PDA

View Full Version : วัดUFO นะจ๊ะ คิดกันอย่างไร



ตี๋มือเก่า
04-07-12, 07:08 PM
วันศุกร์ ที่ 22 มิถุนายน 2555

ประสบการณ์ในวัดพระธรรมกาย

มีนักศึกษาท่านหนึ่ง ถูกบังคับกลายๆ จากอาจารย์ ให้เข้าไปปฏิบัติธรรมใน วัดไชยบูลย์

เพื่อจะได้คะแนน “จริยธรรม” ผมจึงแนะนำให้เก็บบันทึกข้อมูลไว้ เพื่อที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์

ท่านผู้อ่านท่านนั้น หมดภารกิจแล้ว จึงส่งข้อมูลมาให้ผม มีตัวอย่างที่พอจะนำเสนอในที่นี้ ดังนี้

การทำบุญที่นี่ ต้องใช้คำว่า เยอะมากๆๆๆๆ เช่น การจะเป็นผู้แทนสาธุชน กล่าวถวายภัตตาหารนั้น ที่หอฉัน วันปกติ 30,000 บาท วันอาทิตย์ ที่สภาธรรมกายสากล 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท)

เจ้าภาพกฐินถือผ้าไตร 1 ล้านบาท (ปีๆ นึงคนทำหลายพันคน) แม้แต่การเดินเวียนประทักษิณรอบธรรมกายเจดีย์ เพื่ออัญเชิญรูปเหมือนทองคำหลวงพ่อสด เมื่อปีที่แล้ว ผู้แทนถือจักรแก้ว 20 ล้าน ดวงแก้ว 10 ล้าน ขุนพลแก้ว 5 ล้าน ขุนคลังแก้ว 4 ล้าน นางแก้ว 3 ล้าน ช้างแก้ว 2 ล้าน ม้าแก้ว 1 ล้าน

หรือการร่วมบุญปกติ จะไม่มีการกำหนดขั้นต่ำก็จริง แต่มีจิตวิทยา โดยใช้คำว่า กองจิ๋ว 2 หมื่น กองเล็ก 1 แสน กองกลาง 1 ล้าน กองใหญ่ 5 ล้าน คนที่ทำไม่ถึง 2 หมื่น ก็เหมือนทำไม่ได้แม้แต่กองจิ๋ว มันเป็นจิตวิทยาครับ

มีการสะสมยอดทำบุญ ด้วยครับ ครั้งละ 1 พันเป็นอย่างน้อย ทำ 1 พันได้บัตรสะสม 1 ใบ สะสมครบสิบใบ ได้พระของขวัญรุ่นนี้ ครบยี่สิบใบ, สามสิบใบ, …,ร้อยใบ ได้รุ่นนั้นรุ่นนี้

และ พระของขวัญ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พระของขวัญ ที่ทำมาจากมหาสิริราชธาตุ เป็นที่ต้องตาต้องใจของพระรุ่นหลังๆ เป็นอย่างมาก

ผมเพิ่งทราบว่า พระมหาสิริราชธาตุ มีหลายรุ่น รุ่นเก่าแก่สุดๆ คือ รุ่นดูดทรัพย์ มีการนำออกมาให้ต่อบุญ คือ ทำบุญร่วมกับเจ้าของพระ เท่านั้นเท่านี้ แล้วเอาพระไป เงินนั้นก็ร่วมกับกองบุญของเจ้าของพระนั้น ตอนนี้มีการเล่นถึง องค์ละ 1 แสนบาท

ดวงแก้วจุยเจีย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ที่เล่ากันว่า ผ่านการซ้อนวิชชาจาก คุณยายแม่ชีจันทร์ ราคาดวงละ 2 หมื่นบาท

และที่กำลังอินเทรน ในขณะนี้ คือ พระของขวัญ ที่ทำจาก ภาชนะบูชาข้าวพระ รูปพระธรรมกาย 1 ล้าน 5 พันบาท รูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ 1 ล้านบาท

(อีกหน่อยคงเอา โต๊ะมาทำพระ องค์ละสิบล้าน เพื่อนเพื่อนผม มันพูดขึ้นมา อย่างดังเลย)

หน้าแรกผู้จัดการ Online 4 เมษายน 2555 10:10 น
ชาวเน็ตโชว์ภาพพายุถล่ม “สภาธรรมกายสากล” ยับ
วัดแจงไม่กระทบพื้นที่หลักเงินเยอะนะจ๊ะ
20พายุก็ไม่หวั่น
เอาอยู่นะจ๊ะ
ไม่เป็นไรจ้าคุณโยม...อาตมาปลอดภัยนะจ๊ะ

เดินธุดงค์กลางกรุงรอบเดียว ก็ได้ค่าซ่อมแซมแล้ว
(อาตมาไม่อยากคุย ว่าเงินนั้นหาไม่ยาก)

ว่างๆมาที่วัดนะจ๊ะ..มานั่งสมาธิ บริกรรมกับลูกแก้ว
ลูกละ 500 บาท ขาดตัว ช่วงนี้โปรโมชั่นพิเศษ แถมกล่องใส่ไว้บูชา

ถ้าให้ดี เช่าพระวันเกิดไปประดิษฐานไว้ที่ฐานพระเจดีย์ทรงจานบินก็ได้นะจ๊ะ

องค์ละ 50,000 บาท
หากจะประดิษฐานไว้ในเจดีย์หรือในที่ร่ม
ก็องค์ละ 100,000 ไม่ตากแดดตากฝนจ้า..

