PDA

View Full Version : ลูกเสือสอนอะไร



ตาเกิ้น
31-08-11, 09:43 AM
จากบทสัมภาษณ์นายพล Peter Cosgrove (กระทู้นี้) (http://thaiblades.com/showthread.php?79-การสัมภาษณ์ทางวิทยุของนายพล-Peter-Cosgrove-สุดยอดมากครับ) ที่พูดถึงว่าเขาจะสอนให้ลูกเสือ ปีนป่าย, พายเรือแคนู, ยิงธนูและยิงปืน และ เรื่องที่ผู้พันเจฟ คูเปอร์ พูดถึง To Ride, Shoot straight, and Speak the Truth (กระทู้นี้) (http://thaiblades.com/showthread.php?292-To-Ride-Shoot-straight-and-Speak-the-Truth) ทำให้คิดถึงลูกเสือครับ

ผมมีข้อสงสัยในใจว่า ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีนั้น คนที่ก่อตั้งลูกเสือเขาต้องการสอนอะไรให้เด็กๆกันครับ ต้องการให้เด็กๆเป็นอะไร ใครรู้ช่วยเฉลยหน่อย

เพราะตอนผมเรียนลูกเสือ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจัดแถว ได้ออกค่าย ก่อไฟหุงข้าวบ้าง เดินทางไกลบ้าง แต่ไม่เคยมีใครอธิบายเลยว่าเราสอนลูกเสือกันไปเพื่ออะไร

เดี๋ยวนี้เขายังสอนลูกเสือกันอยู่ทั่วไปมั๊ยครับ (โรงเรียนลูกชายผมไม่มี) แล้วเขาสอนอะไรกัน

the_satit
31-08-11, 09:56 AM
ของบดินทรเมื่อตอนอยู่ม.ตนจำได้วาไม่ได้ทำอะไรเลยครับ
เข้าค่ายก็ที่โรงเรียนวันเดียวจบก่อไฟยังไม่มีเลยครับ:)
ต้องอยู่กองร้อยพิเศษเท่าที่ได้ไปค่ายนอกโรงเรียน
แต่ตอนอยู่สารสาสน์ที่นั้นออกค่ายอย่างจริงจังทำทุกอย่างเองหมดทั้งทำอาหารโดยให้ไก่ดิบมาหนึ่งตัว
โต็ะก็ต้องสร้างเอง.
อาจารย์เขาบอหว่าเรียนลูกเสือจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อยามคับขัน

นักธนูสามมิติ
31-08-11, 10:46 AM
จำได้ว่า
สอนให้รู้จัก อยู่ร่วมกันในสังคม
สอนให้รู้จัก การเสียสละในสังคม
สอนให้รู้จัก การช่วยเหลือกันและกัน ในสังคม

สมัยผม ไม่มีกิจกรรมไหนของลูกเสือ ที่ครูเขาจะให้ทำคนเดียว ขนาดเรียนผูกเงื่อน ยังต้องนั่งทำกัน สองคนกับเพื่อนเลยครับ
:):):)

nam26
31-08-11, 11:30 AM
สมัยเรียน โรงเรียนเทพศิรินทร์ ก็เข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ แบบเข้าเส้น หายใจ เข้าออกเป็นลูกเสือไทย

ที่โรงเรียนมี "ชมรมลูกเสือกองร้อยพิเศษ" ช่วยในกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม เช่น การดูแลการจราจรหน้าโรงเรียน โดยเขาเหล่านั้น ได้ผ่านการอบรม จราจร มาแล้ว การใช้สัญญาณมือ สัญญาณเสียง ได้อย่างถูกต้อง
การช่วยงานโรงเรียนต่างๆ ในการบริการ

http://img534.imageshack.us/img534/9716/debnewletter.jpg (http://imageshack.us/photo/my-images/534/debnewletter.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)

กิจกรรมลูกเสือในหลักสูตรที่สอนในชัวโมงเรียน บ้างก็เรียนตามความสนใจบ้าง ไม่สนใจบ้างตามอัธญาศัย ของแต่ละคน

แต่ที่สนุกสนานกว่าคือ กิจกรรมลูกเสือนอกโรงเรียน เช่น งานชุมนุมลุกเสือ การอบรมหลักสูตรวิชาพิเศษต่างๆ ที่มีมากมายเป็นร้อยๆ ที่สามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจของแต่ละคน

