PDA

View Full Version : รู้จักแพ้ให้เป็น



วิธ
05-06-12, 05:38 PM
:cool::cool::cool: ไปเจอบทความดีๆเลยเอามาแบ่งปันกัน

พระอาจารย์ กล่าวว่า "ชะรา ธัมโมมหิ ชะรัง อะนะตีโต เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่อาจล่วงพ้นความแก่ไปได้ บางคนทำใจไม่ได้ที่ตัวเองแก่ ในเมื่อทำใจไม่ได้ที่ตัวเองแก่ ก็เลยพยายามที่จะไม่แก่ บรรดาสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำให้ดูไม่แก่ มักจะมีราคาแพง จริงๆ แล้วไม่ใช่ไม่แก่นะ ยังแก่อยู่ แต่ทำให้ดูไม่แก่ ดังนั้น..คุณค่าของความพยายามที่จะไม่แก่จึงแพงตามไปด้วย

อย่างที่เคยบอกกับญาติโยมว่า ตอนไปพุทธาภิเษกให้กับสมาคมศิลปินเพื่อพระพุทธศาสนา อาตมาเจอพวกดารา เห็นเขาต้องสวยอยู่ตลอดเวลาแล้วเหนื่อยแทน เป็นอะไรที่ดูแล้วน่าเหนื่อยใจมาก ต้องพยายามแต่งให้ดูดี เพราะว่าถ้าดาราดูไม่ดีเมื่อไรอาจจะตกงานไปเลย บางทีก็ต้องสร้างกระแสเพื่อให้อยู่ในความสนใจของคน จะได้มีงาน พอดูๆ ไปแล้วก็จะรู้สึกว่าเหนื่อยมากจริงๆ"

"เมื่อไม่นานนี้มีคนมาคร่ำครวญอยู่หลายราย ว่าลูกสอบเข้าเรียนไม่ได้ นั่นก็ยิ่งเหนื่อย ความจริงลูกมีที่เรียน แต่พ่อแม่อยากให้เรียนอีกที่หนึ่งก็เลยต้องไปสอบแข่งกับเขา พอไม่ได้ขึ้นมาลูกไม่เสียใจเท่าไรหรอก แต่พ่อแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับไปเป็นอาทิตย์เลย

พูดถึงเรื่องนี้ก็ไปนึกถึงสมัยก่อน มีนักเทนนิสคนหนึ่ง คือ มาร์ติน่า ฮินกิส บางทีมาร์ติน่า ฮินกิส ก็ได้แชมป์ บางทีก็ตกรอบแรก บางทีก็ตกรอบสองรอบสาม บางทีก็เข้ารอบชิงแล้วก็ได้แค่รองแชมป์ อาตมาฟันธงว่ารายนี้ต่อไปจะเก่ง มีคนถามว่าทำไม อาตมาบอกว่าเพราะเขา แพ้เป็น คนที่แพ้เป็น จะไม่ไปคร่ำครวญเสียใจให้แก่สิ่งที่พ่ายแพ้ แต่จะพิจารณาดูว่าแพ้เพราะอะไร แล้วแก้ไขจุดบกพร่องของตน แล้วต่อไปเขาก็จะชนะ

เด็กคนไหนถ้าสอบตกแล้วแพ้เป็น เด็กคนนั้นต่อไปอนาคตจะไกล คำว่าแพ้เป็น แปลว่ายอมรับว่าตัวเองสอบไม่ได้ แล้วก็ไปพิจารณาว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เมื่อแก้ไขตรงจุดนั้นแล้ว ต่อไปก็จะไม่สอบตกอีก เขาก็ต้องไปวิเคราะห์ว่าทำไมตัวเองสอบไม่ได้ ขี้เกียจอ่านหนังสือ หรือว่าไม่ชอบวิชานั้นก็เลยไม่สนใจที่จะเรียน เหล่านี้เป็นต้น"

สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕



ขอบคุณบทความจาก วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี

sunny
05-06-12, 09:03 PM
ขอบคุณที่แชร์ค่ะป๋า:)

palm191139
05-06-12, 09:31 PM
ขอบคุณครับ
ขอ อนุญาติ ก๊อปไปนะครับ

jackagee
05-06-12, 10:58 PM
เป็นบทความที่ให้ปัญญาจริงๆครับ:2TU::2TU:
สามารถนำไปปรับใช้กับการกีฬาได้อย่างดี
และผมว่า คนที่รู้จักแพ้ ไม่ใช่เฉพาะคนที่เล่่นกีฬาเท่านั้น
เราทุกคนล้วนต้องรู้จักมองการแพ้ในแบบสร่้างสรรค์
มิใช่เย้ยหยันผู้แพ้ หรือดูแคลนให้น่าอาย
หากต้องชื่นชมและปลอบใจ เพื่ิอเป็นกำลังใจให้ผู้แพ้ได้สู้ต่อ

ผมว่า คนแบบนี้แหละ คือคนที่เข้าใจกีฬาอย่างแท้จริง

Drunken_Writer
05-06-12, 11:03 PM
ขอบคุณมากมายครับป๋า

JOEdogtag
05-06-12, 11:17 PM
ขอบคุณครับ...

ชอบทั้งของพี่วิธและที่แจ๊คเขียนครับ

หาที่กด Like ไม่เจอ :D

HELLBOY
06-06-12, 02:11 AM
http://upic.me/i/rk/facebook-like-buton.png

Archer Chan
06-06-12, 02:31 AM
http://upic.me/i/rk/facebook-like-buton.png

เยี่ยมครับป๋า

ตาเกิ้น
06-06-12, 06:29 AM
เรื่องแพ้นี่ผมไม่ยอมแพ้ใครแน่นอน แพ้มาเกือบทุกแมทช์แล้ว:rolleyes:

เมื่อวันอาทิตย์ได้คุยกันอยู่ในสนามเลยว่ากีฬายิงธนูนั้นเป็นกีฬาของสุภาพชนที่ขาวสะอาดและชัดเจนจริงๆ

ลูกธนูที่ปักบนเป้าก็เห็นชัดว่าใครยิงได้คะแนนเท่าไหร่ (ต่างกับกีฬาที่ต้องมีกรรมการให้คะแนนอย่างมวย, กระโดดน้ำ ฯ),​ การนับคะแนนการจดแต้มก็เป็นระบบที่ใช้ความซื่อตรงและต้องตรวจสอบกันเองระหว่างนักธนูมีอะไรก็เป็นหน้าที่ต้องทักท้วงแก้ไขกันเอง, ใครชนะใครแพ้เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับกันแบบไม่มีข้อครหา

เมื่อถอนลูกเดินออกจากเส้นยิงแล้วในใจต้องจบ แพ้เป็นแพ้ ยินดีกับผู้ชนะที่ทำได้ดีกว่าเรา ว่ากันใหม่ในลูกธนูลูกต่อไปที่จะยิง (อาจจะเป็นแมทช์หน้าเลย)

ตู่
06-06-12, 08:18 AM
...ซึ้งครับ..ขอบคุณขอรับ..ขอรับไว้ปฏิบัติ..ขออนุญาติเผยแพร่ต่อไปนะขอรับ..(ว่าแต่ป๋าเปลี่ยนแนวเป็นสายธรรมแล้วหรือขอรับ อิอิ ล้อเล่นนะ):p

pumkin
06-06-12, 10:44 AM
ปีนี้กดแต่ออดออด ยิงไม่เท่าไหร่และก็ไม่ได้ออกเสียงxxx

ตู่
06-06-12, 02:40 PM
ปีนี้กดแต่ออดออด ยิงไม่เท่าไหร่และก็ไม่ได้ออกเสียงxxx

..น่าฉงฉานแท้เน้อ...:p