จะทำเผื่อญาติพี่น้องที่เสียชีวิตไปแล้วก็ดีนะจ๊ะ
ญาติๆก็จะได้รับอานิสสงฆ์

ไม่พกเงินมาก็ไม่มีปัญหา ที่วัดรับบัตรเครดิตทุกชนิด
พร้อมออกใบอนุโมทนาบัตร เพื่อนำไปหักภาษี

บริจาคกันเยอะนะ...
บริจาคสะสมเกิน 1 ล้านเมื่อไหร่
ก็จะได้เป็นนักปฏิบัติธรรมระดับ VIP
มาวัดก็จะได้นั่งแถวหน้าสุด

สะสมเกิน 10 ล้าน ก็ระดับ Super VIP
จะมาวัดก็มีรถเบนซ์ไปรับและส่งถึงบ้าน
และได้นั่งใกล้ๆเจ้าอาวาส

บริจาค 100 ล้านขึ้นไป จะได้รับเชิญร่วมพิธี
เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เป็นตัวแทนจุดธูปเทียน
ในพืธีต่างๆ

เจริญพรนะจ๊ะโยม แค่นี้นะ
บังเอิญเสี่ย CP โทรมาหาอาตมา
นี่ก็น่าเบื่อโทรมากวนใจ แถมบริจาคก็บ่อยจนน่ารำคาญ
เตรียมตัวเตรียมใจ บุญใหญ่กำลังจะมา
นั่งเก้าอี้เดี่ยวหน้าสุด 10 ล้านได้ถ่ายรูปคู่และพูดคุย 5 นาที
เลือกนั่งแถวหน้า 5 ล้านได้พูดคุย 2 นาที
นั่งแถวหลัง 3 ล้าน ได้พูดคุย 1 นาที
ญาติโยมเตรียมเงินทองไว้ด้วย
ถึงเวลาเรี่ยไรครั้งใหญ่ อีกแล้ว
ของเก่าใครยังผ่อนไม่หมด
รีบชำระด่วน ทางวัดต้องใช้เงินเยอะ

อาตมา นะโยม จำได้ไหม

waincan
04-07-12, 07:48 PM
ผมถือว่ากรณีบริจาคเงิน เป็นเรื่องที่บังคับกันไมได้ แม้ว่าจะใช่เลเพทุบายยังไง แต่สุดท้ายคนที่ตัดสินใจคือคนบริจาค

จริง ๆ นอกจากประเด็นบริจาคมหาโหดแล้ว มีอีกหลายกรณีที่เลวร้ายกว่าเยอะครับ

ไม่ว่าจะเป็นกรณีโกงที่ชาวบ้าน บีบซื้อที่ชาวบ้านรอบ ๆ วัดด้วยราคาถูกเป็นพิเศษ ด้วยวิธีสารพัด ทั้งวิธีก่อความรำคาญ ข่มขู่ให้เกรงกลัว หรือแม้กระทั้งยิงทิ้ง

กรณีการฆ่าตัวตายอย่างมีเงื่อนงำของพระชิตชัย มหาชิโต เพราะขึ้นไปอัดธรรมกลาย แล้วไม่เห็นนิพพานจนโดนอีจ๊ะด่า

กรณีการตัดต้นไม้ที่สมาชิกราชวงศ์ ทรงปลูก เพราะอีจ๊ะขอสมณศักดิ์ไม่ได้ จึงโกรธมาก

กรณีฉ้อฉล คดโกง หลาย ๆ กรณี แล้วก็ยังมีกรณีมั่วสีกาอีก

เรื่องพวกนี้ สามารถหาอ่านได้จาก internet ลองเข้า google แล้ว ใช้ keyword "กรณีธรรมกาย" จะโผล่ขึ้นมาหลายกรณีเลยครับ

ตัวอย่าง link ที่รวม ๆ ก็มีข้างล่างนี้ครับ

http://www.oknation.net/blog/buddhacore/2012/04/04/entry-1

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/08/Y5760099/Y5760099.html

link แรก เป็นการสัมภาษณ์พระสงฆ์องค์หนึ่ง (พระอดิศักดิ์ วิริยสกโก) ที่เคยร่วมกับอีจ๊ะ ก่อตั้งวัดพระธรรมกลาย นอกจากแฉอีจ๊ะแล้ว ยังแฉยายจันท์ ปัดระเบิดด้วย ว่าอาจจะไม่ใช่ยายจันท์ ตัวจริง

ส่วน link ที่สอง เป็นกระทู้ในพันดริฟ เรื่องกรณีการฆ่าตัวตายของพระชิตชัย

ที่จริงยังมีอีกหลาย link ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กรณีธรรมกาย ของ พระธรรมปิฎก วิทยานิพนธ์ของท่าน ว. บทสัมภาษณ์ของ อ.เสถียรพงศ์ ฯลฯ

สมเด็จพระสังฆราช ฯ องค์ปัจจุบัน ทรงมีพระลิขิตว่า อีจ๊ะ อาบัติขั้นปาราชิกไปเรียบร้อยแล้ว

แต่กรรมการตาเถรสมาคม นำโดยสมเด็จฯ เกี่ยว วัดสระเกศ ไม่ยอมเอาพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ฯ มาวินิจฉัย เพื่อช่วยเหลือทางด้านคดีให้อีจ๊ะ

สุดท้าย เคยมีคนถาม มรว.คึกฤทธิ์ ว่าอนาคตของประเทศไทย ท่านห่วงเรื่องใดมากที่สุด

มรว.คึกฤทธิ์ ตอบว่า สภาเปสิเดียม ของ ชวลิต และ ธรรมกลาย

ตาเกิ้น
04-07-12, 08:07 PM
ตี๋ครับ

ผู้ใหญ่ท่านสอนมาว่า เรื่องศาสนาหนึ่ง เรื่องการเมืองหนึ่ง ไม่ควรนำมาสนทนาในหมู่มิตรสหาย เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อที่จะพาให้เกิดความบาดหมางที่ยากจะแก้ไข

