PDA

View Full Version : เลนขี่จักรยานโดยเฉพาะ เมืองไหนๆ เขาก็มีกัน



Stars Under The Sky
18-07-12, 11:49 PM
รถติดหรอ มาขี่จักรยานกันสิครับ โล้ง โล่ง สบาย
http://blog.trick-bike.com/__oneclick_uploads/2010/01/img_5129.jpg


ใส่สูท ปั่นจักรยานไปทำงาน แปลกตรงไหนหยอ?

http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2009/09/23/article-1215491-068DB552000005DC-59_634x582.jpg


ใครบอกว่า จักรยาน ขนของเยอะไม่ได้ อย่าไปเชื่อนะครับ

http://i.telegraph.co.uk/multimedia/archive/01410/Tricycle-car-bumpe_1410335i.jpg


เลนจักรยานที่เนเธอร์แลนด์

http://4.bp.blogspot.com/-_g-XaSfs4C8/TZotPpEVZRI/AAAAAAAAADo/plt9E9i-QVg/s1600/dutch-style-junction.jpg


ญี่ปุ่น ก็มีเลนจักรยาน แน่นอนอยู่แล้ว

http://farm4.staticflickr.com/3182/2814639419_48eddd5f18.jpg


New York ก็มี

http://grist.files.wordpress.com/2011/03/new-york-city-bike-lane-flickr-kyle-gradinger-500.jpg


India ก็มีด้วย

http://www.streetsblog.org/wp-content/uploads/2010/01/25/Delhi_BRT_Corridor.jpg


เลนจักรยานที่เซี่ยงไฮ้ มีรั้วสูงกั้นเรียบร้อย ไม่ให้รถยนต์เข้ามามั่วนิ่มได้

http://farm8.staticflickr.com/7058/7001980076_b65f600889_z.jpg


ที่ปักกิ่ง ทางการบอกว่า เลนจักรยานมีน้อยเกินไป เดี๋ยวเพิ่มให้อีก

http://sevenleagueboots.files.wordpress.com/2009/10/dscf0438.jpg


รถยนต์ชอบมาจอดทับเลนขี่จักรยานหรอ ไหนๆ นายกเทศมนตรีเมืองหลวงลิธัวเนีย จัดการให้

http://dailypicksandflicks.com/wp-content/uploads/2011/08/Mayor-of-Vilnius-Runs-Over-Illegally-Parked-Car-in-APC.jpg


เดินทางด้วยการขี่จักรยานกันเยอะๆ ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดโลกร้อน แก้ปัญหารถติด อาจได้ไปแข่งโอลิมปิค และอย่าลืมใส่หมวกกันน็อคด้วยนะคะ

http://statics.atcloud.com/files/entries/10/100367/images/1_display.jpg

The_Ttent
19-07-12, 03:04 PM
เลนจักรยานในไทยก็มี แต่มันไม่ศักดิ์สิทธิ์และไม่มีใครเคารพสิทธิของจักรยานบนท้องถนน

อ่านข่าวจากเพจจักรยานใน FB มา

เด็กขี่จักรยาน fixgear บนถ.เพชรเกษม โดนด่านดักมอเตอร์ไซค์ของตำรวจจับ และตั้งข้อหาว่า ไม่สวมหมวกกันน๊อค แล้ใช้จักรยานที่ไม่มีห้ามล้อ

โทษปรับ 1000 บาท สุดท้ายก็ปล่อยไป เพราะพ่อเด็กนั่นเปนตำรวจยศใหญ่กว่า

ลองไปคิดกันดูครับ ว่ามันสมควรแก่เหตุหรือไม่ อย่างไร ผมเองไม่แนะนำให้คนรู้จักขี่ fixgear และบอกให้ทุกคนใส่หมวกกันน๊อคเสมอ

แต่กรณีนี้ ผมว่า ตำรวจกับโจร ต่างกันแค่ชุดที่ใส่ นอกจากสารวอนแล้ว ผมไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเมื่อเจอตำรวจเลย

suwanjee
19-07-12, 03:33 PM
สนับสนุน 1 เสียงครับที่เชียงรายเพิ่งมีสายแรก(ทางเลี่ยงมืองขาออก สะพานขัวพยามังราย)มีทางจักรยาน แต่พอเปิดใช้กลายเป็นที่จอดรถยนต์เต็มทั้งสายเลย
ไม่เห็น จนท ตำรวจว่าไง

