PDA

View Full Version : ดาบพระนเรศวร ที่เชียงใหม่



oxic
29-06-12, 06:37 PM
" สำหรับดาบโบราณเล่มนี้มีความยาวจากด้ามจรดปลายประมาณ 1.2 เมตร มีความกว้างช่วง กลางดาบประมาณ 4 นิ้ว ด้ามดาบทำด้วยงาช้าง ขณะที่ตัวเล่มดาบคาดว่าทำจากเหล็กน้ำพี้ บนเล่มดาบยัง ปรากฏอักขระอักษรขอม และภาพราหูจารึกประทับไว้ตลอดทั้งเล่มทั้งสองด้าน ซึ่งจากภาพอักษรและตาราง ทรงกลมที่ปรากฏเชื่อว่าดาบเล่มนี้จะถูกใช้ในการคำนวนฤกษ์ยามในการออกทัพด้วย "

ไปอ่านที่ คมชัดลึก (http://www.komchadluek.net/detail/20120629/133973/%E0%B8%AE%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%B2!%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%A3.html)

ผมว่าใหญ่โตมาก 48นิ้ว กว้าง 4นิ้ว คนโบราณสูงแปดศอกคง จริง ^^

ส่วนเรื่อง พิสูจน์ ถ้าว่าตามตัวเลข พระนเรศวรสวรรคตพ.ศ.2148 วัดสร้าง พ.ศ.2282

น้าสอ
29-06-12, 08:17 PM
ท่านว่าไม่เชื่อก้ออย่าลบหลู่

ไม่ได้ลบหลู่ แต่ขอแสดงจุดยืนไว้ก่อนว่า ไม่เชื่อ . . . จนกว่าจะพิสูจน์

:D

ครูหนึ่ง
29-06-12, 08:20 PM
คนจะเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็เพราะ อวิชา(ความไม่รู้) พวกนี้และครับ พี่สอ .....

เป็นเพราะเป็นเจ้าไม่ยึดมั่นในพระธรรม ข้อกาลามสูตร ไม่ตรวจทานก่อนเปล่งวาจา มุสาไม่รู้ตัวแบบนี้ อาบัติทุกกฏ ครับ เฮ้อ.....

:(:(:(

oxic
29-06-12, 08:27 PM
ด้วยสายตามือสมัครเล่นอย่างผม เห็นว่า สภาพดีมาก เกินกว่าอายุที่กล่าวอ้าง แต่รูปอาจะไม่ชัดเลยทำให้เห็นพลาดไป ^^

เทพใหญ่
29-06-12, 09:48 PM
หลักคำสอนกาลามาสูตร
๑. มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
๒. มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
๓. มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก
๕. มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
๗. มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ
๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
๙. มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้
๑๐. มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของตน

พุทธประสงค์ที่แท้จริงในการตรัสเรื่องนี้ ก็คือ ไม่ทรงให้ปลงใจเชื่อถือเพียงเพราะอ้างตำรารวมไปถึงตำราที่เรียกกันว่าพระไตรปิฎกด้วย แต่ก็มิใช่หมายความว่าไม่ให้เชื่ออะไรเลย ทรงประสงค์ว่า การตัดสินใจเชื่อในแต่ละเรื่องมิใช่ตัดสินใจเชื่อเพียงเพราะเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ใน ๑๐ ประการนี้ แต่ควรจะมีข้อมูลในการตัดสินใจเชื่อที่มากไปกว่านั้น

น้าสอ
30-06-12, 10:58 AM
เริ่มเห็นคนเอาข่าวไป Share ต่อๆ กัน ใน Facebook แล้ว :rolleyes:

ก็คง "เข้าป่า" เร็วๆ นี้ และก็คงไม่แคล้วไต่ระดับไปเป็นดาบเทพ คล้ายๆ กรณีดาบน้ำพี้

แฮ่ . . . :p

PARAM
30-06-12, 11:37 AM
คิดเล่นๆ สมัยโน้น คงยังไม่มีมาตรานิ้วฟุตแบบเดี๋ยวนี้ (มั๊ง) นิ้วโบราณอาจหมายถึงนิ้วมือหรือประมาณ ครึ่งนิ้ว 4นิ้วก็กว้างเท่ากับ 2 นิ้วปัจจุบัน ยาว 48 นิ้วก็ยาว 24 นิ้วปัจจุบัน ( เดาเอาล้วนๆ แค่ให้เป็นข้อคิดอย่าถือเป็นจริงจัง) ก็อาจจะประมาณดาบปัจจุบันที่เราเห็นๆกันอยู่

ขืนกว้าง 4 นิ้วฟุต ยาว 48 นิ้วฟุต นั่นน่าจะเป็น ไ้พาย แทนที่จะเป็นดาบแล้วมัง:p

นายดุมไม้
30-06-12, 06:31 PM
ท่านว่าไม่เชื่อก้ออย่าลบหลู่

ไม่ได้ลบหลู่ แต่ขอแสดงจุดยืนไว้ก่อนว่า ไม่เชื่อ . . . จนกว่าจะพิสูจน์

:D

+1 :o

Anuchart
30-06-12, 08:23 PM
คิดเล่นๆ สมัยโน้น คงยังไม่มีมาตรานิ้วฟุตแบบเดี๋ยวนี้ (มั๊ง) นิ้วโบราณอาจหมายถึงนิ้วมือหรือประมาณ ครึ่งนิ้ว 4นิ้วก็กว้างเท่ากับ 2 นิ้วปัจจุบัน ยาว 48 นิ้วก็ยาว 24 นิ้วปัจจุบัน ( เดาเอาล้วนๆ แค่ให้เป็นข้อคิดอย่าถือเป็นจริงจัง) ก็อาจจะประมาณดาบปัจจุบันที่เราเห็นๆกันอยู่

ขืนกว้าง 4 นิ้วฟุต ยาว 48 นิ้วฟุต นั่นน่าจะเป็น ไ้พาย แทนที่จะเป็นดาบแล้วมัง:p

แหม ท่านพี่ วิเคราะห์ ได้สมเหตุผล

pum_rakwana
30-06-12, 08:36 PM
ดีนะ ที่คนทำหนังไม่ไปเห็นเข้า ซะตั้งแต่ตอนนั้น :D

pum_rakwana
30-06-12, 08:40 PM
คิดเล่นๆ สมัยโน้น คงยังไม่มีมาตรานิ้วฟุตแบบเดี๋ยวนี้ (มั๊ง) นิ้วโบราณอาจหมายถึงนิ้วมือหรือประมาณ ครึ่งนิ้ว 4นิ้วก็กว้างเท่ากับ 2 นิ้วปัจจุบัน ยาว 48 นิ้วก็ยาว 24 นิ้วปัจจุบัน ( เดาเอาล้วนๆ แค่ให้เป็นข้อคิดอย่าถือเป็นจริงจัง) ก็อาจจะประมาณดาบปัจจุบันที่เราเห็นๆกันอยู่