และคงไม่สามารถออกความเห็นครับ เพราะในทางศาสนาพุทธในแบบที่เป็นที่นิยมอยู่ในบ้านเรานี่แล้วคงต้องถือผมเป็นคนบาปไม่ชอบทำบุญสร้างวัดสร้างวัตถุอะไรทั้งสิ้น ชอบตกปลาอีกต่างหาก :rolleyes:

จ่าน้อมทหารหน้า
04-07-12, 08:11 PM
ขอบคุณนะขอรับ อย่างน้อยก้อทำใหตาสว่างขึ้น:(

ตี๋มือเก่า
04-07-12, 08:14 PM
ครับพี่ เห็นไม่สมควร ลบกระทู้ได้ครับพี่ :D

ตาเกิ้น
04-07-12, 08:21 PM
ครับพี่ เห็นไม่สมควร ลบกระทู้ได้ครับพี่ :D

ไม่ต้องลบหรอกครับ พี่ก็แค่ออกความเห็นหนึ่งครับ

Game master
04-07-12, 11:34 PM
ชอบอ่านมากครับ โดนจายยยยย:D

n.s.hunter
05-07-12, 02:29 AM
เค้าเรียกว่า "นิกายพุทธแบบทุนนิยม" สาวกก็ประเภทคนจิตอ่อน เคยมีคนรู้จักเป็นสาวกที่นี่ พอเลิกจากที่นี่ ก็ได้พระอาจารย์ใหม่ และใหม่ๆๆๆ ไปเรื่อยๆ คนประเภทนี้ต้องการที่พึ่งทางใจครับ ต่างประเทศใช้จิตแพทย์ ที่น่าสังเกตคือ วัดไหนที่มีปัญหากับชุมชนรอบๆ วัดนั้นใช้ไม่ได้ครับ พุทธแท้ๆนั้นไม่เน้นพิธีกรรมครับ........:)

dusadee2
05-07-12, 08:26 AM
ถ้ามันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็คงปล่อยเค้าไปละครับ น้องชายผมคนนึงเป็นสมาชิกแนบแน่นกะวัดนี้อยู่ ก็ไม่ได้ออกอาการมากนัก แค่ไปปฏิบัติอะไรของเค้า
แต่กรณีทำบุญจนหมดตัวเนี่ยได้ข่าวเฉยๆ ยังไม่เคยเจอตัวเป็นๆ แต่ถ้าบ้าบุญจนบ้านแทบแตกเนี่ยเคยเจออยู่เหมือนกัน :crying:

The Bear
05-07-12, 08:33 AM
เค้าเรียกว่า "นิกายพุทธแบบทุนนิยม" สาวกก็ประเภทคนจิตอ่อน เคยมีคนรู้จักเป็นสาวกที่นี่ พอเลิกจากที่นี่ ก็ได้พระอาจารย์ใหม่ และใหม่ๆๆๆ ไปเรื่อยๆ คนประเภทนี้ต้องการที่พึ่งทางใจครับ ต่างประเทศใช้จิตแพทย์ ที่น่าสังเกตคือ วัดไหนที่มีปัญหากับชุมชนรอบๆ วัดนั้นใช้ไม่ได้ครับ พุทธแท้ๆนั้นไม่เน้นพิธีกรรมครับ........:)

ชอบแนวคิดของพี่ครับ ที่บอกว่า 'ต่างประเทศใช้จิตแพทย์'

toong's father
05-07-12, 09:17 AM
ทุกอย่างคงไม่เลวร้าย ไปทั้งหมดผมว่า ถ้าเรามองกลับถึงด้านดีๆ ก็คงมี
การทำบุญ มีหลาย อย่าง การให้ทานก็อย่างหนึ่งเพื่อขจัดความโลภ

ผมได้ยินได้ฟังได้อ่านแนวปฏิบัติ มาดังนี้ ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัย
การให้ทาน เดรฉาน 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน คนธรรมดา 1ครั้ง
การให้ทานคนธรรมดา 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน ผู้มีศิล 1ครั้ง
การให้ทาน ผู้มีศิล 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน พระอริยสงฆ์ 1ครั้ง
การให้ทาน พระอริยสงฆ์ 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน พระพุธเจ้า 1ครั้ง
การให้ทาน พระพุธเจ้า 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ สังฆทาน 1ครั้ง

การให้ สังฆทาน 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การ ร่วมสร้างวิหารทาน 1ครั้ง

การ ร่วมสร้างวิหารทาน 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การ นั่งสมาธิให้จิตใจสงบพิจารณาไตรลักษณ์ ว่าทุกอย่าง ต้องเสื่อมสลาย ไม่ให้จิตใจเกิดทุกข์ แค่เสี่ยวของวินาที ดังนั้นผู้ปฏิบัติแล้วจะแผ่ส่วนบุญนี้ให้ใครก็จะเกิดผลมากครับ

ก็ลองพิจารณานะครับ การจะสร้างบุญกุศลให้มากๆนั้นก็อยู่ที่จิตใจเท่านั้นครับ บางคนทำไม่ได้ก็อาจต้องซื้อด้วยเงินก็เป็นไปได้

การร่วมอนุโมทนาบุญ ได้ผลบุญ 90 % ขณะที่ผู้ทำบุญได้ 100 %

การปฎิบัติกรรมฐานเพื่อให้พ้นทุกข์ มีตั้ง 40 อย่าง แล้วแต่ ท่านจะถูกกับแบบไหน

ตาเกิ้น
05-07-12, 10:25 AM
ทุกอย่างคงไม่เลวร้าย ไปทั้งหมดผมว่า ถ้าเรามองกลับถึงด้านดีๆ ก็คงมี
การทำบุญ มีหลาย อย่าง การให้ทานก็อย่างหนึ่งเพื่อขจัดความโลภ