แวบมา
20-07-12, 03:21 PM
รถติดหรอ มาขี่จักรยานกันสิครับ โล้ง โล่ง สบาย
India ก็มีด้วย

http://www.streetsblog.org/wp-content/uploads/2010/01/25/Delhi_BRT_Corridor.jpg




เลนจักรยานของไทยเราก็มีครับ คล้ายของอินเดียแต่ดูดีกว่า

อยู่สองข้างทางถนนประดิษฐ์มนูธรรมใกล้สนามธนูเราแค่นี้ นี่เอง
ทำไว้น่าขี่ดีมาก เพราะแยกเลนจักรยานเป็นสัดส่วนไม่ปะปนกับถนนหรือทางเท้า
แต่เท่าที่อยู่มาหลายปี บอกได้เลยครับว่าถ้าให้เดาเป็นกลางๆ
คนที่ไม่ขี่จักรยานเขาคงมองว่าทำมาทำไมให้สิ้นเปลือง
เพราะนานๆ ที ถึงจะมีคนขี่จักรยานผ่านไปสักคันหนึ่ง (ถ้าเป็นบ้านนอกเขาก็เรียกถนนควายเดินครับ)

ผมเข้าใจว่าหลายคนคงอยากให้มีเลนจักรยานแบบนี้ใกล้บ้านตัวเอง แทนที่จะต้องมาไกลๆ เพื่อใช้เลนจักรยานที่นี่
แต่ผมก็ทำใจว่าคงไม่มีประเทศใดในโลกที่สามารถทำเลนจักยานได้ทั่วถึง
และที่สำคัญคือ เลนจักรยานบ้านเราเป็นเรื่องที่ไม่รู้จักแพร่หลาย
เพราะเป็นเรื่องเก่า เก่ามากจนคนรุ่นใหม่ๆ ที่ขี่จักรยานกันอยู่ทุกวันนี้ลืมกันไปหมด
แม้แต่กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงก็ยังยกเลิกไปแล้วครับ

และถ้าตีความตรงตัวอักษรอย่างกรณี "ห้ามจอดรถยนตร์บริเวณเครื่องหมายห้ามจอด"
เขาก็บอกได้ว่า ก็มันเป็นเครื่องหมายเลนจักรยานนี่ครับ ไม่ใช่เครื่องหมายห้ามจอด

หรือแม้สมมติว่ายังมีกฎหมายบังคับใช้อยู่
บรรดาผู้เรียกร้องสิทธิทั้งหลายซึ่งบางคนก็รู้แต่ว่ารถยนตร์ห้ามจอดทับเลนจักรยานนั้น
รู้หน้าที่ของตัวบ้างไหมครับว่า
หน้าที่ซึ่งคนขี่จักรยานต้องปฏิบัตินั้น มีอะไรบ้าง ตามกฎหมาย

สุดท้าย
ขอสนับสนุนแนวคิดข้างล่างนี้สุดลิ่มทิ่มประตูเลยครับ


http://statics.atcloud.com/files/entries/10/100367/images/1_display.jpg

แวบมา
20-07-12, 03:37 PM
เลนจักรยานในไทยก็มี แต่มันไม่ศักดิ์สิทธิ์และไม่มีใครเคารพสิทธิของจักรยานบนท้องถนน

อ่านข่าวจากเพจจักรยานใน FB มา

เด็กขี่จักรยาน fixgear บนถ.เพชรเกษม โดนด่านดักมอเตอร์ไซค์ของตำรวจจับ และตั้งข้อหาว่า ไม่สวมหมวกกันน๊อค แล้ใช้จักรยานที่ไม่มีห้ามล้อ

โทษปรับ 1000 บาท สุดท้ายก็ปล่อยไป เพราะพ่อเด็กนั่นเปนตำรวจยศใหญ่กว่า

ลองไปคิดกันดูครับ ว่ามันสมควรแก่เหตุหรือไม่ อย่างไร ผมเองไม่แนะนำให้คนรู้จักขี่ fixgear และบอกให้ทุกคนใส่หมวกกันน๊อคเสมอ