ขืนกว้าง 4 นิ้วฟุต ยาว 48 นิ้วฟุต นั่นน่าจะเป็น ไ้พาย แทนที่จะเป็นดาบแล้วมัง:p



เล่มที่เห็นในข่าวก็ใบพายนะนั่น

:D:D

Anuchart
30-06-12, 08:57 PM
ดีนะ ที่คนทำหนังไม่ไปเห็นเข้า ซะตั้งแต่ตอนนั้น :D

:confused: ทำไมหรือครับ :confused:

pum_rakwana
30-06-12, 09:00 PM
:confused: ทำไมหรือครับ :confused:

เราก็อาจจะเห็นดาบแบบเล่มนั้นในหนังไงครับ :)

ดุ๊ยดุ่ย
30-06-12, 10:55 PM
เอาไปตีรวมกันกับดาบดำ :D

t_praj
30-06-12, 11:02 PM
ผมว่าเรามารอดูกันต่อไปดีกว่าจะเป็นยังไง น่าสนใจดีนะครับ :)

มารกิ
01-07-12, 07:17 PM
อยากได้ ฮา ฮา :D

PANJA
03-07-12, 07:20 AM
:confused::crying::confused:

แวบมา
13-03-13, 03:56 AM
ไม่ทราบว่ามีท่านใดที่เป็นชาวกาลาม แห่งเกสปุตติยนิคม กลับชาติมาเกิด และยังรอผลพิสูจน์อยู่หรือเปล่า

ผมเพ่ออ่านพบว่า กรมศิลปากร มีผลเบื้องต้นออกมารายงานผ่านสื่อฯ แล้วนะครับ



กรมศิลป์ฟันธง 'ดาบพระนเรศวร' พบที่เชียงใหม่ ไม่เก่าจริง

เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรฟันธง "ดาบพระนเรศวร" วัดเมืองกื้ดไม่ใช่ของเก่า อายุแค่ 50-60 ปี พบมีอักษรไทยกำกับ ขณะทางวิชาการพบข้อมูลใหม่ "สมเด็จพระนเรศวร" สิ้นพระชนม์ อ.เวียงแห จ.เชียงใหม่ เตรียมจัดเสวนา สืบค้นข้อมูลเพิ่ม...

จากกรณีปรากฏข่าวว่ามีผู้พบพระแสงดาบคู่กายที่ใช้สำหรับนำทัพของสมเด็จพระนเรศวร บูรพมหากษัตริย์ของไทย ในการสงครามมีอายุหลายร้อยปี ที่วัดเมืองกื้ด ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จนเป็นที่ฮือฮากันนั้น

ความคืบหน้าเมื่อช่วงสายของวันที่ 4 ก.ค. นายไกรสิน อุ่นใจจินต์ หัวหน้ากลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ข่าวนี้เสนอออกไป ได้เชิญเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและนักโบราณคดี ไปตรวจสอบมีดดาบที่วัดดังกล่าวเพื่อจะได้ร่วมกันพิสูจน์ข้อเท็จจริง และจากที่ได้ไปตรวจสอบมาแล้วเมื่อค่ำวานนี้ (3 ก.ค.) โดยได้เข้าไปนมัสการ พระอธิการอินถา รตนวัณโณ เจ้าอาวาสวัดเมืองกื้ด และท่านได้นำมีดดาบที่พบนั้นมาให้คณะได้ตรวจสอบ พบว่ามีความยาวจากด้ามจดปลายประมาณ 1.2 เมตร มีความกว้างช่วงกลางดาบประมาณ 4 นิ้ว ด้ามดาบทำด้วยงาช้าง ขณะที่ตัวเล่มดาบคาดว่าทำจากเหล็กน้ำพี้ บนเล่มดาบยังปรากฏอักขระอักษรขอม และภาพราหูจารึกประทับไว้ตลอดทั้งเล่มทั้งสองด้าน

เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้ใช้ส่องกล้องขยายลงไปในเนื้อดาบ พบว่ามีอักษรภาษาไทยเขียนติดไว้ชัดเจน ว่าปลุกเสกโดยหลวงพ่อเดิม เกจิอาจารย์ท่านหนึ่งในภาคกลาง เมื่อได้สอบถามที่มาที่ไปของมีดดาบจากพระอธิการอินถา ทราบว่า มีดดาบที่พบนั้น เป็นสมบัติของทางวัดที่มีการตกทอดสืบต่อกันมา ไม่ได้มาจากการขุดพบแต่อย่างใด หากมีดดาบได้จากการขุดพบ ทางกรมศิลป์จะต้องตรวจสอบต่อไปว่าขุดพบลึกจากพื้นผิวดินกี่เมตร มีวัตถุอื่นที่พบอยู่บริเวณเดียวกันมีอะไรบ้าง แต่มีดดาบดังกล่าว ก็ไม่ได้มาจากการขุดพบ และก็มีอักษรภาษาไทย เขียนกำกับอย่างชัดเจน ว่ามีการปลุกเสกโดยหลวงพ่อเดิม จากการตรวจสอบดูแล้วเชื่อว่ามีดดาบน่าจะมีอายุราว 50-60 ปี ตนขอยืนยันว่าดาบที่พบนั้นไม่ใช่ดาบนำทัพที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

นายไกรสิน กล่าวต่อว่า ส่วนความเชื่อในด้านอื่นๆ ก็ถือว่าเป็นความเชื่อของชาวบ้านในท้องถิ่น ทางกรมศิลปากรก็อยากจะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง ส่วนเส้นทางสายกึ๊ดช้าง ที่ชาวบ้านมีความเชื่อว่าจะเคยเป็นเส้นทางทัพของสมเด็จพระนเรศวรในอดีตเดินทางออกไปพม่านั้น ตอนนี้ทางผู้เชี่ยวชาญ กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษายังไม่มีหลักฐานออกมายืนยัน เป็นเพียงความเชื่อของชาวบ้านในชุมชนเท่านั้น ขณะเดียวกันก็พบข้อมูลใหม่ พบว่าสมเด็จพระนเรศวร สิ้นพระชนน์ในที่พื้นที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งในอีก 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ นักโบราณคดีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สืบค้นในเรื่องประวัติความเป็นมาของตำนานสมเด็จพระนเรศวร และจะได้มีการจัดเสวนากันขึ้นในท้องที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ด้วย.

จากไทยรัฐครับ
http://www.thairath.co.th/content/region/273320

มารกิ
13-03-13, 08:12 AM
"....และก็มีอักษรภาษาไทย เขียนกำกับอย่างชัดเจน ว่ามีการปลุกเสกโดยหลวงพ่อเดิม..."