ผมได้ยินได้ฟังได้อ่านแนวปฏิบัติ มาดังนี้ ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัย
การให้ทาน เดรฉาน 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน คนธรรมดา 1ครั้ง
การให้ทานคนธรรมดา 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน ผู้มีศิล 1ครั้ง
การให้ทาน ผู้มีศิล 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน พระอริยสงฆ์ 1ครั้ง
การให้ทาน พระอริยสงฆ์ 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ทาน พระพุธเจ้า 1ครั้ง
การให้ทาน พระพุธเจ้า 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การให้ สังฆทาน 1ครั้ง

การให้ สังฆทาน 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การ ร่วมสร้างวิหารทาน 1ครั้ง

การ ร่วมสร้างวิหารทาน 100 ครั้ง ไม่เท่ากับ การ นั่งสมาธิให้จิตใจสงบพิจารณาไตรลักษณ์ ว่าทุกอย่าง ต้องเสื่อมสลาย ไม่ให้จิตใจเกิดทุกข์ แค่เสี่ยวของวินาที ดังนั้นผู้ปฏิบัติแล้วจะแผ่ส่วนบุญนี้ให้ใครก็จะเกิดผลมากครับ

ก็ลองพิจารณานะครับ การจะสร้างบุญกุศลให้มากๆนั้นก็อยู่ที่จิตใจเท่านั้นครับ บางคนทำไม่ได้ก็อาจต้องซื้อด้วยเงินก็เป็นไปได้

การร่วมอนุโมทนาบุญ ได้ผลบุญ 90 % ขณะที่ผู้ทำบุญได้ 100 %

การปฎิบัติกรรมฐานเพื่อให้พ้นทุกข์ มีตั้ง 40 อย่าง แล้วแต่ ท่านจะถูกกับแบบไหน

พ่อครับด้วยความเคารพ ผมนึกว่าการทำบุญที่มีผลดีที่สุดต่อคนทำคือการทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทนซะอีกครับ

ศาสนาพุทธแบบที่นิยมกันในบ้านเรานี้ชอบเอาผลตอบแทนมาล่อให้คนทำบุญกัน แบบประชานิยมเปี๊ยบเลย
(อ้าว พาดพิงทั้งศาสนา และ การเมืองเลย)

Stars Under The Sky
05-07-12, 10:38 AM
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของเหตุและผลครับ พุทธศาสนิกชนที่ดี ต้องพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากรอบด้าน ไม่ว่าในแง่บวกและแง่ลบ คิดด้วยเหตุผล อะไรที่สงสัย อะไรที่ไม่เข้าใจ อะไรที่ไม่เห็นด้วย สามารถตั้งคำถาม ตั้งข้อโต้แย้งได้

Tu555
05-07-12, 12:38 PM
เข้าวัดก็ดีกว่าไม่เข้านะจ๊ะ
ยังทำอย่าอื่นไม่เป็นก็ทำทานกันไปก่อน
ทำอย่าอื่นเป็นแล้วก็ทำอย่างอื่นกันไป
เคยคุยกับมหาฮ๊อบแกก็บอกว่า ทำไปเหอะ ดี อย่าให้มันเกินกำลังก็แล้วกันจ้า

earl of huntingdon
05-07-12, 12:45 PM
ฟังเพลินๆกันนะ :D


http://youtu.be/YkyQXzfMkzY

waincan
05-07-12, 04:32 PM
1. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่มนุษย์ที่ไม่มีศีลธรรม แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
2. ทำทานแก่มนุษย์ไม่มีศีลธรรม แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล 5 แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
3. ทำทานแก่ผู้ที่ไม่มีศีล แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล 5 แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
4. ทำทานแก่ผู้ที่มีศีล 5 แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล 10 คือสามเณรแม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
5. ถวายทานแก่สามเณรซึ่งมีศีล 10 แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระสมมติสงฆ์ ซึ่งมีปาติโมกข์สังวร 227 ข้อ (สมมติสงฆ์หมายถึง พระสงฆ์ที่ยังไม่บรรลุธรรม และถือศีล 227 ข้อ)
6. ถวายทานแก่พระสมมติสงฆ์ แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระโสดาบัน แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
7. ถวายทานแก่พระโสดาบัน แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระสกิทาคามี แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
8. ถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระอนาคามี แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
9. ถวายทานแก่พระอนาคามี แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระอรหันต์ แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
10. ถวายทานแก่พระอรหันต์ แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระปัจเจกพระพุทธเจ้า แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
11. ถวายทานแก่พระปัจเจกพระพุทธเจ้า แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
12. ถวายทานแก่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายสังฆทานที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะได้ถวายสังฆทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม
13. ถวายสังฆทานที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าถวายวิหารทาน แม้จะกระทำแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม (วิหารทาน ได้แก่ การสร้างหรือร่วมสร้างโลสภ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ศาลาโรงธรรม ศาลาท่าน้ำ ศาลาที่พักอาศัยคนเดินทางอันเป็นสาธารณประโยชน์ รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียน บ่อน้ำ แท็งก์น้ำ สุสาน เมรุเผาศพ)
14. ถวายวิหารทาน แม้จะมากถึง 100 ครั้ง (100 หลัง) ก็ได้บุญน้อยกว่าการให้ ธรรมทาน แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม (ธรรมทาน ได้แก่ การเทศน์ การสอนธรรมะแก่ผู้อื่น ชักจูงผู้คนให้เข้าปฏิบัติธรรม การพิมพ์แจกหนังสือธรรมะ)
15. การให้ธรรมทาน แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ ‘อภัยทาน’ แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม (การให้อภัยทานก็คือการไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้าย)
อย่างไรก็ตาม การให้อภัยทาน แม้จะมากกว่าการให้ทานอื่น ๆ ก็ตาม แต่ผลของบุญก็ยังต่ำกว่าการรักษาศีล การ รักษาศีลมากเท่าใดก็ตามผลบุญที่รับยังต่ำกว่าการเจริญภาวนา ดังนั้นท่านปัญญาชนทั้งหลายจึงควรพิจารณาอย่างชาญฉลาดว่าจะทำบุญอย่างไรจึง จะได้รับผลมากน้อยตามลำดับขั้นที่กล่าวมา แม้ไม่ค่อยมีเงินทองก็สามารถที่จะทำบุญได้บุญมากเช่นเดียวกัน จึงไม่ต้องน้อยใจว่าเรามีกำลังทรัพย์น้อยแล้วจะไปทำบุญสู้เศรษฐีได้อย่างไร
นอก จากนี้ยังมีเกร็ดมาฝากสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีทรัพย์หรือทรัพย์น้อย หรือมีแต่ไม่สะดวกไม่มีเวลาที่จะทำบุญ หรือแม้แต่รักษาศึล หรือเจริญภาวนา ก็ตาม ก็สามารถทำได้ ต้องทำความเข้าใจว่าในอดีตชาติที่ล่วงมาแล้วไม่ว่าจะกี่พันปีก็ตาม มีผู้บำเพ็ญ ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา มากมายนับไม่ถ้วน ตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้จนได้พระธรรมคำสั่งสอน ได้อบรมสั่งสอนพระสงฆ์สาวก อุบาสก อุบาสิกา อบรมสั่งสอนสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันมากมายจนนับไม่ถ้วน ทุกวันนี้ยังมีพระอริยสงฆ์ พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ตื่นนอนตั้งแต่ตี 3 ตี 4 มานั่งปฏิบัติธรรม มากมาย ตลอดจนการทำบุญใส่บาตร ทำสังฆทาน ทำทาน อีกนับไม่ถ้วนทุกวัน เราจึงควรอนุโมทนาบุญ ดังนี้

