PDA

View Full Version : เมื่อธนบุรีรบ


ตาเกิ้น
16-01-13, 09:56 PM
เมื่อคืนได้นั่งสนทนากับมิตรสหายระหว่างรอตกปลาหมึกกันใกล้ฐานทัพเรือสัตหีบ คุยไปคุยมาวกไปถึงเรื่องการรบกันของกองเรือไทยและฝรั่งเศษที่เกาะช้าง ถึงได้รู้ว่าคนยุคเรานี้ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องกรณีพิพาทระหว่างประเทศสยามกับฝรั่งเศษที่มีมายาวนานจนกระทั่งกลายมาเป็นสงครามเต็มรูปแบบกันในปี 2484

เอามาเล่าสู่กันฟังด้วยบทความของหลายๆท่านที่เขียนไว้ครับ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเพราะเกรงว่าจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่รู้กันไว้บ้างเถอะครับเพราะเป็นเรื่องราวที่บรรพบุรุษเราเอาเลือดเนื้อทาแผ่นดินแลกอิสระภาพของประทศมา อย่าให้มันถูกลืมเลือนไป

เรื่องกรณีพิพาทสยามกับฝรั่งเศษนั้นเริ่มมาตั้งแต่รัชกาลที่สี่ แต่มาเริ่มเด่นชัดมากขึ้นในยุคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่ 5

ครั้งสำคัญที่สร้างความปวดร้าวมากที่สุดก็คือวิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 ซึ่งกองเรือรบฝรั่งเศษบุกฝ่าปากแม่น้ำเข้ามาลอยลำเอาปืนใหญ่จ่อกรุงและบีบบังคับเรียกร้องค่าเสียหายและบังคับให้เราต้องยกดินแดนให้ไปถึง 1/3 ของดินแดนทั้งหมด
http://1.bp.blogspot.com/-tap7xM0nLzo/UCtoBGcCfNI/AAAAAAAAJVY/E_Ari6wi6JQ/s640/0037.jpg
ในบทความนี้เล่าไว้ได้อย่างค่อนข้างชัดเจนครับ
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=140457

VDO อันนี้ยาวมากแต่ให้ความรู้เรื่องเบื้อหน้าเบื้องหลังของเหตุการณ์ครั้งนั้นอย่างครบถ้วนครับ

https://www.youtube.com/watch?v=8q15SQMCgKA

โดยสรุปแล้ว ไทยเสียดินแดนไทยให้แก่ฝรั่งเศส 5 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ. 2410 เสียส่วนใหญ่ของประเทศเขมรและเกาะ 6 เกาะ ประมาณเนื้อที่ 124,000 ตารางกิโลเมตร
ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2431 เสียแคว้นสิบสองจุไทย ประมาณเนื้อที่ 87.000 ต.ร.ก.
ครั้งที่ 3 ปี พ.ศ. 2436 เสียฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ประมาณเนื้อที่ 243,000 ต.ร.ก.
ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ. 2446 เสียฝั่งขวาแม่น้ำโขง ประมาณเนื้อทีื 62,500 ต.ร.ก.
ครั้งที่ 5 ปี พ.ศ. 2449 เสียจังหวัดพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ เนื้อที่ประมาณ 51,000 ต.ร.ก.

http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=29028;image
Drunken_Writer
16-01-13, 10:01 PM
วันไหนว่างๆ จะไปนั่งเหลาให้ฟังที่สนามครับ
FredBob
16-01-13, 10:12 PM
ดีมากๆครับ คนไทยทุกคนควรรู้ประวัติศาสตร์ไทยไว้บ้างครับ
ตาเกิ้น
16-01-13, 10:13 PM
เรื่องราวโดยละเอียด กำลังจะถูกเล่าผ่านนิยาย "สุดสองทวีป"ของพี่จ่าน้อม ตอนต่อๆไป ขอแอบทวงเลยครับ คนรออ่านเยอะแล้วนะครับพี่จ่า

หลังจากเหตุการณ์ ร.ศ.112 นี้ทำให้สมเด็จพระจุลจอมเกล้าทรงต้องพัฒนาประเทศ พัฒนากองทัพเป็นการใหญ่เพื่อเตรียมกับการรุกรานที่ย่อมจะต้องตามมาอีก และกลายเป็นจุดเปลี่ยนอีกหลายๆอย่างในสยาม

กระโดดข้ามเวลามาถึงปี 2483 ในตอนต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง ฝรั่งเศษถูกเยอรมันเข้ายึดประเทศยอมแพ้ราบคาบ รัฐบาลไทยในสมัยนั้นภายใต้การนำของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้โอกาสเหมาะจึงยืนเรียกร้องดินแดนคืนโดยขอปักปันเขตแดนกับรัฐบาลอินโดจีนของฝรั่งเศษ

ตอนนั้นมีการเดินขบวนของประชาชนเพื่อสนับสนุนรัฐบาลให้เรียกร้องดินแดนคืนด้วย (ผมว่าเข้าท่ากว่าเสื้อแดงเสื้อเหลืองในยุคนี้มากนัก)
http://www.thaisamkok.com/images/profilePic/TvsF-01.jpg

ตอนนั้นฝรั่งเศษปฏิเสธไม่ยอมคืนดินแดนให้แถมยังยกกำลังทหารเข้ามาประชิดแดนและส่งเครื่องบินเข้ามาทิ้งระเบิด จึงได้เกิดการรบกันอย่างจริงจัง เรียกได้ว่าเป็นสงครามสมัยใหม่เต็มรูปแบบครั้งเดียวของกองทัพไทยก็ว่าได้ มีทั้งการรบของทหารราบ การต่อสู้ระหว่างรถถัง และยุทธนาวี
ตาเกิ้น
16-01-13, 10:26 PM
ยุทธนาวีที่เกาะช้างเป็นการรบแบบสู้ตายถวายชีวิตของทหารเรือไทยที่ต่อสู้กับกองเรือฝรั่งเศษที่มีกำลังเหนือกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้ สู้กันแบบไม่กลัวเกรง น่าจะเป็นครั้งเดียวของยุทธนาวีระหว่างประเทศในเอเเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่หาญสู้กับกองเรือรบของหมาอำนาจจากยุโรป