:D ผมไม่รู้เรื่องวิธีการสืบค้นทางโบราณคดี แต่ถ้าเล่นกันแบบเล่นพระ/เครื่องราง เห็นแบบนี้ ตีไว้ก่อนได้เลยว่า "เก๊" ฮะ .. ฮ่า ฮ่า

แวบมา
13-03-13, 02:09 PM
"....และก็มีอักษรภาษาไทย เขียนกำกับอย่างชัดเจน ว่ามีการปลุกเสกโดยหลวงพ่อเดิม..."

:D ผมไม่รู้เรื่องวิธีการสืบค้นทางโบราณคดี แต่ถ้าเล่นกันแบบเล่นพระ/เครื่องราง เห็นแบบนี้ ตีไว้ก่อนได้เลยว่า "เก๊" ฮะ .. ฮ่า ฮ่า

ขออนุญาตครับ

อย่าเพ่อขำครับพี่
หลักการพิจารณาที่พี่ว่ามา ไม่จริงเสมอไปครับ

ดาบโบราณบางเล่มที่คนเล่นดาบเก่าทุกคนต้องเคยเห็นผ่านตา และยอมรับว่าแท้ ก็มึอักษรสลักไว้ว่าเป็นดาบอะไร ของท่านใด
ตัวอักษรที่ว่านั้นหลายคนอาจไม่เคยเห็น เพราะเขาไม่ได้จัดแสดงให้เห็น แต่ผมมีโอกาสได้เห็นตอนที่เขาเชิญออกมาครั้งหนึ่ง
ความเห็นส่วนตัวผมเข้าใจว่าสลักไว้โดยลูกหลานของท่านในชั้นหลัง
เพราะลักษณะตัวอักษรไม่ได้เก่ายุคเดียวกันกับอายุดาบ แต่ก็น่าจะเก่าไม่น้อยแน่ครับ
เพราะอาจารย์ที่ท่านเคยเห็นตัวอักษรนี้ในครั้งอดีต ท่านก็บอกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนนั้นก็เห็นมาอย่างนี้แล้ว
ใบ้ให้ว่าดาบที่ผมกล่าวถึงนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ แห่งหนึ่งครับ
จริงอยู่ที่ว่า ของในพิพิธภัณฑ์บางที่อาจมีเก่าใหม่ปะปนเข้ามา
แต่ดาบที่ว่า เป็นงานระดับ มาสเตอร์พีซ ที่ทุกคนที่เห็นต่างก็ว่าแท้ ไม่มีใครบอกว่าเก๊
หรือเป็นเพราะว่าเกือบทุกคนดูกันเพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกก็ว่าแท้ ไม่มีใครเคยเห็นว่ามีตัวอักษรสลักอยู่
ก็ไม่แน่ว่าถ้ามีคนเห็น อาจจะมีคนใช้ทฤษฎีของพี่มาตีเก๊ก็ได้ครับ

ปล. แต่สำหรับดาบเล่มในภาพข่าว
แรกเห็นแค่ภาพที่มีอักขระเลขยันต์ ภาพเกจิอาจารย์บนใบดาบ
ผมก็ตีเก๊มาตั้งแต่ไกลเหมือนพี่ครับ

มารกิ
13-03-13, 02:20 PM
ขออนุญาตครับ

อย่าเพ่อขำครับพี่
หลักการพิจารณาที่พี่ว่ามา ไม่จริงเสมอไปครับ

ดาบโบราณบางเล่มที่คนเล่นดาบทุกคนต้องเคยเห็นผ่านตา และยอมรับว่าแท้ ก็มึอักษรสลักไว้ว่าเป็นดาบอะไร ของท่านใด
ตัวอักษรที่ว่านั้นหลายคนอาจไม่เคยเห็น เพราะเขาไม่ได้จัดแสดงให้เห็น แต่ผมมีโอกาสได้เห็นตอนที่เขาเชิญออกมาครั้งหนึ่ง
ความเห็นส่วนตัวผมเข้าใจว่าสลักไว้โดยลูกหลานของท่านในชั้นหลัง
เพราะลักษณะตัวอักษรไม่ได้เก่ายุคเดียวกันกับอายุดาบ แต่ก็น่าจะเก่าไม่น้อยแน่ครับ
เพราะอาจารย์ที่ท่านเคยเห็นตัวอักษรนี้ในครั้งอดีต ท่านก็บอกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนนั้นก็เห็นมาอย่างนี้แล้ว
ใบ้ให้ว่าดาบที่ผมกล่าวถึงนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ แห่งหนึ่งครับ

ครับ เข้าใจครับ ... ผมหมายถึงว่า "ตีความตามแค่ตัวอักษร" ไงครับ เพราะยังไม่ได้เห็นของจริงน่ะครับ :D

มารกิ
13-03-13, 02:30 PM
:rolleyes: ที่คุยกันคือดาบเล่มนี้ใช่มั้ยครับ

http://board.postjung.com/m/622059.html

แวบมา
13-03-13, 02:41 PM
ครับ เข้าใจครับ ... ผมหมายถึงว่า "ตีความตามแค่ตัวอักษร" ไงครับ เพราะยังไม่ได้เห็นของจริงน่ะครับ :D

ครับ ผมก็เข้าใจว่าพี่เข้าใจครับ

แต่กวนเล่น เพราะคำที่พี่ใช้มันเข้าทางให้ "ตีความตามตัวอักษร" ได้พอดีครับ :D

แวบมา
13-03-13, 02:46 PM
:rolleyes: ที่คุยกันคือดาบเล่มนี้ใช่มั้ยครับ

http://board.postjung.com/m/622059.html

ดูเหมือนจะใช่ครับพี่ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะมีอย่างนี้อีกหลายเล่มหรือเปล่า

ท่านผู้ตั้งกระทู้ทำลิงก์ให้ไปดูอยู่ ที่ลิงก์นี้ครับ

http://www.komchadluek.net/detail/20120629/133973/ฮือฮา!พบดาบโบราณใช้นำทัพพระนเรศวร.html

แวบมา
13-03-13, 02:50 PM
ดีนะ ที่คนทำหนังไม่ไปเห็นเข้า ซะตั้งแต่ตอนนั้น :D

เกือบไปแล้วครับพี่


" ...ในปี 2551-2552 ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรได้เดินทางมาที่วัด เพื่อขอข้อมูลการเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถึง 3 ครั้ง แต่ทางวัดไม่ได้บอกว่ามีดาบโบราณเล่มนี้เก็บรักษาไว้เพราะเกรงว่าอาจถูกนำไปใช้ในการแสดงหรืออาจทำให้กลุ่มมิจฉาชีพที่ทราบข่าวเข้ามาขโมยไปจากวัด แต่มาภายหลังชาวบ้านเริ่มทราบข่าว จึงบอกเล่ากันปากต่อปาก ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างพากันมาที่วัด ซึ่งทางวัดได้ใช้ดาบเล่มนี้ปลุกเสกน้ำมนต์ประพรมผู้ที่แวะมาเยือนเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ยืนยันไม่มีการสร้างวัตถุมงคล หรือหากินกับดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้อย่างแน่นอน... "