จากการที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือโลกที่ประเทศ อินโดนีเซีย ทำให้ผมได้ดำน้ำกับอุปกรณ์ Scuba ครั้งแรกในสระ ทำให้ผมได้ขึ้นเครื่องบิน อัลตร้าไลส์ครั้งแรก ทำให้ผมได้โรยตัวลงจากฐานสกีเครื่องเฮลิคอปเตอร์ จริงๆที่บินลอยอยู่ กิจกรรมแต่ละอย่างตื่นเต้นมากสำหรับชีวิตในวัยนั้นที่ได้ร่วมกิจกรรม เจอเพื่อนฝูงมากมายหลายประเทศ และได้รับ โวตจากเพื่อนๆ ให้เป็น "The King of Shibu bu Scout camp"

กิจกรรมลูกเสือ เป็น กิจกรรมที่ตอบสนอง ความอยากรู้ อยากเห็น ความสนใจ ความรู้สึกผจญภัย ของ วัยเด็ก ใช้เวลาว่างให้เหมาะสม ถูกต้อง

อบรมให้เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ

สิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ และ เป็นประโยคคล้องจองว่า
1. ผจญภัย (Advanture)
2. ได้เพื่อน (Comradeship)
3. เถื่อนธาร (Outdoorlife)
4. การสนุก (Fun)
5. สุขสม (Achievement

นึกถึงความหลัง ดีๆ เกี่ยวกับลูกเสืออีกมากมาย.....เฮ้อ ตรูแก่ จริงๆ แล้ว

PARAM
31-08-11, 11:34 AM
ของบ้านเราเค้าก็มีหลักสูตรต่างๆนะครับ ช่วยคนจมน้ำผายปอด ผูกเงื่อน เช้าเฝือก แล้วก็พื้นๆทั่วๆไป
ตอนเข้าค่ายส่วนใหญ่ก็ไปค่ายลูกเสือที่ทำไว้รองรับ หรือบางครั้งก็เป็นค่ายทหาร เน้นให้ทำเป็นกลุ่ม

แต่เคยดูหนังฝรั่งเรื่องนึงตอนช่วยคนผมจำไม่ได้ว่ารายละเอียดเป็นไง แต่ลูกเสือเค้าสอน คร่าวๆคือเจอคนประสพอุบัติเหตุ
แล้วต้องช่วยลูกเสือเค้ามีสอนว่า ถ้าหน้าซีด หรือหน้าเขียว ( ไม่ยืนยันนะครับใครรู้ช่วยมาเพิ่มเติมด้วย) ต้องยกเท้าหรือยกศรีษะเนี่ยแหละ ได้ยินว่าสำคัญพอควรเพราะถ้าทำทันโอกาสรอดมีเกินครึ่ง

nam26
31-08-11, 11:44 AM
ของบ้านเราเค้าก็มีหลักสูตรต่างๆนะครับ ช่วยคนจมน้ำผายปอด ผูกเงื่อน เช้าเฝือก แล้วก็พื้นๆทั่วๆไป
ตอนเข้าค่ายส่วนใหญ่ก็ไปค่ายลูกเสือที่ทำไว้รองรับ หรือบางครั้งก็เป็นค่ายทหาร เน้นให้ทำเป็นกลุ่ม

แต่เคยดูหนังฝรั่งเรื่องนึงตอนช่วยคนผมจำไม่ได้ว่ารายละเอียดเป็นไง แต่ลูกเสือเค้าสอน คร่าวๆคือเจอคนประสพอุบัติเหตุ
แล้วต้องช่วยลูกเสือเค้ามีสอนว่า ถ้าหน้าซีด หรือหน้าเขียว ( ไม่ยืนยันนะครับใครรู้ช่วยมาเพิ่มเติมด้วย) ต้องยกเท้าหรือยกศรีษะเนี่ยแหละ ได้ยินว่าสำคัญพอควรเพราะถ้าทำทันโอกาสรอดมีเกินครึ่ง

กรณี รอการรักษาจากเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ให้ทำการป้องกันการช็อก กรณีเสียเลือด โดยการยกเท้าใด้สูงกว่าศีรษะประมาณ 1 ฟุต เพื่อให้เลือดกลับไปเลี้ยงสมอง...บาดบาดเจ็บส่วนใหญ เลือดมักไปเลี้ยงสมองไม่พอ