ที่มา: http://www.budsakaeo.org/boon.htm

(อ่านบทความเต็ม ๆ ได้ที่ link ดังกล่าวครับ)

ที่ยกมานี้ เป็นองค์ประกอบของการทำบุญให้ได้บุญ คือต้องประกอบด้วย ผู้ให้ สิ่งที่ให้ และผู้รับ ส่วนธรรมกลาย จะเป็นผู้รับแบบไหน ต้องใช้วิจารณญาณของแต่ละคนครับ



ผมไม่ได้บอกว่าใครทำบุญกับธรรมกลายโง่นะครับ หลายคนจบ ดร. หลายคนเป็นนักธุรกิจสำคัญของประเทศ พวกนี้ไม่โง่แน่ ๆ

แต่ความคิดส่วนตัวผมการให้เงินแก่ใครสักคน โดยที่รู้ว่าเขาจะเอาเงินนั้นไปทำในสิ่งที่เป็นบาป ผมไม่ถือว่าจะเป็นบุญครับ

การให้เงินธรรมกลาย เป็นการเพิ่มกำลังให้กองกำลังที่กำลังทำลายพุทธศาสนา ครับ

oxic
05-07-12, 04:58 PM
เกือบ 2600 ปีที่ผ่านมา พุทธศาสนาถูกตีความนับครั้งไม่ถ้วน ศาสนาที่เรารู้จักอยู่อาจะแตกต่างจากของเดิมไปมากแล้วก็ได้
แต่อย่างไร เราก็ทำได้แค่ทำตามความเชื่อของเรา ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าความเชื่อของผู้อื่นจะผิด

ศาสนาพุทธในประเทศไทย โดนผสมจากวัฒนธรรมจารีตเก่า ก่อนที่จะพุทธศาสนาจะเข้ามา การนับถือผี ถือพรามณ์ ถูกผสมลงไปด้วย

ส่วนตัวแล้วผมไม่เชื่อถือแนวปฏิบัติของวัดดังกล่าวเช่นกัน

Drunken_Writer
05-07-12, 05:23 PM
อย่าเรียกที่นี่ว่าวัดเลยครับ .....

numtienice
05-07-12, 08:12 PM
อย่าเรียกที่นี่ว่าวัดเลยครับ .....



+1

:p

ejom
05-07-12, 08:12 PM
...

ทำบุญจะหวังผลหรือไม่หวังผล...ก็ย่อมได้ผลนั้น :)
ทำบาปจะหวังผลหรือไม่หวังผล...ก็ย่อมได้ผลนั้น :rolleyes:


... เมื่อสิ่งนี้(A)มี สิ่งนี้(B)จึงมี
... เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
... เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี
... เพราะสิ่งนี้ดับไป สิ่งนี้ก็ดับ ( ด้วย)

แม้เกิดเป็นมนุษย์มีทรัพย์มาก ก็ตาย
แม้เกิดเป็นเทวดามีสุขมาก ก็ตาย
แม้เกิดเป็นพรหมมีฤทธิ์มาก ก็ตาย
ตายแล้วย่อมไม่อาจรอดพ้นจากนรกกำเนิดเดรัจฉานหรือเปรตวิสัย (ตามกรรม)



พระพุทธเจ้าจึงสอนไปไกลกว่านั้น(ซึ่งไม่มีในศาสนาอื่น)...คือไม่เกิดอีก..จึงไม่มีตายอีก
โดยมีทางปฏิบัติ(มรรค8) ให้ออกจากระบบเกิดตาย(The Matrix) สู่อีกระบบหนึ่งคือระบบ อสังขต เรียกว่า NIRVANA... :D

Fah
06-07-12, 11:08 AM
ผมว่ามันเป็นเรื่องของความเชื่อ คุณและผมไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ครับ...