มารกิ
13-03-13, 02:52 PM
อ่อ ก็เล่มเดียวกันครับ :)

แวบมา
13-03-13, 07:54 PM
อ่อ ก็เล่มเดียวกันครับ :)

ที่ผมว่าไม่แน่

เพราะกรณีอย่างนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
และก็มั่นใจว่าคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายครับ :rolleyes:

น้าสอ
14-03-13, 11:27 AM
จากหนังสือเก่าๆ ของอาจารย์ ส. . . .

http://img138.imageshack.us/img138/2554/010018493.jpg

http://img51.imageshack.us/img51/515/020018491.jpg


ถ้าจริงอย่างแกว่า ดาบน่าจะอยู่ในวัง, รึเปล่า?? :D :p :D

Mc.
14-03-13, 04:29 PM
จากหนังสือเก่าๆ ของอาจารย์ ส. . . .

http://img138.imageshack.us/img138/2554/010018493.jpg

http://img51.imageshack.us/img51/515/020018491.jpg


ถ้าจริงอย่างแกว่า ดาบน่าจะอยู่ในวัง, รึเปล่า?? :D :p :D

:rolleyes: :D

แวบมา
15-03-13, 04:09 AM
จากหนังสือเก่าๆ ของอาจารย์ ส. . . .

http://img138.imageshack.us/img138/2554/010018493.jpg

http://img51.imageshack.us/img51/515/020018491.jpg


ถ้าจริงอย่างแกว่า ดาบน่าจะอยู่ในวัง, รึเปล่า?? :D :p :D

อ่านมาเยอะดีจริงครับ

ผมเชื่อว่าลุงสุรักษ์ท่านน่าจะมาแนวทำนองเดียวกันกับ อ.สุจิตต์
คือเขียนเชิงวิพากษ์ให้คนรู้จักคิดหาข้อโต้แย้งเพื่อให้รู้จักค้นคว้าต่อยอด
มากกว่าที่จะให้เชื่อข้อเขียนของท่านเสียทั้งหมด
ผมว่าก็ดี แต่ก็มีข้อเสียเป็นยาพิษสำหรับคนที่คิดไม่เป็นครับ

เขาว่ากันว่าท่านนายพลแพ็ตตันกล่าวไว้ว่า
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็แสดงว่าจะต้องมีบางคนที่ไม่ได้คิดอะไรเลย"

ผมก็จำไม่ได้แต่น่าจะประมาณนี้

แวบมา
15-03-13, 04:43 AM
บังเอิญกระมัง

วันนี้เองที่สนามธนูมีคนมาถามผมถึงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงว่าองค์จริงอยู่ที่ไหน
ผมก็ถามเขากลับไปว่าหมายถึงองค์ไหนล่ะครับ ที่อยู่ในราชวังไม่ว่าจะวังไหนผมก็ว่าจริงทุกองค์นั่นแหละ


สำหรับเรื่องพระแสงดาบคาบค่าย
ผมจะให้ข้อมูลเบื้องต้นที่คงหาอ่านจากหนังสือสำนักพิมพ์ใหม่ๆ เดี๋ยวนี้คงยาก
นั่นคือ สมัยโบราณมีบันทึกบางเล่มกล่าวถึง คำว่า "พระแสง อย่างคาบค่าย" ครับ
ผมขออนุญาตไม่สรุป
เพราะเคยเจอคนที่อยากฟังแต่ไม่อยากเชื่อ แย้งมาหลายหนแล้ว
ผมไม่ใช่ครูบาอาจารย์หรือนักวิชาการที่มีใจกว้างอยากสอนเป็นวิทยาทานก็เลยเบื่อหน่ายครับ


เรื่องนี้ผมเคยคุยกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์บางท่าน
ซึ่งท่านอาจจะไม่ได้ทราบหรือสนใจเกี่ยวกับเรื่องอาวุธโดยละเอียด
ท่านก็ยังตอบว่าเคยทราบเรื่องนี้ และอธิบายใกล้เคียงกับที่ผมคิดทำให้ผมเชื่อครับ
ส่วนไหนที่ไม่ตรงกับที่ผมคิดผมก็เชื่ออีกนั่นแหละครับ เพราะผมรู้ดีว่าไม่มีความรู้ท่องจำประวัติศาสตร์ได้แม่นเท่าท่าน
ผมเชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านในห้องนี้หลายท่านก็น่าจะเป็นนักอ่านนักค้นคว้าผู้สนใจศึกษาประวัติศาสต์
และที่สำคัญคือเป็นนักเล่นมีดที่เป็นนักประวัติศาสตร์ด้วย (ไม่อย่างนั้นคงไม่เข้ามาอ่าน)
คิดว่าคงหาข้อมูลได้ไม่ยาก แต่จะได้ละเอียดแค่ไหน ลึกเพียงใด
ผมขออนุญาตเป็นผู้คอยติดตามอ่านบ้างครับ

มารกิ
15-03-13, 08:43 AM
อันนี้ผมคิดเองล้วนๆ คิดเอานะครับ คิดเอาโดยความน่าจะเป็น ไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรประกอบทั้งสิ้น ...

คือผมคิดเอาว่า กว่ากรุงศรีฯจะล่มสลายก็เกือบ 400 ปีนับจากพระนเรศวรท่านกอบกู้เอกราช ก็ประมาณ 4 ชั่วอายุคน ระหว่างนั้นอยุธยาก็มีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินกันหลายต่อหลายครั้ง มาจนครั้งสุดท้าย บ้านเมืองถูกทำลาย... (คำถามในความคิด ... สมบัติมีค่ามหาศาลในพระราชวัง จะมีคนขนย้ายออกไปก่อนกรุงแตกบ้างมั้ย? ถ้ามี จะขนพวกพระแสงศาสตราวุธทั้งหลายไปด้วยหรือเปล่า? และ เมื่อวันนั้นจากวันที่พระนเรศวรสิ้นพระชนม์ พระแสงองค์จริงที่พระองค์ท่านใช้ ยังอยู่หรือเปล่า?) ...

... ผมพยายามนึกภาพความโกลาหลวุ่นวาย ตอนที่บ้านเมืองกำลังจะแตก ระหว่างในพระราชวัง กับ ชาวบ้านสถานการณ์คงต่างกัน แต่ก็นึกภาพไม่ออก ว่าจะลำดับภาพให้มันเป็นยังไง ...