แต่กรณีนี้ ผมว่า ตำรวจกับโจร ต่างกันแค่ชุดที่ใส่ นอกจากสารวอนแล้ว ผมไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเมื่อเจอตำรวจเลย

เรื่องเด็กขี่จักรยาน fixgear ถูกจับบน ถ.เพชรเกษม อยากรู้จังว่า สน.ไหน และเมื่อไร

เพราะข้อหา ไม่สวมหมวกกันน๊อค และใช้จักรยานที่ไม่มีห้ามล้อ
หลวงท่านเลิกบังคับใช้กันมาเป็นสิบปีเข้านี่แล้วนาขอรับพระคุณท่าน
ไม่รู้ว่าน้องเขาไปเจอด่านทวิภพยกพหลพลตำรวจมาจากยุคกระโน้นหรือไร

เรื่องนี้คุณพ่อคุณน้องไม่ต้องเป็นตำรวจยศใหญ่(หรือคุณน้องอยากบอกเพื่อนใน FB ว่าคุณพ่อเป็นตำรวจใหญ่ เคลียร์ได้) สุดท้ายเขาก็ปล่อยครับ

ความรู้สึกของผมก็คงคล้ายๆ The_Ttent
เพราะทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย :crying:
เหมือนมีคนจ้องจะทำร้ายอยู่ตลอดเวลาครับ :eek:

anaconda
20-07-12, 05:34 PM
สนับสนุน 1 เสียงครับที่เชียงรายเพิ่งมีสายแรก(ทางเลี่ยงมืองขาออก สะพานขัวพยามังราย)มีทางจักรยาน แต่พอเปิดใช้กลายเป็นที่จอดรถยนต์เต็มทั้งสายเลย
ไม่เห็น จนท ตำรวจว่าไง

พักอยู่แถวไหนในเวียงครับ ...:)

pati
20-07-12, 11:37 PM
แถวบ้านผมถ้าทำช่องวิ่งสำหรับจักรยาน มีหวังพวกรถแท็กซี่ป้ายดำหรือรถรับจ้างเถื่อนได้มายึดทำเป็นวินจอดของพวกมันแน่ๆ :(

Sanit
21-07-12, 08:58 AM
ถามเล่นๆ ว่า สมมุติว่ามีทางจักรยานที่ใช้ได้จริง แต่ละท่านจะลดการใช้รถยนต์ลงเท่าไหร่ครับ

ปัจจุบันผมขี่จักรยานไปทำงานเป็นบางวันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสัดส่วนการลดลงของผมไม่น่าจะถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในภาพรวมผมน่าจะใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทางมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

ท่านอื่นๆ ล่ะครับ

Stars Under The Sky
21-07-12, 11:54 AM
การขี่จักรยาน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการเดินทาง ซึ่งมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดิน รถเมล์ รถไฟฟ้า รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซรับจ้าง รถยนตร์ส่วนตัว รถเพื่อน :D แต่ละอย่าง ก็มีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันออกไป

หากแต่คนโดยส่วนใหญ่ หรือคนที่มีรถแล้ว กลับจำกัดทางเลือกของตัวเอง ว่า ต้องเดินทางด้วยรถยนตร์ส่วนตัวเท่านั้น

การเดินทางระยะไม่ไกลมาก เช่น 500 เมตร หรือ 1 กิโลเมตร เดินจะเหมาะสมที่สุด ใช้เวลาไม่นาน และน่าจะเร็วกว่าขับรถด้วย หากไกลมาออกมาหน่อย เช่น 1 กิโลเมตร ถึง 5 กิโลเมตร (หรืออาจจะไกลกว่านั้นก็ได้ ถ้าคุณแรงปั่นเยอะ) ขี่จักรยานกำลังสบาย สะดวก รวดเร็ว ยิ่งถ้าคุณเดินทางไปยังสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า รถติด หาที่จอดรถยาก การเดิน หรือขี่จักรยาน หรือนั่งรถสาธารณะไป น่าจะสะดวกที่สุด หากแต่คนส่วนใหญ่ เมื่อมีรถยนตร์ส่วนตัวแล้ว กลับจำกัดทางเลือกของตัวเอง ว่าจะต้องขับรถไปเท่านั้น แม้จะรู้ว่าที่ที่จะเดินทางไปรถจะติด จะหาที่จอดรถยาก จะเสียเวลามาก เดินทางคนเดียว ไม่ได้ขนของอะไร ก็จะยังขับรถไป