การปั้มหัวใจและผายปอด.... ช่วยให้มีการไหลเวียนโลหิตในร่างกายในขณะคนเจ็บหมดสติสำคัญมากเพราะสมองไม่สามารถอยู่ได้หากขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ต้องรีบช่วยภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที...

ck.
31-08-11, 11:54 AM
ตอนเรียนได้ผูกเงื่อน ได้จัดแถว เรียนปฐมพยาบาล ร้องเพลงเกี่ยวกับลูกเสือ
ตอนออกค่ายก็ได้กางเตนท์ ก่อไฟ หุงหาอาหาร

ตอนนี้ลืมไปหมดแล้วครับ :p:p:p:D

Kitty
31-08-11, 11:56 AM
ผมเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ในเครือเซ็นคาเบรียล

น่าจะเน้นให้ทำดีนะครับ

"จงทำดี จงทำดี จงทำดี"

แล้วก้อเน้นเรื่องระเบียบวินัยมีแบ่งเป็นกองเป็นหมวดหมู่ ฝึกความอดทน การเข้าแถว ประมาณว่าเตรียมลำบากตอน รด.ได้เลย

หนอน
31-08-11, 12:02 PM
สมัยเรียน โรงเรียนเทพศิรินทร์ ก็เข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ แบบเข้าเส้น หายใจ เข้าออกเป็นลูกเสือไทย

http://img534.imageshack.us/img534/9716/debnewletter.jpg (http://imageshack.us/photo/my-images/534/debnewletter.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)


เฮ้ย :eek: พี่น้ำเรียนอยู่รุ่นไหนครับ ผมอยู่รุ่น 101 สมัยอาจารย์ชาลีเป็น ผอ อย่างนี้ต้องทบทวนความจำกันหน่อยแล้ว ส่วนลูกเสือก็ส่วนใหญ่ก็เป็นกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ อย่างที่เพื่อนๆแจ้งไว้ครับ

prinya
31-08-11, 01:30 PM
.
เรียนลูกเสือเมื่อนานแสนนานมาแล้ว แต่ยังจำได้เสมอที่ครูสอนว่า

"เสียชีพ อย่าเสียสัตย์"

:)

.

PARAM
31-08-11, 01:53 PM
กรณี รอการรักษาจากเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ให้ทำการป้องกันการช็อก กรณีเสียเลือด โดยการยกเท้าใด้สูงกว่าศีรษะประมาณ 1 ฟุต เพื่อให้เลือดกลับไปเลี้ยงสมอง...บาดบาดเจ็บส่วนใหญ เลือดมักไปเลี้ยงสมองไม่พอ

การปั้มหัวใจและผายปอด.... ช่วยให้มีการไหลเวียนโลหิตในร่างกายในขณะคนเจ็บหมดสติสำคัญมากเพราะสมองไม่สามารถอยู่ได้หากขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ต้องรีบช่วยภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที...

ขอบคุณครับ

darkmoment
31-08-11, 02:58 PM
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้ก่อตั้งกองลูกเสือไทยครับ

ตามพระราชดำริของพระองค์ ก็ได้มีการจัดตั้งกองเสือป่าที่เป็นพลเรือนให้เข้ามาช่วยเหลือราชการทหารได้ ส่วนกองลูกเสือนั้น พระองค์มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งขึ้นหลังจากมีกองเสือป่าแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งกองลูกเสือไทยจะเน้นฝึกจิตสำนึกให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ครับ

เนื่องจากกองเสือป่าเป็นพลเรือนซึ่งสามารถช่วยราชการทหารได้ ดังนั้นหลักสูตรของกองเสือป่าก็จะคล้ายๆกับการฝึกทหาร แต่พอมาเป็นลูกเสือ(เสือเบบี้ๆ) จะให้ฝึกอย่างทหารก็เกินกำลังไป ก็เลยมีการปรับให้เน้นไปทางการสร้างระเบียบวินัย (เข้าแถว เลิกแถว ทำความเคารพ สายบังคับบัญชา ฯลฯ) เพื่อให้คุ้นเคย เผื่อว่าโตขึ้นแล้วใจรักทางทหารก็ไม่ต้องปรับตัวมาก

ขาดตกบกพร่องตรงไหนก็ช่วยเสริมด้วยนะครับ

pati
31-08-11, 03:51 PM
ที่หลายๆท่านกล่าวมาล้วนแล้วแต่ไช่ครับ :)

ลูกเสือเน้นกิจกรรมที่บำเพ็ญประโยชน์และการช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่น;)