อีกอย่าง เรื่องพระแสงดาบก็ดี พระแสงปืนต้นก็ดี ต้นฉบับที่บันทึกไว้จริงๆ เอามากันจากไหน (อัันนี้ถามพราะไม่รู้จริงๆครับ) :)

Mc.
15-03-13, 10:10 AM
บังเอิญกระมัง

วันนี้เองที่สนามธนูมีคนมาถามผมถึงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงว่าองค์จริงอยู่ที่ไหน
ผมก็ถามเขากลับไปว่าหมายถึงองค์ไหนล่ะครับ ที่อยู่ในราชวังไม่ว่าจะวังไหนผมก็ว่าจริงทุกองค์นั่นแหละ


สำหรับเรื่องพระแสงดาบคาบค่าย
ผมจะให้ข้อมูลเบื้องต้นที่คงหาอ่านจากหนังสือสำนักพิมพ์ใหม่ๆ เดี๋ยวนี้คงยาก
นั่นคือ สมัยโบราณมีบันทึกบางเล่มกล่าวถึง คำว่า "พระแสง อย่างคาบค่าย" ครับ
ผมขออนุญาตไม่สรุป
เพราะเคยเจอคนที่อยากฟังแต่ไม่อยากเชื่อ แย้งมาหลายหนแล้ว
ผมไม่ใช่ครูบาอาจารย์หรือนักวิชาการที่มีใจกว้างอยากสอนเป็นวิทยาทานก็เลยเบื่อหน่ายครับ


เรื่องนี้ผมเคยคุยกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์บางท่าน
ซึ่งท่านอาจจะไม่ได้ทราบหรือสนใจเกี่ยวกับเรื่องอาวุธโดยละเอียด
ท่านก็ยังตอบว่าเคยทราบเรื่องนี้ และอธิบายใกล้เคียงกับที่ผมคิดทำให้ผมเชื่อครับ
ส่วนไหนที่ไม่ตรงกับที่ผมคิดผมก็เชื่ออีกนั่นแหละครับ เพราะผมรู้ดีว่าไม่มีความรู้ท่องจำประวัติศาสตร์ได้แม่นเท่าท่าน
ผมเชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านในห้องนี้หลายท่านก็น่าจะเป็นนักอ่านนักค้นคว้าผู้สนใจศึกษาประวัติศาสต์
และที่สำคัญคือเป็นนักเล่นมีดที่เป็นนักประวัติศาสตร์ด้วย (ไม่อย่างนั้นคงไม่เข้ามาอ่าน)
คิดว่าคงหาข้อมูลได้ไม่ยาก แต่จะได้ละเอียดแค่ไหน ลึกเพียงใด
ผมขออนุญาตเป็นผู้คอยติดตามอ่านบ้างครับ


อันนี้ผมคิดเองล้วนๆ คิดเอานะครับ คิดเอาโดยความน่าจะเป็น ไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรประกอบทั้งสิ้น ...

คือผมคิดเอาว่า กว่ากรุงศรีฯจะล่มสลายก็เกือบ 400 ปีนับจากพระนเรศวรท่านกอบกู้เอกราช ก็ประมาณ 4 ชั่วอายุคน ระหว่างนั้นอยุธยาก็มีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินกันหลายต่อหลายครั้ง มาจนครั้งสุดท้าย บ้านเมืองถูกทำลาย... (คำถามในความคิด ... สมบัติมีค่ามหาศาลในพระราชวัง จะมีคนขนย้ายออกไปก่อนกรุงแตกบ้างมั้ย? ถ้ามี จะขนพวกพระแสงศาสตราวุธทั้งหลายไปด้วยหรือเปล่า? และ เมื่อวันนั้นจากวันที่พระนเรศวรสิ้นพระชนม์ พระแสงองค์จริงที่พระองค์ท่านใช้ ยังอยู่หรือเปล่า?) ...

... ผมพยายามนึกภาพความโกลาหลวุ่นวาย ตอนที่บ้านเมืองกำลังจะแตก ระหว่างในพระราชวัง กับ ชาวบ้านสถานการณ์คงต่างกัน แต่ก็นึกภาพไม่ออก ว่าจะลำดับภาพให้มันเป็นยังไง ...

อีกอย่าง เรื่องพระแสงดาบก็ดี พระแสงปืนต้นก็ดี ต้นฉบับที่บันทึกไว้จริงๆ เอามากันจากไหน (อัันนี้ถามพราะไม่รู้จริงๆครับ) :)



ขอบพระคุณท่านน้าทั้งสอง อย่างหลายๆ:love:
เพิ่งจะคุยเรื่องนี้กะน้าสอเมื่อเย็นวานนี้เอง
คิดเห็นไปในทางแนวเดียวกับท่านน้าทั้งสองเลย

...อย่างคำ "พระแสงดาบคาบค่าย" ผมก็เคยสงสัยว่าคำแบบนี้
ถึงจะฟังแล้วสร้างจินตนาการได้ดี..แต่เหมือนว่าเป็นภาษาใหม่(สงสัย)
วันนี้ได้ยินคำ "พระแสง อย่างคาบค่าย" ก็รู้สึกจุดประกาย
อยากได้ความรู้เพิ่มของคำนี้ อยากขอให้ท่านน้าแวบมา
ช่วยให้ความรู้สักหน่อย

...อย่างน้าโอ้เรย ผมคิด (จากความรู้สึก)แบบนั้นจริงๆ
ในยามโกลาหล คงต้องมีคนหยิบฉวยกันบ้างละ
และระหว่างของสำคัญ(ที่เราว่าสำคัญในยุคนี้)
กับของมีค่า(ที่ในยุคสมัยใดมันก็มีค่า) อะไรจะถูกเลือกก่อน
และของที่ไม่ถูกเลือกก็คงหักหายผุพังไป

...บันทึกประวัติศาสตร์ของเรา ก็หายาก ..เยอะเรื่อง

น้าสอ
15-03-13, 10:48 AM
นี่ นี่, ที่นี่มีรูปด้วย . . .

จริง แท้ ใหม่ เทียม หรือประการใด . . .

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=590869

:D

มารกิ
15-03-13, 11:14 AM
ก็เห็นมีรูปนี้แหละ มาตรฐานสุด :D

น้าสอ
15-03-13, 02:53 PM
ก็เห็นมีรูปนี้แหละ มาตรฐานสุด :D

แหม แหม ขอบคุณ :D :p :D

มารกิ
15-03-13, 02:56 PM
แหม แหม ขอบคุณ :D :p :D

แต่ข้อความบรรยายมันเกินรูป เลยไม่รู้ว่าไอ้ที่มีชื่อ ไม่มีรูปหน้าตายังไง แล้วก็ไม่เคยเห็นมีรุปใหญ่ๆเลย มีรูปนี้รูปเดียวเท่าที่หาเจอหรือว่าเค้าจะเก็บไว้เป็นความลับ :rolleyes:

น้าสอ
15-03-13, 03:18 PM
แต่ข้อความบรรยายมันเกินรูป เลยไม่รู้ว่าไอ้ที่มีชื่อ ไม่มีรูปหน้าตายังไง แล้วก็ไม่เคยเห็นมีรุปใหญ่ๆเลย มีรูปนี้รูปเดียวเท่าที่หาเจอหรือว่าเค้าจะเก็บไว้เป็นความลับ :rolleyes:

พูดเปรยๆ ไปเรื่อย หรือว่า เป็นคำถาม?