และเมื่อพูดถึงการขี่จักรยาน คนส่วนใหญ่ก็จะมองในแง่ลบ เช่น เหนื่อย อันตราย ขนของไม่ได้ ร้อน ฝนตกก็เปียก และอื่นๆอีกมากมาย ใช่ครับ สิ่งเหล่านี้ก็คือข้อด้อยของการขี่จักรยาน แต่ก็อย่างที่บอก ว่าทุกรูปแบบของการเดินทาง มีข้อดี ข้อด้อย ของตัวเอง คือว่ายังไงดีล่ะ อย่างที่บอกว่า การขี่จักรยาน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งของการเดินทาง ท่านเลือกได้ครับ เช่น ถ้าฝนตก ท่านก็ไม่ต้องขี่จักรยานสิครับ ถ้ามันไกลมาก ก็ไม่ต้องขี่จักรยาน ไม่ได้แปลว่า พอจะขี่จักรยานแล้ว ก็ห้ามเดินทางด้วยวิธีอื่น ถ้าฝนตก พายุเข้า แดดร้อนจัด ก็ไม่ต้องขี่จักรยานก็ได้ครับ

แต่วันไหนที่โอกาสเหมาะ เงื่อนไขมันเหมาะสมกับการขี่จักรยาน เช่นระยะทางแค่ไม่กี่กิโลเมตร ทางที่จะไป รถติดมาก แต่จักรยานไม่ติด เป็นช่วงเย็นๆ อากาศกำลังดี นี่แหละครับ ก็อยากจะให้คนลดการขับรถในโอกาสแบบนี้ มาเดินทางด้วยการขี่จักรยานแทน แล้วจะค้นพบว่า ชีวิตมันง่ายขึ้นอีกเยอะ เมื่อเรามีทางเลือกที่มากขึ้น

ส่วนเรื่องเลนส์จักรยาน จะทำให้คนขี่จักรยานมากขึ้นมั้ย อันนี้ ถ้าถามความคิดเห็นผมตรงๆ ก็คงคิดว่าน้อยมาก มันคงไม่ได้ทำให้คนที่ไม่เคยขี่จักรยานมาก่อน หันมาลองเดินทางด้วยการขี่จักรยาน แต่มันจะเป็นประโยชน์กับคนที่ขี่จักรยานเป็นประจำอยู่แล้วให้ได้ขี่จักรยานมากขึ้น

The_Ttent
21-07-12, 01:44 PM
เรื่องเด็กขี่จักรยาน fixgear ถูกจับบน ถ.เพชรเกษม อยากรู้จังว่า สน.ไหน และเมื่อไร

เพราะข้อหา ไม่สวมหมวกกันน๊อค และใช้จักรยานที่ไม่มีห้ามล้อ
หลวงท่านเลิกบังคับใช้กันมาเป็นสิบปีเข้านี่แล้วนาขอรับพระคุณท่าน
ไม่รู้ว่าน้องเขาไปเจอด่านทวิภพยกพหลพลตำรวจมาจากยุคกระโน้นหรือไร

เรื่องนี้คุณพ่อคุณน้องไม่ต้องเป็นตำรวจยศใหญ่(หรือคุณน้องอยากบอกเพื่อนใน FB ว่าคุณพ่อเป็นตำรวจใหญ่ เคลียร์ได้) สุดท้ายเขาก็ปล่อยครับ

ความรู้สึกของผมก็คงคล้ายๆ The_Ttent
เพราะทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย :crying:
เหมือนมีคนจ้องจะทำร้ายอยู่ตลอดเวลาครับ :eek:

ก๊อปมาให้อ่านจากหน้าเพจ กรุงเทพเมืองจักรยาน

"ตำรวจไทยเอาอีกแล้ว เมือซักครู่น้องปั่นจักรยานผ่านมาคุยด้วย บอกว่าโดนตำรวจแถวบางแคเรียก จะปรับ 1000 บาท แจ้งว่าไม่สวมหมวกกันน๊อค ไม่ขับชิดเลนซ้าย และไม่มีเบรค(ฟิกส์เกียร์ ถ้าตีความคำว่า"ระบบห้ามล้อ" ไม่ว่าจะก้ามปู วีเบรค ดิสเบรค หรือกลไกลโซ่ในการเบรค ก็น่าจะถือว่ามีเบรคเหมือนกันนะครับ เพราะมันสามารถ"ห้ามล้อ"ได้ทั้งสิ้น) ถนนแถวบางแคกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าริมถนนเต็มไปด้วยกรวดดินน้องเขาเลยเบี่ยงหลบเลยไปเจอตำหรวจดักมอไซร์เรียกเข้าเลยโดนโชคดี พ่อเขาเป็นตำหรวจด้วยกันเลยปล่อยไป ตำรวจไทยทำไมน่ารักอย่างนี้"

เผื่อจะตามไปอ่านต่อ โพสไว้วันที่ 14 กรกฎาครับ

แวบมา
21-07-12, 03:29 PM
แถวบ้านผมถ้าทำช่องวิ่งสำหรับจักรยาน มีหวังพวกรถแท็กซี่ป้ายดำหรือรถรับจ้างเถื่อนได้มายึดทำเป็นวินจอดของพวกมันแน่ๆ :(

นั่นมันปลายทางหลังสุดครับ ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังว่าปัญหาเลนจักรยานในกรุงเทพฯ คืออะไร

อย่างแรก
ผมเห็นมีช่องทางจักรยานที่ดูดีมากบนถนนเส้นลาดหญ้าวงเวียนใหญ่
ถนนเส้นนี้กว้างขวางพอจะแบ่งทำช่องทางจักรยานโดยไม่เสียช่องทางจราจรปกติมากนัก
ทั้งการจราจรก็ไม่หนาแน่นมากขี่จักรยานได้กำลังดี
พอทำเสร็จพวกนักการเมืองท้องถิ่นก็ให้นักข่าวมาสัมภาษณ์แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ผลงาน
หลังจากนั้นในแทบจะทันทีทันใด ช่องทางจักรยานนั้นก็กลายเป็นแค่ "สีส่วนเกินบนถนนเท่านั้นแหละครับ"
หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขาลงทุนใช้ "สีพิเศษที่คนส่วนใหญ่มองเห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า" คนจึงไม่รู้ว่าเป็นช่องทางจักรยาน
เส้นนี้อย่าว่าแต่รถรับจ้างแท็กซี่เถื่อนอย่างที่ว่าเลยนะครับ
ผมเห็นรถใหญ่จอดขึ้นคานยังกับจะทำอู่กันอยู่บนทางจักรยานกันนี่แหละครับ
ทั้งอู่แท็กซี่ อู่ซ่อมรถ รถสิบล้อ รถทัวร์ รถน้ำมัน จอดมันบนช่องทางจักรยานนั่นแหละ
ปัญหานี้คือ ทำมาดี ใช้จริงได้ แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง คนขี่จักรยานจึงไม่มาใช้ รถใหญ่ก็ไม่รู้กติกา
เมื่อไม่มีคนใช้ มันก็เหมือนที่รกร้างว่างเปล่า การที่คนจะบุกรุกเข้าไปใช้หาประโยชน์ส่วนตัวมันก็มาก