The_Ttent
06-07-12, 12:59 PM
ผมไม่เคยเข้าวัดนี้ วัดอื่นๆผมก็ไม่ค่อยเข้า ผมไม่ค่อยรู้จักพระสงฆ์ และไม่ค่อยยกมือไหว้พระสงฆ์ ด้วยว่า ไม่รู้ว่านั่นใช่พระสงฆ์รึเปล่า

มีเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้วจะเล่าให้ฟังครับเรื่องแรกนี้เจอเองกับตัว

"นี่โยม ดูนี่สิ ไฟฉายใหม่ สว่างมาก 7watt อาตมาบิดไปเพิ่งส่งมาถึงเมื่อวาน พูดพลางหยิบไฟฉายออกจากย่ามมาเปิดโชว์

ผมคิดในใจ.....ประทานโทษครับหลวงพ่อ กระผมขอยืมไฟฉาย 7watt สว่างมากซักนิดได้มั๊ยครับ จะเอามาฟาดหัวไอ้คนบิดซักที เผื่อจะจำได้ว่าควรละกิเลศ

อีกเรื่อง ......เค้าเล่ากันว่าพระภิกษุวัดนึง ออกธุดงค์ โดยใช้ เต็นท์ Karana MonkII แทนกลด และใช้ถุงนอน dreamlite 500 เพราะเล็กกระทัดรัด ใส่ย่ามได้ ในยามค่ำคืนไม่ต้องกลัวความมืด เพราะ เค้ามี Fenix L0D ติดย่ามไว้

ผมรู้สึก....บะฮี่แม่งมากๆ

ตี๋มือเก่า
06-07-12, 01:47 PM
พระพุทธเจ้าจึงสอนไปไกลกว่านั้น(ซึ่งไม่มีในศาสนาอื่น)...คือไม่เกิดอีก..จึงไม่มีตายอีก
โดยมีทางปฏิบัติ(มรรค8) ให้ออกจากระบบเกิดตาย(The Matrix) สู่อีกระบบหนึ่งคือระบบ อสังขต เรียกว่า NIRVANA... :D

สวัสดีครับพี่จอม
รบกวนพี่ช่วยอธิบายระบบThe Matrix >>>จนถึง>>>. Nirvana ให้คนปัญญาน้อย อย่างผม ให้เข้าใจทีครับพี่

ขอบคุณครับ

ck.
06-07-12, 02:23 PM
พี่ตี๋ลองศึกษาตามนี้ครับ
แก่นปรัชญาของศาสนาพุทธสากลแล้ว ให้เข้าใจง่ายๆ ก็มีประมาณนี้ ถ้าไม่นับเรื่องพิธีกรรม

http://club.myfri3nd.com/buddhism509/webboard/8543/33357

จะเห็นว่าแก่นแท้แล้วเป็นเพียงการอธิบายธรรมชาติของโลก ธรรมชาติของคน จิตคืออะไร วิธีการเข้าถึงความเป็นพื้นฐานในกระบวนการต่างๆ
เพื่อให้รู้เท่าทัน ระลึกตัว เข้าใจถึงเหตุและผล ความเป็นมาเป็นไปของสิ่งต่างๆได้ นอกจากนั้นคือวิธีการแนะแนวทั้งกระบวนการความคิด การยกระดับจิต
และการประพฤติปฏิบัติตนเพื่อให้ค้นพบภาวะที่เป็นความสงบที่แท้จริงในอุดมคติ

ถ้าชีวิตคนเราเป็นเหมือนการขับรถ หลักของพุทธศาสนาก็เป็นเพียงคู่มือการใช้รถ ป้ายบอกทาง เป็นระบบจราจร และเป็นทางด่วนที่ทำให้ไปสู่จุดหมายง่ายขึ้น สะดวกขึ้น


ส่วนความเข้าใจศาสนาพุทธในแบบบ้านเรา ถือเป็นพุทธแบบไทย ที่เจือด้วยแนวคิดแบบพรามหณ์ ผี และฮินดูอย่างนัวไปหมดครับ Thailand only :D


ปล.เมื่อเช้าเพิ่งเอากิ่งไม้เขี่ยๆช่วยตัวบุ้งที่ตกน้ำอยู่ รู้สึก(ไปเอง)ได้ว่าอิ่มอกอิ่มใจ มีความสุขมากกว่าตอนถวายสังฆทานครั้งไหนๆอีกครับ :bowarrow:

ธนูบิน
06-07-12, 03:23 PM
ปล.เมื่อเช้าเพิ่งเอากิ่งไม้เขี่ยๆช่วยตัวบุ้งที่ตกน้ำอยู่ รู้สึก(ไปเอง)ได้ว่าอิ่มอกอิ่มใจ มีความสุขมากกว่าตอนถวายสังฆทานครั้งไหนๆอีกครับ :bowarrow:

ทำแล้วมีความอิ่มเอมใจถือว่าดีแล้วครับ

waincan
06-07-12, 07:23 PM
ปล.เมื่อเช้าเพิ่งเอากิ่งไม้เขี่ยๆช่วยตัวบุ้งที่ตกน้ำอยู่ รู้สึก(ไปเอง)ได้ว่าอิ่มอกอิ่มใจ มีความสุขมากกว่าตอนถวายสังฆทานครั้งไหนๆอีกครับ :bowarrow:

ปฏิบติบูชา (รวมถึงการสวดมนต์ วิปัสนา กรรมฐาน) ย่อมให้ผลยิ่งกว่าอามิสบูชาครับ อนุโมทนาครับ

nok_1955
06-07-12, 11:13 PM
คุณตี๋ เพิ่งมาอ่าน ชอบมาก

ตี๋มือเก่า
07-07-12, 08:09 AM
พี่ตี๋ลองศึกษาตามนี้ครับ
แก่นปรัชญาของศาสนาพุทธสากลแล้ว ให้เข้าใจง่ายๆ ก็มีประมาณนี้ ถ้าไม่นับเรื่องพิธีกรรม

http://club.myfri3nd.com/buddhism509/webboard/8543/33357

จะเห็นว่าแก่นแท้แล้วเป็นเพียงการอธิบายธรรมชาติของโลก ธรรมชาติของคน จิตคืออะไร วิธีการเข้าถึงความเป็นพื้นฐานในกระบวนการต่างๆ
เพื่อให้รู้เท่าทัน ระลึกตัว เข้าใจถึงเหตุและผล ความเป็นมาเป็นไปของสิ่งต่างๆได้ นอกจากนั้นคือวิธีการแนะแนวทั้งกระบวนการความคิด การยกระดับจิต
และการประพฤติปฏิบัติตนเพื่อให้ค้นพบภาวะที่เป็นความสงบที่แท้จริงในอุดมคติ

ถ้าชีวิตคนเราเป็นเหมือนการขับรถ หลักของพุทธศาสนาก็เป็นเพียงคู่มือการใช้รถ ป้ายบอกทาง เป็นระบบจราจร และเป็นทางด่วนที่ทำให้ไปสู่จุดหมายง่ายขึ้น สะดวกขึ้น


ส่วนความเข้าใจศาสนาพุทธในแบบบ้านเรา ถือเป็นพุทธแบบไทย ที่เจือด้วยแนวคิดแบบพรามหณ์ ผี และฮินดูอย่างนัวไปหมดครับ Thailand only :D


ปล.เมื่อเช้าเพิ่งเอากิ่งไม้เขี่ยๆช่วยตัวบุ้งที่ตกน้ำอยู่ รู้สึก(ไปเอง)ได้ว่าอิ่มอกอิ่มใจ มีความสุขมากกว่าตอนถวายสังฆทานครั้งไหนๆอีกครับ :bowarrow:

ขอบคุณครับบี๋.

ejom
07-07-12, 08:38 AM
สวัสดีครับพี่จอม
รบกวนพี่ช่วยอธิบายระบบThe Matrix >>>จนถึง>>>. Nirvana ให้คนปัญญาน้อย อย่างผม ให้เข้าใจทีครับพี่

ขอบคุณครับ


สวัสดีครับพี่ตี๋ :) เรื่องมันยาว ไปดูหนังกันก่อนนะ อิอิ

The_Ttent
07-07-12, 10:06 AM
ผมว่ามันเป็นเรื่องของความเชื่อ คุณและผมไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ครับ...

จริงครับมันเปนเรื่องของความเชื่อ

แค่ใครก็มีสิทธิวิจารณ์ เพราะการวิจารณ์ คือการแสดงความคิดเห็น

แต่.....การตัดสินผิด-ถูกต่างหาก ที่ใครก็ไปตัดสินไม่ได้ เพราะมันเปนเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล

Tu555
07-07-12, 05:01 PM
ว่างๆ ต้องนั่งคุยเนื่องนี้กันครับพี่ สนุกใช่ย่อย พรุ่งนี้เป็นไง:)

Fah
07-07-12, 06:20 PM
จริงครับมันเปนเรื่องของความเชื่อ

แค่ใครก็มีสิทธิวิจารณ์ เพราะการวิจารณ์ คือการแสดงความคิดเห็น

แต่.....การตัดสินผิด-ถูกต่างหาก ที่ใครก็ไปตัดสินไม่ได้ เพราะมันเปนเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล


ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพซึ่งก็เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน แต่เราก็ต้องไม่ลืมที่จะเคารพสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน
การหยิบยกเอาศาสนามาวิจารณ์(การเมืองไม่นับ พระนอกรีตไม่เกี่ยว)ผมถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโลกใบนี้
การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ วัดพระธรรมกาย ถ้าเป็นไปในด้านบวกผมก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่ถ้ามีเนื้อหาไปในทางลบ นั้นก็หมายความว่า เรากำลังละเมิดสิทธิและความเชื่อของผู้อื่นอยู่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเราจะมาอ้างว่าเป็นสิทธิที่พึงมี นั้นคงไม่ได้ครับ


ปล.ผมไม่ใช่สาวกวัดพระธรรมกาย แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรเอาศาสนามาวิจารณ์ในด้านลบครับ

ธนูบิน
07-07-12, 06:55 PM
วิจารณ์ได้ครับ เล่าสู่กันฟังก็ได้ ถ้าสิ่งที่นำมาพูด นำมาบอกต่อ เป็นสิ่งที่เห็นจริง ไม่ใช่ไปฟังใครมา อย่างผมเคยเห็นพระซื้อล๊อตตารี่ ผมก็มาบอกต่อ ตำหนิที่พระ ไม่ได้โทษศาสนา หรือเห็นบางวัดทำห้องส้วมซะเลิศหรู ผมก็ตำหนิที่วัดครับ ไม่ได้โทษศาสนา

Drunken_Writer
07-07-12, 07:49 PM
สัตว์โลกย่อมเปนไปตามกรรม.....

ทุกๆศาสนาดีทั้งนั้น....นักบวช .สาวก ผู้ศรัทธา เหลือบศาสนาต่างหากที่ ทำให้มันดูดีหรือเลว ในสายตาใครๆ

แค่นั้นครับ

ยุติเถิดพี่น้อง เกรงว่าจะเปนเรื่องใหญ่

เห็นๆและรับรู้กันอยู่ทั้งทางบวก ทางลบ ทางบิดเบือน.....

โปรดใช้วิจารณญาณในการศรัทธา....

waincan
07-07-12, 08:07 PM
ผมว่ามันเป็นเรื่องของความเชื่อ คุณและผมไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ครับ...