:p

มารกิ
15-03-13, 03:31 PM
พูดเปรยๆ ไปเรื่อย หรือว่า เป็นคำถาม?

:p

ถามเลย เพราะว่าไม่เคยเห็นน่ะ อยากเห็นชัดๆเหมือนกัน :D

Mc.
15-03-13, 04:31 PM
อยากได้เห็นภาพชัดๆ หลายๆมุม
ไว้เป็นบุญตาเหมือนกัน

:cool:

มารกิ
18-03-13, 10:29 AM
อยากได้เห็นภาพชัดๆ หลายๆมุม
ไว้เป็นบุญตาเหมือนกัน

:cool:

รูปนี้ชัดกว่าหน่อยครับ ...

http://img862.imageshack.us/img862/122/002dm.jpg

Mc.
18-03-13, 11:14 AM
ขอบคุณครับ น้าโอ้
จากรูปนั้น ก็แสดงว่า พระแสงดาบคาบค่าย
ขนาดเล็กกว่า พระแสงขรรค์ชัยศรี ทั้งความกว้าง ความยาว
ชัดเจนว่า กว้างไม่ถึง 4 นิ้ว แน่ๆ

มารกิ
18-03-13, 11:24 AM
ขอบคุณครับ น้าโอ้
จากรูปนั้น ก็แสดงว่า พระแสงดาบคาบค่าย
ขนาดเล็กกว่า พระแสงขรรค์ชัยศรี ทั้งความกว้าง ความยาว
ชัดเจนว่า กว้างไม่ถึง 4 นิ้ว แน่ๆ

แต่ก็แปลกนะครับว่า หนัง นเรศวร เค้าตีความแบบนี้ ... ไม่รู้ใครเป็นคนตีความ :rolleyes:

http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/164(2).jpg

น้าสอ
18-03-13, 11:30 AM
แต่ก็แปลกนะครับว่า หนัง นเรศวร เค้าตีความแบบนี้ ... ไม่รู้ใครเป็นคนตีความ :rolleyes:

http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/164(2).jpg

คุ้นๆ ว่า ตอนนั้นมีกระทู้ยืดยาวใน Pantip ขนาดท่านผู้กำกับเองยังมาร่วมวงสนทนา
มี อ.สุเนตร เป็นที่ปรึกษานะ, ถ้าจำไม่ผิด

:)

มารกิ
18-03-13, 11:33 AM
คุ้นๆ ว่า ตอนนั้นมีกระทู้ยืดยาวใน Pantip ขนาดท่านผู้กำกับเองยังมาร่วมวงสนทนา
มี อ.สุเนตร เป็นที่ปรึกษานะ, ถ้าจำไม่ผิด

:)

อืม... คงมีที่มาที่ไป :rolleyes:

น้าสอ
18-03-13, 11:44 AM
อืม... คงมีที่มาที่ไป :rolleyes:

ก็คงงั้นแหละ . . . มั้ง :p

นี่, วัดสุวรรณดาราราม/อยุธยา

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/c/c0/Pra-saeng-darb-karb-kai.jpg


พงศาวดารก็ไม่เคยอ่านซะด้วย
ในตะเลงพ่าย มีเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า? แต่ก็แต่งหลังเหตุการณ์นานมากๆ แล้วนะ

:D

Mc.
18-03-13, 12:03 PM
จากรูปของน้าสอ ..นี่ชวนผมสงสัยอีกแล้ว
หากว่าเป็นวิธีดีที่สุด ในการปีนค่าย
แล้วทหารคนอื่นไม่คาบดาบปีนค่าย..มั่ง

จากภาพเขียน ดูเหมือนค่ายจะทำจากไม้ไผ่
ไม้ไผ่นี่ สุมไฟแป๊บเดียวก็ติด ระเบิดตูมๆ ตามๆ
ไม่น่าเหมาะ

เป็นเด็กๆ ที่เมืองชล เคยเห็นเสาไม้แก่นเสี้ยมปลายแหลม
ขนาดโตเท่าเสาเรือนทั่วไป ปักชิดกันเป็นรั้วบ้าน
จำได้ว่ารั้วยาวจากหลังวัดกำแพง ไปถึงตลาดกลาง
ระยะทางก็เป็นร้อยเมตร ..นี่แปลว่าเสาไม้จริง
ไม่ใช่ของหายากในยุคก่อนๆ นั้น

ผมก็คิดไปเรื่อย :D

แวบมา
18-03-13, 03:27 PM
จากรูปของน้าสอ ..นี่ชวนผมสงสัยอีกแล้ว
หากว่าเป็นวิธีดีที่สุด ในการปีนค่าย
แล้วทหารคนอื่นไม่คาบดาบปีนค่าย..มั่ง

จากภาพเขียน ดูเหมือนค่ายจะทำจากไม้ไผ่
ไม้ไผ่นี่ สุมไฟแป๊บเดียวก็ติด ระเบิดตูมๆ ตามๆ
ไม่น่าเหมาะ

เป็นเด็กๆ ที่เมืองชล เคยเห็นเสาไม้แก่นเสี้ยมปลายแหลม
ขนาดโตเท่าเสาเรือนทั่วไป ปักชิดกันเป็นรั้วบ้าน
จำได้ว่ารั้วยาวจากหลังวัดกำแพง ไปถึงตลาดกลาง
ระยะทางก็เป็นร้อยเมตร ..นี่แปลว่าเสาไม้จริง
ไม่ใช่ของหายากในยุคก่อนๆ นั้น

ผมก็คิดไปเรื่อย :D

อาจจะแล้วแต่สภาพพื้นที่ เงื่อนเวลา และเป้าประสงค์ ว่า... ต้องการใช้งานชั่วคราวหรือมั่นคงถาวร ครับพี่หมวด

เมืองบางกอกนั้น เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีย้ายราชธานีลงมา
ทรงโปรดให้ตัด "ไม้ทองหลาง" มาสร้างค่ายขึ้นชั่วคราวก่อน
"...แล้วให้เกณฑ์คนขึ้นไปรื้อเอาอิฐกำแพงเก่า ณ เมืองพระประแดง
และกำแพงค่ายพม่า ณ โพธิ์สามต้น และสีกุก บางไทร ทั้งสามค่าย
ขนบรรทุกเรือมาก่อกำแพงและป้อม... "
(สังเกตที่ไฮไลท์)

แวบมา
18-03-13, 03:34 PM
รูปนี้ชัดกว่าหน่อยครับ ...

http://img862.imageshack.us/img862/122/002dm.jpg

ขอบคุณครับพี่

เมื่อก่อนยังนึกเสียดายที่ไม่เซฟเก็บ "ดาบไทย" ไว้
ให้เขียนกันใหม่ผมก็ลืมหมดแล้ว
แต่ก็เป็นวิธีอย่างที่พี่ๆ ค้นคว้ามาคุยกันนี่แหละครับ
เรื่องที่น่าสนใจอย่างนี้
เผื่อคนรุ่นใหม่ผ่านมาอ่านอาจจุดประกายให้เขาไปสืบสานต่อไปได้ครับ