รวมถึงการฝึกระเบียบวินัยต่างๆ:cool:

ในปัจจุบันครูหลายๆโรงเรียนมักเข้าใจผิดในเรื่องการฝึกลูกเสือครับ:(

ผิดคือชอบเอาไปให้ทหารฝึกในค่ายทหาร(พวกเค้าเป็นลูกเสือไม่ไช่ทหาร):mad:

ลูกเสือต้องเข้าค่ายลูกเสือ(ไม่ไช่ค่ายทหาร)และฝึกโดยผู้กำกับที่เป็นลูกเสือเท่านั้น;)

ผมเคยเห็นบางโรงเรียนเอาเด็กไปให้ทหารฝึก..:(..สงสารเด็กครับ...โดนฝึกหนักจริงๆราวกับเป็นการฝึกของทหาร

รึบางโรงเรียนเป็นไฮโซฯหน่อยก็จะเช่ารีสอร์ทเพื่อความสะดวกสบาย:(


สรุป....ฝึกลูกเสือต้องเข้าค่ายลูกเสือและฝึกโดยผู้กำกับที่เป็นลูกเสือเท่านั้น

และเน้นกิจกรรมที่บำเพ็ญประโยชน์และการช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นครับ;)

แวบมา
31-08-11, 07:37 PM
.
เรียนลูกเสือเมื่อนานแสนนานมาแล้ว แต่ยังจำได้เสมอที่ครูสอนว่า

"เสียชีพ อย่าเสียสัตย์"

:)

.

มาจากโคลงบทที่ว่า

เสียสินสงวนศักดิ์ไว้ วงศ์หงส์
เสียศักดิ์เร่งประสงค์ สิ่งรู้
เสียรู้เร่งดำรง ความสัตย์ ไว้นา
เสียสัตย์อย่าเสียสู้ ชีพม้วย มรณา

heromozo
31-08-11, 08:04 PM
รู้อย่างหนึ่งว่า ทำไมเงื่อนบ่วงสายธนูถึงเรียกว่า เงื่อนบ่วงสาย ก็ตอนที่หัดเหลาธนูไม้ไผ่ตาม น้าสุพจน์ นนี่ล่ะครับ

ck.
31-08-11, 08:31 PM
อ้อ จำได้อีกอย่างแล้วครับ

เค้าสอนให้ "มองไกล" ถึงว่าสิ ผมชอบยิง 70 เมตร :bullseye::bowarrow::o

Tu555
02-09-11, 03:52 PM
เสียชีพอย่าเสียสัตย์

อันนี้สำคัญ ลึกซึ้งกว่าที่เห็นครับ
มันมีระบบนึงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเรียกว่า"ระบบเกียรติศักดิ์" เริ่มที่โรงเรียนนายร้อยเวสปอยท์ และลามมาที่โรงเรียนนายร้อย พูดไว้คล้ายๆ กัน มีคำปฏิญานง่ายๆ ว่า "เราจะไม่ โกหก คดโกง ลักขโมย และไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดกระทำเช่นนั้น" ดูแล้วไม่น่าจะยิ่งใหญ่อะไร แต่ลองดูถ้าทุกคนทำยังงี้ได้ โลกจะเป็นอย่างไร
อย่างน้อยก็ไม่มีปัญหาในการขัดแย้งซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากผลประโยชน์ ซึ่งก็เป็นปัญหาในทุกๆ ที่
แต่อย่าถามผมว่าทำอย่างไรจึงจะทำอย่างนี้ได้(เพราะผมก็พยายามนึกอยู่เหมือนกันว่าทำอย่างไร นึกมานานแล้ว ลองมาช่วยกันคิดไหมครับ เพราะถ้าคุณครูหลายๆ คนที่นี่ปลูกฝังให้เกิดในตัวเอง และกับเด็กๆ คงจะดี)
๑. ถ้าเรารักเกียรติของตัวเอง(เกียรติเป็นสิ่งที่ คนอื่นให้ จะอนุโลมว่าตนเองมีขึ้นมาเองก็ไม่ถูก) บางคนพูดไว้ขนาดว่า death before dishornor ซึ่งก็ดูแล้วก็ถูกว่า ขนาดว่าเดินไปไหนแล้วใครก็ไม่ให้เกียรติ ก็อย่าไปไหนเลย ถ้าเรา โกหก คดโกง หรือลักขโมย ก็คงไม่มีใครให้เกียรติ ถ้าอยากเป็นคนที่คนอื่นยอมรับก็จงทำสิ่งเหล่านี้
๒. รู้จักให้เกียรติคนอื่น ในเมื่อมีคนทำดีก็สมควรได้รับเกียรติ ได้รับการยอมรับ ถือว่าเป็นการเชิดชูคนทำดีให้มีกำลังใจ