การวิจารณ์ได้ หรือไม่ ผมแยกเป็นสองส่วน

คือความเชื่อที่เป็นองค์รวม หรือคำสั่งสอนต่าง ๆ อีกส่วนคือ บุคคล

ในความเห็นของผม ความเชื่อ เราสามารถวิจารณ์ได้ ถ้าเราไม่เห็นด้วย

อีกส่วนที่เราไม่ควรวิจารณ์คือ ตัวบุคคล ที่เขาเชื่อ เราไม่มีสิทธิที่จะวิจารณ์ว่าเขาโง่ที่ไปเชื่อ หรืองมงาย

เรื่องนี้รวมถึงบรรดารายการจับผีต่าง ๆ ทางทีวี หรือแม่ชีทศพร ที่แนะให้แก้กรรมโดยการซ่ำกับเด็กหนุ่ม

เราวิจารณ์คุณเจน ญาณทิพย์ได้ วิจารณ์ แม่ชีทศพร ได้

แต่ถ้ามีใครเชื่อคุณเจน ญาณทิพย์ หรือแม่ชีทศพร เราก็ไม่มีสิทธิที่จะไปชี้หน้าเขาว่าโง่ หรืองมงาย ทั้ง ๆ ที่เราไม่ศรัทธา ไม่เห็นด้วยครับ

Fah
07-07-12, 09:16 PM
[QUOTE=waincan;31197]การวิจารณ์ได้ หรือไม่ ผมแยกเป็นสองส่วน

คือความเชื่อที่เป็นองค์รวม หรือคำสั่งสอนต่าง ๆ อีกส่วนคือ บุคคล

ในความเห็นของผม ความเชื่อ เราสามารถวิจารณ์ได้ ถ้าเราไม่เห็นด้วย

อีกส่วนที่เราไม่ควรวิจารณ์คือ ตัวบุคคล ที่เขาเชื่อ เราไม่มีสิทธิที่จะวิจารณ์ว่าเขาโง่ที่ไปเชื่อ หรืองมงาย

เรื่องนี้รวมถึงบรรดารายการจับผีต่าง ๆ ทางทีวี หรือแม่ชีทศพร ที่แนะให้แก้กรรมโดยการซ่ำกับเด็กหนุ่ม

เราวิจารณ์คุณเจน ญาณทิพย์ได้ วิจารณ์ แม่ชีทศพร ได้

แต่ถ้ามีใครเชื่อคุณเจน ญาณทิพย์ หรือแม่ชีทศพร เราก็ไม่มีสิทธิที่จะไปชี้หน้าเขาว่าโง่ หรืองมงาย ทั้ง ๆ ที่เราไม่ศรัทธา ไม่เห็นด้วยครับ[/QUOTE

คุณwaincan ครับ มาย้อนคุยประเด็นนี้ผมว่ามันช้าไปนะครับ ถ้าอยากจะคุยกันก็ต้องตามให้ทันนะครับว่าเค้าคุยกันถึงไหนแล้ว
บรรทัดสุดท้ายที่เราคุยกันถึงเรื่องว่า ไม่ควรเอาศาสนามาวิจารณ์ในด้านลบครับ

oxic
07-07-12, 09:35 PM
โดยปกติ ผมถือว่าทุกสิ่งวิจารณ์ได้หมด เพียงแต่ว่า ต้องวิจารณ์กับใคร

สำหรับในพื้นที่นี้ ผมเห็นตรงว่าไม่ควรวิจารณ์ เพราะการวิจารณ์ในสถานที่นี้ไม่ทำให้เราเข้าใจ ธรรมกาย (ซึ่งผมไม่เข้าใจอยู่) มากขึ้น

การวิจารณ์ไม่ใช่การดูหมิ่นเหยียดหยาม ความคิดความเชื่อ ผมจึงเชื่อว่าสามารถวิจารณ์ได้ทุกเรื่อง ^^

Fah
07-07-12, 10:21 PM
โดยปกติ ผมถือว่าทุกสิ่งวิจารณ์ได้หมด เพียงแต่ว่า ต้องวิจารณ์กับใคร

สำหรับในพื้นที่นี้ ผมเห็นตรงว่าไม่ควรวิจารณ์ เพราะการวิจารณ์ในสถานที่นี้ไม่ทำให้เราเข้าใจ ธรรมกาย (ซึ่งผมไม่เข้าใจอยู่) มากขึ้น

การวิจารณ์ไม่ใช่การดูหมิ่นเหยียดหยาม ความคิดความเชื่อ ผมจึงเชื่อว่าสามารถวิจารณ์ได้ทุกเรื่อง ^^

เห็นด้วยครับ และขอหยุดการสนทนา ตามคำสั่งสอนและข้อห้ามเป็นเด็ดขาดของครูบาอาจารย์และผู้ใหญ่ที่เคารพว่าไม่ควรคุยเรื่องศาสนา เชื่อชาติ การเมือง ความเชื่อ กับมิตรสหาย

ตาเกิ้น
07-07-12, 10:29 PM
เป็นอันว่าหยุดนะครับ

ไม่ว่าใครจะมีความเห็นแตกต่างว่าควรเป็นอย่างไร วิจารย์ได้หรือไม่ได้ ผมว่าคงต้องเป็นความคิดเห็นที่ยังคงความแตกต่าง

แต่เอาว่าเป็นที่ตกลงกันระหว่างพวกเราในรอบกองไฟว่าขอยกเว้นการสนทนาเรื่องศาสนา และการเมืองที่นี่ก็แล้วกันนะครับ จะคุยกันที่อื่นก็แล้วแต่เหมาะสมครับ

ที่นี่คุยกันเรื่องอื่นดีกว่าครับ