อย่างที่สอง
ช่องทางจักรยานหลอก
คือคนทำเขาพยายามหลอกคนขี่จักยานว่าเป็นช่องทางจักรยาน
และหลอกตัวเองว่ามันขี่จักรยานบนช่องทางอย่างนั้นได้ (จริงเหรอ...)
อย่างนี้เห็นบ่อยบนเส้นทางที่หน่วยงานราชการโคสะนาว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยว
ที่ต้องผ่านเข้าตรอกซอกซอย และบางสถานที่นั้น ทางที่มีมาแต่สมัยโบราณนั่น ทางเขามีไว้แค่ใช้เดินครับ
บางช่วงคนเดินสวนยังต้องเอียงตัวหลีกกัน แล้วนี่จู่ๆ ท่านก็เอาสีมาระบายบนทางเดินนั่นเป็นรูปจักรยาน
แล้วบอกนักท่องเที่ยวว่า "เชิญมาขี่จักรยานกันทางนี้เลยครับ"
ปล่อยให้ชาวบ้านงงสิครับว่าไอ้เด็กมือบอนที่ไหนแอบมาระบายสีทางเดินของเขา
ทางท่องเที่ยวเส้นเดียวกัน พอกลับออกจากซอยมาได้สักพัก
ช่องทางก็จะผ่านไปบนทางเท้าริมถนนที่อุดมไปด้วยฝาท่อ,หลุมบ่อที่ต่างระดับกับผิวทาง
จากนั้นช่องทางจักรยานก็จะพาท่านมาพบกับ "บันได" ครับ บันไดสะพานข้ามคลองสูงลิบ
ลำพังจักรยานเสือภูเขา เสือหมอบแพงๆ ของท่านๆ ก็ไม่เท่าไร แบกกันตัวปลิว หรือบางคันที่นิ้วเดียวก็ยกได้
แต่จักรยานเก่าๆ อย่างผม ขึ้นบันไดชันอย่างนั้น ยกกันสองคนยังมีเหนื่อย
และรถจักรยานแบบที่ทางราชการมีไว้บริการนักท่องเที่ยว
ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่รู้ว่าจะทำไปได้ตลอดแค่ไหน
จักรยานแบบนั้นเขาไม่ได้ถูกออกแบบมาให้แบก เหมือนอย่างที่ท่านออกแบบทางจักรยานให้วิบากขนาดนั้นครับ
สรุปคือ ช่องทางจักรยานแบบนี้เขาก็แค่ระบายรูปจักรยานไปตามเส้นทางท่องเที่ยวโดยนั่งดูแผนที่ในห้องแอร์
และบางทีอาจจะไม่ได้เป็นลูกเสือมาก่อน เลยไม่รู้ว่าคำว่า ทางเดิน ในแผนที่นั้นเขาหมายถึงอะไร

สรุปคือปัญหาช่องทางจักรยานคือ คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ
เหมือนอย่างเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน แถวบ้านผมมีป้ายรถเมล์ปริศนาเกิดขึ้นมาป้ายหนึ่ง
เป็นป้ายลับแล คือคนที่เดินไปมา หรือผู้โดยสารรถประจำทางจะมองเห็นป้ายๆ นี้
แต่คนขับรถประจำทาง และพนักงานเก็บสตางค์จะมองไม่เห็น ไม่รู้ว่ามีป้ายนี้อยู่แม้จะมีคนกดกริ่ง
ผมเคยอดรนทนไม่ได้เดินไปสอบถามนายท่ารถสายหนึ่งก็ได้ความว่า
ป้ายรถเมล์ป้ายนี้ กทม. เป็นคนเอาป้ายมาปัก แต่ทาง ขสมก. คัดค้านว่าเป็นจุดคับขัน หรือใกล้กับป้ายอื่นเกินไป
จึงกลายเป็นว่าทุกวันนี้ป้ายนี้ กทม. ก็เอางบฯ มาสร้างเป็นศาลาที่พักผู้โดยสารถาวรให้คนมาเช่าที่โฆษณา
ในขณะที่รถประจำทางก็ไม่ค่อยมีคันไหนจะเข้ามาจอดรับคนที่ป้ายนี้เหมือนเดิมครับ

แวบมา
21-07-12, 03:35 PM
ก๊อปมาให้อ่านจากหน้าเพจ กรุงเทพเมืองจักรยาน

"ตำรวจไทยเอาอีกแล้ว เมือซักครู่น้องปั่นจักรยานผ่านมาคุยด้วย บอกว่าโดนตำรวจแถวบางแคเรียก จะปรับ 1000 บาท แจ้งว่าไม่สวมหมวกกันน๊อค ไม่ขับชิดเลนซ้าย และไม่มีเบรค(ฟิกส์เกียร์ ถ้าตีความคำว่า"ระบบห้ามล้อ" ไม่ว่าจะก้ามปู วีเบรค ดิสเบรค หรือกลไกลโซ่ในการเบรค ก็น่าจะถือว่ามีเบรคเหมือนกันนะครับ เพราะมันสามารถ"ห้ามล้อ"ได้ทั้งสิ้น) ถนนแถวบางแคกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าริมถนนเต็มไปด้วยกรวดดินน้องเขาเลยเบี่ยงหลบเลยไปเจอตำหรวจดักมอไซร์เรียกเข้าเลยโดนโชคดี พ่อเขาเป็นตำหรวจด้วยกันเลยปล่อยไป ตำรวจไทยทำไมน่ารักอย่างนี้"