ผมว่าถ้าเราพยายามฝึกให้เด็กเป็นคนรักในเกียรติ ยึดมั่นในความดีของตน อธิบายให้ชัดๆ ให้เด็กฟังว่า เราควรจะยกย่องคนเช่นไร เช่น คนโกงแต่รวย คนแต่งเครื่องแบบ หรือ คนที่ทำเพื่อคนอื่น ปลูกฝังให้เป็นค่านิยม ไม่ใช่พยายามปลูกฝังให้เด็กเป็นคนเก่ง ต้องเรียนเก่ง ต้องชนะตลอด ต้องหน้าตาสวยหล่อแต่งตัวดี ต้องหาเงินให้ได้เยอะๆ
ต้องมีตำแหน่งสูงๆ บางทีก็หวลคิดว่า เวลาที่เราชี้ให้เด็กดู เราชี้แต่คนที่ประสบความสำเร็จ(จากอะไรข้างหลังก็ไม่รู้) หรือ คนที่สวย หล่อ(ไม่รู้ว่าดียังไง) มันจะทำให้เด็กเลือกจดจำและเลือกคนที่เป็นวีรบุรุษซึ่งตนเอาเป็นแบบได้ผิดเพี้ยนหรือไม่
ยกตัวอย่างว่า สืบ นาคเสถียร , บิล เกต , หรือคุณนักการเมืองที่รวยๆ เราพูดให้เด็กฟังเรื่องใครมากกว่ากัน
จำเป็นไหมที่ต้องเรียนเก่ง (อันนี้ที่หนึ่งทั้งชั้นมีได้คนเดียว)
จำเป็นไหมต้องรวย (ก็ตูมันลูกข้าราชการทั่วไป มันจะรวยได้ยังไง)
จำเป็นไหมต้องสวย หล่อ (ก็โคตรเหง้าผมมันเป็นคนไทย มีจีนอยู่นิดนึง มันจะไปขาวตี๋ได้ยังไง)

แต่จำเป็นไหมที่จะต้องเป็นคนดี อันนี้ไม่มีประกวดกัน เรียนไม่เก่งก็ดีได้ ไม่รวยก็ดีได้ ไม่ต้องหล่อหรือแต่งเครื่องแบบก็มีเกียรติได้ มันทำได้เลยไม่จำเป็นต้องโชคดีเกิดเป็นลูกคนรวย ไอคิวสูง มีตังส่งไปเรียนพิเศษ แต่ที่ว่าความดีนี้มันทำได้เลย

วิชาที่ทำให้มีความรู้ ทำให้ทันโลก ฉลาดหลักแหลม เราพูดกันมาทั้งวัน ไม่พอยังพาไปติวในวันเสาร์อาทิตย์อีก แต่วิชาที่ทำให้เป็นคนดี มีเกียรติ เราพูดให้เขาฟังขนาดไหน มันจะเกิดมาได้อย่างไร หรือผ่านทางวิชาจริยธรรม (ลองดูในหลักสูตรแล้วท้อใจ) เราสอนเขาบ้างหรือเปล่า

แต่สิ่งที่จรรโลงใจเด็ก ให้มีความรักเกียรติ รักความดี รักความสามัคคี รู้จักสละเวลาเพื่อสังคม อย่างน้อยก็ควรได้โผล่หน้าไปใน หลักสูตร วิชาลูกเสือบ้าง ครับผม

หนอน
02-09-11, 05:45 PM
เยี่ยมมากครับผู้การ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

pumkin
03-09-11, 06:22 AM
ได้มีโอกาส ยืนดูการ สอน ล.ส. น.ร. ย.ว.

ในโรงเรียนผมเองมาหลายปีมาก


จนวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า

การจะฝึกวินัยคนเกี่ยวกะชุดไหม ทำไมต้องไปยืนกลางแดด

แล้วถ้าวินัยเกิดจริงทำไมเด็กยัง ตีกัน ขโมย และเรื่ิิองง่ายๆ ก็แก้ปัญหาไม่ได้

อย่าว่าแต่หุงข้าว เอาแค่ว่ารักษาความสะอาดของตัวเอง ก็ ยังงง งงง

หลักสูตรเขียนไว้ดีมากๆๆ ถ้าพี่ได้เห็น เป็นระบบที่เราลอกอังกฤษ มา

มีสอนผูกเชือกด้วย จุดตาเกียงก็มี มีฯลฯ แต่สุดท้ายมาติดตรง.................................

