเมายาบ้าที่ไหน
ก็อาจจะกล้าหาญกว่าคนตัวใหญ่กว่าโดยไม่เกี่ยงรุ่น นั้นเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ด้วยประวัติศาสตร์อยู่แล้วครับ
สู้ได้หรือไม่ได้นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ แต่เขาสู้แน่

อาจจะจริงว่าทหารอเมริกันขวัญไม่แข็งอย่างทหารวิลันดาที่ต้องเผชิญหน้ากับกองทหารบาหลีที่ถือกริชถือหอก ด้วยปืน
และชวาเหล่านั้นก็พร้อมใจกันวิ่งเข้าหากลุ่มกระสุนของพวกฮอลันดา ชนิดเอาศพเข้าไปถมเพิ่ม
ครั้งนั้นก็ไม่ปรากฏมีบันทึกในวงการอาวุธปืนว่า กองทัพเนเธอร์แลนด์ต้องเปลี่ยนขนาดกระสุนแต่อย่างใด
ก็ไม่รู้ว่าชาวดัชต์ใจแข็งกว่าอเมริกัน หรือพวกโมโรทรหดกว่าชาวบาหลี

แต่ที่ไม่ทราบแน่ๆ เลย ก็คือ ไม่รู้ว่าข้อมูลเรื่อง .45 นี้ เริ่มเพี้ยนกันมาแต่เมื่อไร

มีภาพถ่ายเก่าอยู่ภาพหนึ่งผมเห็นคุ้นตามาตั้งแต่เริ่มเล่นกริช ซึ่งส่วนมากฝรั่งจะบรรยายทำนองว่า "Moro chief" ผมก็ดูผ่านตา

จนกระทั่งมาพบอยู่เว็บหนึ่ง( http://www.morolandhistory.com/02.PG-Moros/5.moros_c1900.htm ) เขาใช้คำว่า

"Panglima Hassan of Jolo ...it took 33 bullets to bring him down"

ผมจึงสะดุดใจขึ้นมา เพราะเคยได้ยิน อ.พิชัย แก้วขาว ท่านบอกว่า ปังลีมาเป็นคำเรียกตำแหน่งแม่ทัพในภาษามลายู
และเมื่อค้นหาต่อก็พบบทความที่เกี่ยวข้องดังนี้ครับ

"In early November 1903, Hassan and about 3,000 to 4,000 warriors besieged the American garrison in Jolo. Armed only with krises (wavy-edged swords) and some old rifles, they bottled up the Americans for a week before being forced to withdraw. Following a battle, Hassan was captured while bathing near his camp at Lake Seit in late November 1903, but he soon escaped. He resumed the war in February 1904 when, together with Datu ("Chief") Laksamana and Datu Usap, they attacked the pro-American Sultan Kiram and his forces in the battle of Pampang. He lost in the battle, and was later killed with his two companions along the crater of Bud Bagsak. Hassan had 17 wounds in his body, but died game, crawling with his kris in his mouth toward the nearest wounded American soldier when the last bullet dispatched him."

ด้านบนนั้นเป็นบันทึกประวัติศาสตร์
ส่วนด้านล่างนี่เข้าใจว่าเป็นความเห็นส่วนตัวครับ

"The 1911 was called into service some years later when American troops in the Philippines encountered Moro Warriors and their issue .38 revolvers had little effect. They got tired of pumping .38 rounds into these crazed Warriors and need a man stopper round. If you ever run into a guy like the one above, you better be carrying this...."

(ที่มาจาก http://www.chopcult.com/forum/showthread.php?t=5395&page=18 )





และนี่คือภาพของบุรุษที่ประวัติศาสตร์ต้องจารจารึกชื่อของท่านไว้ครับ

http://www.freewebs.com/philippineamericanwar/Panglima%20Hassan%20in%20early%201900s%20KIA%20March%204%201904.jpg

(ที่มาของภาพและติดตามศึกษาข้อมูลของศึกโมโรเพิ่มเติมได้จาก http://philippineamericanwar.webs.com/stallingmororesistance.htm )