เผื่อจะตามไปอ่านต่อ โพสไว้วันที่ 14 กรกฎาครับ

อ่านที่เขาว่าแล้วรู้สึกว่าไร้สาระ

เพราะถึงจริงก็แค่สรุปได้อย่างที่บอกแล้วคือ
ตำรวจคนที่ตั้งด่านดักจับ ตั้งข้อหามั่ว ไม่ศึกษาให้ดี อย่างนี้ถ้ามีคนรู้จริงสวนมา โดนแน่
เด็กที่รถจักรยานก็ขี้เบ่งเหลือเกิน สมมติว่าถ้าทำผิดจริงๆ ก็จะให้พ่อเคลียร์ อย่างนั้นหรือ
ส่วนคนที่เอาเรื่องน้องเขามาเล่า ก็เข้าข้างเด็กจนเห็นได้ชัดครับ

แวบมา
21-07-12, 04:23 PM
การขี่จักรยาน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการเดินทาง ซึ่งมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดิน รถเมล์ รถไฟฟ้า รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซรับจ้าง รถยนตร์ส่วนตัว รถเพื่อน :D แต่ละอย่าง ก็มีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันออกไป

หากแต่คนโดยส่วนใหญ่ หรือคนที่มีรถแล้ว กลับจำกัดทางเลือกของตัวเอง ว่า ต้องเดินทางด้วยรถยนตร์ส่วนตัวเท่านั้น

การเดินทางระยะไม่ไกลมาก เช่น 500 เมตร หรือ 1 กิโลเมตร เดินจะเหมาะสมที่สุด ใช้เวลาไม่นาน และน่าจะเร็วกว่าขับรถด้วย หากไกลมาออกมาหน่อย เช่น 1 กิโลเมตร ถึง 5 กิโลเมตร (หรืออาจจะไกลกว่านั้นก็ได้ ถ้าคุณแรงปั่นเยอะ) ขี่จักรยานกำลังสบาย สะดวก รวดเร็ว ยิ่งถ้าคุณเดินทางไปยังสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า รถติด หาที่จอดรถยาก การเดิน หรือขี่จักรยาน หรือนั่งรถสาธารณะไป น่าจะสะดวกที่สุด หากแต่คนส่วนใหญ่ เมื่อมีรถยนตร์ส่วนตัวแล้ว กลับจำกัดทางเลือกของตัวเอง ว่าจะต้องขับรถไปเท่านั้น แม้จะรู้ว่าที่ที่จะเดินทางไปรถจะติด จะหาที่จอดรถยาก จะเสียเวลามาก เดินทางคนเดียว ไม่ได้ขนของอะไร ก็จะยังขับรถไป

และเมื่อพูดถึงการขี่จักรยาน คนส่วนใหญ่ก็จะมองในแง่ลบ เช่น เหนื่อย อันตราย ขนของไม่ได้ ร้อน ฝนตกก็เปียก และอื่นๆอีกมากมาย ใช่ครับ สิ่งเหล่านี้ก็คือข้อด้อยของการขี่จักรยาน แต่ก็อย่างที่บอก ว่าทุกรูปแบบของการเดินทาง มีข้อดี ข้อด้อย ของตัวเอง คือว่ายังไงดีล่ะ อย่างที่บอกว่า การขี่จักรยาน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งของการเดินทาง ท่านเลือกได้ครับ เช่น ถ้าฝนตก ท่านก็ไม่ต้องขี่จักรยานสิครับ ถ้ามันไกลมาก ก็ไม่ต้องขี่จักรยาน ไม่ได้แปลว่า พอจะขี่จักรยานแล้ว ก็ห้ามเดินทางด้วยวิธีอื่น ถ้าฝนตก พายุเข้า แดดร้อนจัด ก็ไม่ต้องขี่จักรยานก็ได้ครับ