Mc.
18-03-13, 03:39 PM
อาจจะแล้วแต่สภาพพื้นที่ เงื่อนเวลา และเป้าประสงค์ ว่า... ต้องการใช้งานชั่วคราวหรือมั่นคงถาวร ครับพี่หมวด

เมืองบางกอกนั้น เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีย้ายราชธานีลงมา
ทรงโปรดให้ตัด "ไม้ทองหลาง" มาสร้างค่ายขึ้นชั่วคราวก่อน
"...แล้วให้เกณฑ์คนขึ้นไปรื้อเอาอิฐกำแพงเก่า ณ เมืองพระประแดง
และกำแพงค่ายพม่า ณ โพธิ์สามต้น และสีกุก บางไทร ทั้งสามค่าย
ขนบรรทุกเรือมาก่อกำแพงและป้อม... "
(สังเกตที่ไฮไลท์)

ขอบคุณครับท่าน
โดยเฉพาะ ตรงไฮไลท์
:)

แวบมา
18-03-13, 03:52 PM
ขอบคุณครับท่าน
โดยเฉพาะ ตรงไฮไลท์
:)

ครับพี่

ที่ผมพูดเรื่องเงื่อนเวลา
คือกรณีเสียกรุงครั้งแผ่นดินพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์
ครั้งนั้นพม่าเข้ามาประชิดพระนครอยู่นานปีเศษ
เวลายาวนานพอที่จะขยับทำอะไรได้มากมายครับ
นึกเล่นๆ ถึงตัวเองตอนย้ายที่ทำงาน
วันแรกที่ไปถึงห้องก็โล่ง โต๊ะทำงานก็ว่างเปล่า
พออยู่นานไป ความรกก็เข้ามาเยือนเป็นปกติประสาห้องชายโสดครับ

กรณีค่ายเก่าพม่านั้น ผมไม่แน่ใจว่าสร้างขึ้นใหม่หรือใช้วัสดุสิ่งก่อสร้างเดิมในพื้นที่มาดัดแปลงเอานะครับ

Mc.
19-03-13, 09:11 AM
ครับพี่

ที่ผมพูดเรื่องเงื่อนเวลา
คือกรณีเสียกรุงครั้งแผ่นดินพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์
ครั้งนั้นพม่าเข้ามาประชิดพระนครอยู่นานปีเศษ
เวลายาวนานพอที่จะขยับทำอะไรได้มากมายครับ
นึกเล่นๆ ถึงตัวเองตอนย้ายที่ทำงาน
วันแรกที่ไปถึงห้องก็โล่ง โต๊ะทำงานก็ว่างเปล่า
พออยู่นานไป ความรกก็เข้ามาเยือนเป็นปกติประสาห้องชายโสดครับ

กรณีค่ายเก่าพม่านั้น ผมไม่แน่ใจว่าสร้างขึ้นใหม่หรือใช้วัสดุสิ่งก่อสร้างเดิมในพื้นที่มาดัดแปลงเอานะครับ

ขอบคุณครับท่าน ..อย่างแจ่มเลย

หลายเรื่อง หลายเหตุผลบางทีเกิดสงสัย
อยากค้นต่อ อยากรู้เพิ่ม ติดปัญหาว่า
ของเราไม่ค่อยมีหลักฐานให้หาอ่าน

เรื่องรีไซเคิล ผมก็สงสัยมานาน
เคยเห็นภาพถ่ายเก่า ที่วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา
กับภาพเก่า ในหนังสือ สมัยสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ
เสด็จไปอยุธยา ..สภาพวัด เมือง ก็เหลือน้อยมาก
มาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว มาดูตอนนี้ผมว่ามีบางอย่าง
งอกเพิ่มมาทีหลังด้วยซ้ำ แต่เอาเหอะอย่างน้อยก็อยู่บนฐานเดิม

อย่างกรุงเทพสร้าง.. เขาตั้งเตาเผาอิฐกันไม๊ ตั้งที่ไหน
หรือเสร็จงานก็รื้อทิ้งไปแล้ว เลยที่ไม่หลักฐานให้เห็น
วัสดุทำอิฐไม่สงสัย มีเหลือเฟือ พื้นกรุงเทพเป็นดินเหนียว
ถ้าบอกเผาอิฐมาจากราชบุรี หรือที่อื่นๆ นี่ไม่สมเหตุผล

มารกิ
19-03-13, 09:20 AM
อย่างกรุงเทพสร้าง.. เขาตั้งเตาเผาอิฐกันไม๊ ตั้งที่ไหน
หรือเสร็จงานก็รื้อทิ้งไปแล้ว เลยที่ไม่หลักฐานให้เห็น
วัสดุทำอิฐไม่สงสัย มีเหลือเฟือ พื้นกรุงเทพเป็นดินเหนียว
ถ้าบอกเผาอิฐมาจากราชบุรี หรือที่อื่นๆ นี่ไม่สมเหตุผล

กรุงเทพในความหมายของลุงแม็คผมว่ามันมีอยู่กระหย่อมเดียว ผมว่าเอามาจากแหล่งเดิมของมันแหละไม่น่าจะมาตั้งเตาเผากันที่พื้นที่ที่จะสร้างเมือง กรุงเทพฯย้ายข้ามฝั่งมาจากฝั่งธนฯไม่ได้หอบหิ้วกันมาเหมือนตอนสร้างกรุงธนบุรี คงน่าจะมีเวลาสั่งของนา ผมว่า :rolleyes: ... ม่ายงั้นแทบละแวกแถวๆนี้มันต้องมี "บ้านอิฐ" บ้างละดิ ใกล้สุดก็มี "ท่าอิฐ" ที่เมืองนนท์ โน่น :)

น้าสอ
19-03-13, 10:10 AM
ใกล้สุดก็มี "ท่าอิฐ" ที่เมืองนนท์ โน่น :)

มีมะยงชิดรสดี . . . :p

มารกิ
19-03-13, 10:36 AM
มีมะยงชิดรสดี . . . :p

ยังเหลือเหรอป่านนี้ :rolleyes::D

เมื่อก่อน ตรงที่เป็น เดอะมอลล์ท่าพระทุกวันนี้ คือสวนมังคุดรสเยี่ยม ... ถัดมาตรงที่เป็นทางวงแหวนราชพฤกษ์อะไรนั่น มีมะไฟคู่อยู่สองต้น ที่หวานขนาดต้องนั่งสุมไฟเฝ้ากันทั้งคืน :D

น้าสอ
19-03-13, 10:40 AM
ยังเหลือเหรอป่านนี้ :rolleyes::D

เมื่อก่อน ตรงที่เป็น เดอะมอลล์ท่าพระทุกวันนี้ คือสวนมังคุดรสเยี่ยม ... ถัดมาตรงที่เป็นทางวงแหวนราชพฤกษ์อะไรนั่น มีมะไฟคู่อยู่สองต้น ที่หวานขนาดต้องนั่งสุมไฟเฝ้ากันทั้งคืน :D

โถ . . . ถ้าเหลือ ก็น่าจะไปเมื่อปีน้ำท่วมเน้อ แถวนั้นได้ยินแว่วๆ ว่าเมตร-เมตรห้าสิบ . . .