ตาเกิ้น
03-09-11, 06:32 AM
หลักสูตรเขียนไว้ดีมากๆๆ ถ้าพี่ได้เห็น เป็นระบบที่เราลอกอังกฤษ มา

มีสอนผูกเชือกด้วย จุดตาเกียงก็มี มีฯลฯ แต่สุดท้ายมาติดตรง.................................

ตรงนี้แหละครับที่สงสัย หลักสูตรเขาเขียนไว้ให้สอนอะไร แล้วสุดท้ายสอนอะไร การสอนลูกเสือแบบครบๆอย่างที่พี่น้ำได้สัมผัสมายังมีอยู่ในประเทศไทยมั๊ย วงการลูกเสือเราหลงประเด็นกันหรือเปล่า

ejom
03-09-11, 07:34 AM
การศึกษาในระบบก็เป็นสิ่งพึงคาดหวังเพราะต้องจ่ายเงินไม่น้อย
แต่เด็กมักเป็นแบบพ่อแม่ทั้งๆที่ไม่ได้บอกให้ทำตาม เช่นนิสัยการกิน
คำพูดฯลฯ บอกลูกอย่าโกหกแต่ตัวพูดอะไรอย่างทำอย่าง ไม่มีน้ำใจ
บนท้องถนนให้ลูกดูทุกวัน จะหวังอะไรจากเด็ก

อยากให้เด็กมีศีลธรรมก็ไม่เคยพาเขาไปพบสมณะพระพราห์ม เขาจึงไม่รู้ศีลรู้ธรรม
ท้ายสุดเด็กไม่ค่อยดีคนอื่นก็สรรเสริญว่าบิดามารดาไม่สั่งสอน
แต่กระผมก็เห็นว่าบิดามารดาแถวนี้ก็ได้ทำให้เด็กๆเห็นตัวอย่างที่ดีๆ
อยู่มิใช่น้อย(แถมหลากหลายด้วย)ให้พวกเขาได้เลือกเป็นแบบอย่าง นะ ขอรับ

แวบมา
03-09-11, 01:20 PM
ในส่วนลูกเสือโลกนั้นเราท่านก็คงทราบ
ตรงนี้แหละครับที่สงสัย หลักสูตรเขาเขียนไว้ให้สอนอะไร แล้วสุดท้ายสอนอะไร การสอนลูกเสือแบบครบๆอย่างที่พี่น้ำได้สัมผัสมายังมีอยู่ในประเทศไทยมั๊ย วงการลูกเสือเราหลงประเด็นกันหรือเปล่า

สมัยใหม่นี่ผมไม่ได้ติดตาม
แต่จำได้ว่าตอนเด็กๆ ผมได้เป็นลูกเสือประจำกองลูกเสือ "กท.๑" (ลูกเสือกรุงเทพกองที่ ๑)
และเคยเป็นผู้รักษาธงประจำกองลูกเสือประจำจังหวัดกรุงเทพฯ (เดิมน่าจะเรียกเป็นธงลูกเสือประจำมณฑลกรุงเทพ)

ในส่วนลูกเสือโลกนั้น พี่ๆ ก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว
ผมจึงจะกล่าวถึงแต่เพียงการลูกเสือไทยครับ

หลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานกำเนิด "เสือป่า"
เมื่อ ๖ พฤษภาคม ๒๔๕๔ (บ้างก็ว่า ๑ พฤษภาคม ๒๔๕๔) เพียง ๒ เดือน
ก็ทรงพระราชทานกำเนิด "ลูกเสือไทย" ขึ้นมา เมื่อ ๑ กรกฎาคม ๒๔๕๔ (ปีหน้านี้ครบร้อยปี)
นับเป็นประเทศที่ ๓ ของโลก ที่จัดตั้งกองลูกเสือขึ้น ต่อจากประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา
ด้วยทรงมีพระราชปรารภว่า
เมื่อฝึกผู้ใหญ่เป็นเสือป่าเพื่อเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือชาติบ้านเมืองแล้ว
เห็นควรที่จะมีการฝึกเด็กชายปฐมวัยให้มีความรู้ทางเสือป่าด้วย
เมื่อเติบโตขึ้นจะได้รู้จักหน้าที่และประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง

ดังนั้น หากจะมองไปถึงแนวคิดในการก่อตั้งกองลูกเสือไทย
ก็คงต้องมองย้อนไปถึงการก่อตั้งกองเสือป่าครับ
ซึ่งการก่อตั้งกองเสือป่าขึ้น ก็ตรงกับบทพระราชนิพนธ์ว่า
"แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ ศัตรูกล้ามาประจัน จักอาจสู้ริปูสลาย"
ซึ่งมาจากภาษาละตินว่า " parabellum " ที่เราคุ้นเคยกัน นั่นเองครับ

ในการที่โปรดให้จัดตั้งกองเสือป่าขึ้นเป็นกองอาสาสมัครสมัครในทำนอง Home Guard ของอังกฤษ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้บุคคลพลเรือนไม่ว่าจะเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ พ่อค้าคหบดีที่มิได้เป็นทหาร
สมัครเข้าเป็นสมาชิกเสือป่าได้ตามความสมัครใจ

สมาชิกเสือป่าที่ได้รับการฝึกอบรมแล้ว (อ้างอิงพระราชหัตถเลขา)
".....มีกำลังวังชาขึ้นทันตาเห็น ผู้ที่เคยต้องคอยประคับประคอง ก็มาแขงแรงขึ้น จนเลี้ยงตัวได้มากขึ้นเปนลำดับ
ที่เคยอ่อนแอก็กลับแขงแรง ที่เคยตามใจตัวอยู่เปนเนืองนิตย์ก็กลับคิดทรมานจิตรของตน ให้นึกถึงผู้อื่นและนึกถึงคน
ที่เคยสำมะเลเทเมาอยู่ก็มาลดหย่อนลง และตั้งใจกลับตัวประพฤติให้เรียบร้อย
ข้อนี้เจ้าพระยายมราชอ้างพยานให้เห็นปรากฏ
คือ ร้านขายเหล้าพากันร้องว่าขายตกไป
ยังมิหนำซ้ำ เสือป่าแข่งกันหาชื่อเสียงในทางช่วยกองตระเวณจับผู้ประพฤติชั่วต่าง ๆ อยู่แทบทุกวัน....."
...นอกจากนั้นในด้านความสามัคคีในหมู่ข้าราชการต่างกระทรวงซึ่งแต่เดิม
"ความสามัคคีในหมู่ข้าราชการต่างกระทรวงไม่ใคร่จะมีต่อกัน
เพราะต่างคนต่างคิดแต่จะหาความชอบความดีในแพนกของตน
และต่างคนต่างมุ่งนิยมอยู่แต่เฉภาะในตัวบุคคลผู้เป็นนายเหนือตน" นั้น
ก็ได้รับการเยียวยารักษาจนหายขาดด้วยยาขนานเอกคือ "เสือป่า" นั้นเอง


ที่มาจาก
http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/dev02/05/4ymngs_scout/scout03.htm
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD#.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.95.E0.B8.B4.E0.B8.A8.E0.B8.B2.E0.B8.AA.E0.B8.95.E0.B8.A3.E0.B9.8C.E0.B8.A5.E0.B8.B9.E0.B8.81.E0.B9.80.E0.B8.AA.E0.B8.B7.E0.B8.AD.E0.B9.84.E0.B8.97.E0.B8.A2
http://www1.mod.go.th/heritage/king/rama6/rama6_defence.htm

pati
03-09-11, 09:35 PM
โดยส่วนตัวแล้วบอกตามตรงครับว่าสอนลูกเสือได้ลำบากเพราะว่าครูในโรงเรียนบางท่านแต่งกายไม่เรียบร้อย

ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้า,รองเท้า,ผ้าผูกคอ ฯลฯ........เวลาผมสอนเด็กแบบที่ถูก เด็กมักจะพูดเสมอว่าทำไมครูคนนั้นยังทำเลย:mad:

เฮ้อ.....สิ่งที่สอนยากที่สุดหรือสอนไม่ได้เลยก็คือก็คือผู้ใหญ่นี่แหล่ะครับ:crying:

แวบมา
03-09-11, 10:59 PM
โดยส่วนตัวแล้วบอกตามตรงครับว่าสอนลูกเสือได้ลำบากเพราะว่าครูในโรงเรียนบางท่านแต่งกายไม่เรียบร้อย

ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้า,รองเท้า,ผ้าผูกคอ ฯลฯ........เวลาผมสอนเด็กแบบที่ถูก เด็กมักจะพูดเสมอว่าทำไมครูคนนั้นยังทำเลย:mad:

เฮ้อ.....สิ่งที่สอนยากที่สุดหรือสอนไม่ได้เลยก็คือก็คือผู้ใหญ่นี่แหล่ะครับ:crying:

ก็บอกเด็กไปสิครับว่า
"รอให้เธอโตขึ้น เป็นครูก่อน แล้วเธอค่อยทำ...
ตอนนี้เธอยังเป็นเด็กนักเรียน เธอต้องเชื่อฟังที่ครูสอน..."

หรืออ้างใช้สิทธิ กรณี "เถระผู้ใหญ่"
ที่ในสังคมพระด้วยกัน "ท่านให้อนุโลมบทบัญญัติเล็กน้อย" (ได้รับยกเว้นพระวินัย บทปลีกย่อยครับ)

pumkin
04-09-11, 07:18 AM
ดูอันนี้ก่อน ครับ พี่

แล้วมาคิดกันว่า บ้านเราหลงทางจริงไหม ในการสอนเด็ก
http://www.youtube.com/user/wsj2011

แวบมา
04-09-11, 08:32 AM
ดูอันนี้ก่อน ครับ พี่

แล้วมาคิดกันว่า บ้านเราหลงทางจริงไหม ในการสอนเด็ก
http://www.youtube.com/user/wsj2011

ผมยังแปลความคำพูดในคลิปไม่ได้

แต่คำว่าหลง แสดงว่าต้องมีจุดหมายและวิถีทางสิครับคุณครู
ในส่วนระบบการศึกษา
ผมไม่แน่ใจว่า บ้านเราตั้งเป้าหมาย และแนวทางไว้ต่างกับฝรั่งหรือเปล่าครับ
เท่าที่ผมคิดได้ เมื่อได้ไปพบเห็นปัญหาระบบการศึกษาที่ชนบทชายแดน ก็คือ
ถ้าเราอยากให้เด็กไทย โตมาแบบไทย
เราจะเอาวิธีแบบฝรั่งมาใช้ เพื่อให้ได้เป้าหมายเป็นไทยคงลำบาก
แต่ถ้าอยากได้ผลลัพท์แบบฝรั่ง นั่นอาจจะถูกที่เราควรต้องปรับเปลี่ยนครับ

ผมไม่แน่ใจว่าแนวคิดอย่างไรถูกผิด หรืออย่างไรดีกว่า
หรืออาจจะไม่มีใครถูกใครผิดเลยก็ได้

แต่ทำให้คิดถึงบทภาพยนตร์ในดวงใจบทนี้ครับ

"...ฉันมาจากปี พ.ศ. ๒๕๔๖
ฉันเกิดที่นี่
เราเปลี่ยนชื่อจาก "สยาม" มาเป็น "ประเทศไทย"
บ้านเมืองเจริญมาก
มีตึกสูงมากมาย
ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด
มีรถยนต์ ไฟฟ้า มีโรงหนัง
เราแต่งตัวแบบตะวันตก
นับถือฝรั่งมากกว่าพวกเดียวกัน
เรามีทุกอย่างที่ชาวตะวันตกมี
เราเป็นทุกอย่างที่ชาวตะวันตกเป็น
เรากินทุกอย่างที่ตะวันตกกิน
เราชอบทุกอย่างที่ตะวันตกบอกให้ชอบ
เราอยากเป็นเขา และก็ปฏิเสธที่จะเป็นเรา..."

"...ไหนว่าเราไม่ได้เป็นเมืองขี้นไง
แล้วเรายังมีพระเจ้าแผ่นดินไหม..."

"...นี่คือสิ่งเดียวที่ทำให้เรารู้สึกว่า เรายังเป็นเราอยู่
...เราเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เราเรียกว่า ประชาธิปไตย..."

"...แล้วเรานับถือใคร...."

"....เรานับถือไปหมด นอกจากตัวเรา
อเมริกาเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เด็กๆของเราก็นับถือญี่ปุ่นด้วย..."


( ขอเติมเองว่า "...ฉันมาจากปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ... ทุกวันนี้เด็กๆ ของเราก็นับถือเกาหลีขึ้นมาอีกด้วย..." )