แต่วันไหนที่โอกาสเหมาะ เงื่อนไขมันเหมาะสมกับการขี่จักรยาน เช่นระยะทางแค่ไม่กี่กิโลเมตร ทางที่จะไป รถติดมาก แต่จักรยานไม่ติด เป็นช่วงเย็นๆ อากาศกำลังดี นี่แหละครับ ก็อยากจะให้คนลดการขับรถในโอกาสแบบนี้ มาเดินทางด้วยการขี่จักรยานแทน แล้วจะค้นพบว่า ชีวิตมันง่ายขึ้นอีกเยอะ เมื่อเรามีทางเลือกที่มากขึ้น

ส่วนเรื่องเลนส์จักรยาน จะทำให้คนขี่จักรยานมากขึ้นมั้ย อันนี้ ถ้าถามความคิดเห็นผมตรงๆ ก็คงคิดว่าน้อยมาก มันคงไม่ได้ทำให้คนที่ไม่เคยขี่จักรยานมาก่อน หันมาลองเดินทางด้วยการขี่จักรยาน แต่มันจะเป็นประโยชน์กับคนที่ขี่จักรยานเป็นประจำอยู่แล้วให้ได้ขี่จักรยานมากขึ้น

ฟังอีกตัวอย่างหนึ่งไหมครับ

ผมเป็นคนที่ขี่จักรยานไปทำงานเกือบทุกวัน
ไม่ใช่ว่ารักโลก อนุรักษ์พลังงานอะไร
แต่จำเป็นเพราะเป็นทางที่ประหยัดและสะดวกที่สุดครับ
ประหยัดและสะดวกอย่างไรลองคิดตามนะครับ
ที่พักผมอยู่ห่างจากที่ทำงานประมาณ 6-7 กม. แต่ต้องข้ามฟากจากฝั่งธนฯ มา พระนคร
ที่ทำงานอยู่ใจกลางเมืองไม่มีที่พอสำหรับให้จอดรถส่วนตัว (ถ้าผมมี)
วันแรกๆ ผมใช้รถแท็กซี่ ระยะเวลาเดินทางขาไปประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมง (ถ้าเจอช่วงวิกฤต) ขากลับเร็วกว่า
ปัญหาคือ ระยะทางแค่นั้น แต่รถติดมาก ค่ารถไป-กลับ คำนวนแล้วไม่พอจะให้ใช้ชีวิตอย่างสบายเมื่อดูจากอัตราเงินเดือน
ลองประหยัดนั่งรถเมล์ คราวนี้ประหยัดจริง แต่ต้องต่อรถ 2 ต่อ รถติดมากกว่าแท็กซี่นิดหน่อย
แต่ปัญหาคือการรอต่อรถ ยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืนบางครั้งรถประจำทาง ท่านเลิกประจำทาง
วนกลับก่อนถึงป้ายที่ผมรอก็บ่อย สถิติคือ เคยยืนรอตั้งแต่เกือบสามทุ่ม จนใกล้สี่ทุ่มก็ไม่มีรถ
สรุปคือรอไม่ไหวต้องเรียกแท็กซี่กลับ เงินก็เสีย อารมณ์ก็เสีย
ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ทำใจเข็นจักรยานคันเก่าออกจากบ้าน
จากบ้านถึงที่ทำงาน เสียแค่ค่าเรือข้ามฟาก ใช้เวลาก็ไม่มากเพราะมีทางลัดร่นระยะเวลา
จากนั้นมาก็เลยทำใจ ไปไหนมาไหนก็ใช้จักรยาน นอกจากระยะทางที่ไกลเกินพิกัดกำลังขา
ไม่ใช่ว่าชอบแต่จำเป็น
ซึ่งผมคิดว่า สมัยก่อนที่คนไทยเรายังไม่มีรถใช้กันทุกบ้าน (หรือเกือบทุกคน)
ยุคนั้นที่จักรยานยังเต็มบ้านเต็มเมือง ยุคที่มีช่องทางจักรยานให้ใช้จริง ยุคที่คนขี่จักรยานต้องสอบใบขับขี่
ความจำเป็นทำให้เรา ดูเหมือนเป็นนักอนุรักษ์
ทั้งที่ใจเราก็อยากจะมีรถยนตร์ไว้ใช้ผลาญน้ำมันแข่งกับเขาเหมือนกันครับ