-- ไม่เที่ยง ไม่เที่ยง --

เออ เออ มะไฟ ก็ไม่ได้กินนานแล้ว :p

Mc.
19-03-13, 10:53 AM
ชิ ชะ .. มาคุยเรื่องมะไฟ
เคย เก็บมะไฟหวานมาเต็มกะบะรถปิคอัพ
เก็บมาจากบ้านญาติ ที่ประจันตคาม
เอามาขายที่ตลาดเมืองชล

เช๊อะ.. เหมาหมดยังได้ไม่พอค่าน้ำมัน ค่าจ้างคนเก็บ
นี่แหละ ที่มันจะสูญพันธุ์ ก็เพราะยังเงี๊ยะ

ที่ไอ้พวกชื่อฝรั่งๆ นะ ..ถึงแพง ก็กินกันจัง
กระทกรกอีกนะ กระทกรกไทยลูกเล็กๆ นะ
หอมกว่า รสดีกว่า ไม่อ้าววว อ๊ะ
เอากระทกลกยักษ์พันธุ์นอก มาปลูก
เดี๋ยวถ้าพอเลิกฮิตกันนะ ทีนี้ละปราบไม่ไหว
เลื้อยไวยังกะอะไรดี

มันชื่อใหม่ ว่าอะไรนะ ไอ้กระทกรก เนี่ยะ
แต่ชั่งมัน ..ชอบชื่อกระทกรก

มารกิ
19-03-13, 11:17 AM
มันชื่อใหม่ ว่าอะไรนะ ไอ้กระทกรก เนี่ยะ
แต่ชั่งมัน ..ชอบชื่อกระทกรก

เสาวรส :p

น้าสอ
19-03-13, 11:24 AM
โห - เห็นเปล่า แค่ชื่อก็กินขาดเห็นๆ . . . :D

ถ้าร้าน Brown Sugar เปลี่ยนเป็น โอว-ทึ๊ง - ก็คงเจ๊งไปนานแล้ว
(เออ เออ ร้านนี้ มันยังอยู่รึเปล่า?? :p)

มารกิ
19-03-13, 11:36 AM
เอ๊า...หลายๆอย่างมันคือ "ค่าภาษา" ..ที่แพงน่ะค่าภาษา ฮ่า ฮ่า...

สมัยผมเด็กๆ จีบสาวต้องพาสาวไปกินติมร้านที่ท่าพรานนกเมื่อครั้งกระโน้น...

เมนู...

....

สายรุ้ง ------------------ 15 บาท (พลิกไปอีกหน้า) Rainbow --------------------------- 25 บาท

:D

ดอกเกลือ จะมีคนไทยสักกี่คนที่รู้จักและใช้ แต่ถ้าเป็น Fleur De Sel ละก็... โหยๆๆ แพงโคตรๆ ของดีสุดๆ ปีนึงทำได้ครั้งเดียว (หุหุ บ้านกูเก็บได้ทั้งปี ขาวกว่า สวยกว่าอีก)

:D

น้ำตาลทรายแดง โลละประมาณ 20 บาท (ขายปลีก) .... ที่พัทยามี Brown Sugar ไว้ใส่กาแฟ ซองละ 20 บาทเหมือนกัน .. ฮ่า ฮ่า

ค่าภาษา อย่าแปลกใจ :D

น้าสอ
19-03-13, 11:53 AM
ปัญหาของคนไทยคือ เรามักไม่ค่อยเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาของเราเอง หากต้องการจะยกย่องก็ทำเป็นครั้งๆ(มักทำเพื่อให้ผู้พูดดูดี) เป็นแนวโรแมนติค รำลึกโหยหาความโบราณ มากกว่าจะกล่าวยกย่องอย่างมีข้อมูลน่าเชื่อถือ ประกอบเข้ากับเรื่องราวที่มาของภูมิปัญญาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ

http://www.gotoknow.org/posts/168447

:p

Leo
19-03-13, 12:22 PM
ชิ ชะ .. มาคุยเรื่องมะไฟ
เคย เก็บมะไฟหวานมาเต็มกะบะรถปิคอัพ
เก็บมาจากบ้านญาติ ที่ประจันตคาม
เอามาขายที่ตลาดเมืองชล

เช๊อะ.. เหมาหมดยังได้ไม่พอค่าน้ำมัน ค่าจ้างคนเก็บ
นี่แหละ ที่มันจะสูญพันธุ์ ก็เพราะยังเงี๊ยะ



พูดถึงมะไฟ เสียใจไม่หาย

ที่สวนต้นใหญ่มาก เกินคนโอบได้มั้ง
ตั้งแต่ผมยังตัวกะเปี๊ยกเขวี้ยงๆ ปีน เก็บ เปรี้ยวหรือหวานชั่งมัน
กินเนื้อ กินเปลือก ไม่กี่ปีมานี่โค่นสวนยาง สั่งนักสั่งหนา
อย่าโค่นมะไฟ ไอ้สาดดดดดด เผลอแป็บเดียวมันตัดเรียบ :(

ยังดีที่ยังเหลือกะท้อนใหญ่อีกต้น :rolleyes:

นพ ด่าน
19-03-13, 03:27 PM
http://www.gotoknow.org/posts/168447

:p

โตมากะเกลือสินเธาว์
เดี๋ยวว่าจะไปหาดอกเกลือมาลองมั่ง
ขอบคุณพีส.ส.:D

มารกิ
19-03-13, 03:30 PM
โตมากะเกลือสินเธาว์
เดี๋ยวว่าจะไปหาดอกเกลือมาลองมั่ง
ขอบคุณพีส.ส.:D

แล้วจะรู้ว่าเกลืออร่อยเป็นยังไง :D

หมูสายฟ้า
19-03-13, 03:50 PM
พูดถึงมะไฟ เสียใจไม่หาย

ที่สวนต้นใหญ่มาก เกินคนโอบได้มั้ง
ตั้งแต่ผมยังตัวกะเปี๊ยกเขวี้ยงๆ ปีน เก็บ เปรี้ยวหรือหวานชั่งมัน
กินเนื้อ กินเปลือก ไม่กี่ปีมานี่โค่นสวนยาง สั่งนักสั่งหนา
อย่าโค่นมะไฟ ไอ้สาดดดดดด เผลอแป็บเดียวมันตัดเรียบ :(

ยังดีที่ยังเหลือกะท้อนใหญ่อีกต้น :rolleyes:

แค้น น่าดู:p

anaconda
19-03-13, 03:53 PM
แค้น น่าดู:p

เขาเรียกว่า แค้นฝังหุ่น