รายละเอียดที่ดีมาก หาอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4768.0

เราสู้ไม่ได้ครับ แต่ก็สู้ตายจนกองเรือฝรั่งเศษหันหลังกลับไป ถ้าหากไม่สู้ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กองเรือรบฝรั่งเศษอาจจะเข้ามาถล่มกองเรือเราที่สัตหีบ หรืออาจจะเลยมาที่ปากแม่น้ำอย่างตอน ร.ศ.112 อีก.........


https://www.youtube.com/watch?v=9R5blcZkAY0
ตาเกิ้น
16-01-13, 10:31 PM
แต่ถ้าอยากอ่านเรื่องที่สะใจต้องอ่านเรื่องการรบที่สมรภูมิคลองพร้าวในเขมรครับ

ที่นั่นทหารไทยถล่ม กองพันทหารต่างด้าว (french foreign legion) III/5 REI อันเป็นหน่วยรบพิเศษอันเกรียงไกรของฝรั่งเศสแบบย่อยยับ ทั้งตายทั้งถูกจับเป็นเชลย ขนาดทิ้งธงไชยเฉลิมพลไว้ให้ทหารกองพันทหารราบที่ ๓ของไทยนำไปย้ำชัยชนะจนปฏิเสธไม่ออก

http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=28912;image
http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=28910;image
โดนจับเป็นเฉลยเพียบรวมทั้งผู้บังคับกองพัน
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/02/K4126698/K4126698-7.jpg

ลองอ่านกันที่นี่ครับ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4942.0
ตาเกิ้น
16-01-13, 10:33 PM
ลองอ่านกันดูนะครับ ไม่ได้อยากจะยุยงให้เกลียดชังประเทศนั้น เพียงแต่ไม่อยากให้การเสียสละของบรรพบุรุษเราถูกลืมไป

อย่าคิดว่าแผ่นดินที่อยู่กันสบายๆนี้มันได้มาง่าย
FredBob
16-01-13, 11:24 PM
ก็ไม่ต้องไปเกลียดใครครับ แต่ขอให้รักประเทศไทย ประเทศบ้านเกิดกันเยอะๆครับ
n.s.hunter
16-01-13, 11:49 PM
ลองอ่านกันดูนะครับ ไม่ได้อยากจะยุยงให้เกลียดชังประเทศนั้น เพียงแต่ไม่อยากให้การเสียสละของบรรพบุรุษเราถูกลืมไป

อย่าคิดว่าแผ่นดินที่อยู่กันสบายๆนี้มันได้มาง่าย

หลายๆคนลืมไปแล้ว อาจเอาไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวได้ ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่เฉยๆ...............:crying:
แวบมา
17-01-13, 01:40 AM
<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/j332MkCVwlo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

กรุณากดฟัง ถวายความเคารพ และโปรดพิจารณาเนื้อร้องให้ละเอียดชัดเจนทุกบทตอนครับ






ธง...?



http://i54.photobucket.com/albums/g101/apgts/siamflag/trunk_up/invalides_siameseflag1.jpg
http://i54.photobucket.com/albums/g101/apgts/siamflag/trunk_up/invalides_paris.jpg
http://i54.photobucket.com/albums/g101/apgts/siamflag/trunk_up/siamflag_paris.jpg
ที่มาของภาพและข้อมูล http://www.t-h-a-i-l-a-n-d.org/siamflag/trunk_up.html





เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป พ.ศ.๒๔๔๐

ระหว่างที่ประทับในกรุงปารีส ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่ีแองวาลิด (Les Invalides) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทางการทหาร และสถานที่ฝังพระศพของจักรพรรดินโปเลียนที่ ๑
นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ Le Journal illustre คนหนึ่งติดตามขบวนเสด็จไปตามที่ต่างๆ รายงานไว้ว่า

"พระเจ้ากรุงสยามเสด็จมาถึงแองวาลิดตอน ๑๐ โมงเช้า ทรงได้รับการต้อนรับจากนายพลอาร์โน
จากนั้นทรงถูกนำเข้าไปยังที่ฝังพระศพนโปเลียนที่ ๑ ข้าราชการฝ่ายสยามติดตามเข้าไปด้วย แต่เฉพาะพระองค์ที่ทรงเข้าไปจนใกล้ที่เก็บพระบรมศพ
ทรงยืนสงบนิ่งไว้อาลัย ๑ นาที แล้วจึงเสด็จออกมาจากหอพระศพ ตรัสว่า "ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน"
นายพลอาร์โนนำพระองค์ต่อไปยังโบสถ์เซ็นต์หลุยส์ ซึ่งอยู่ติดกับหอพระศพ
ที่นั่นทอดพระเนตรธงชาติต่างๆ ที่แขวนอยู่เหนือผนังขึ้นไป ล้วนเป็นธงชาติที่ฝรั่งเศสยึดมาได้จากพวกศัตรู
ทันใดนั้นมีพระราชดำรัสถามว่า "ไปได้ธงจีนกับธงช้างมาจากไหน?"
หลังจากนั้นจึงเสด็จเลยไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์อาวุธโบราณซึ่งทรงให้ความสนพระทัยเป็นพิเศษ
จากนั้นจึงเสด็จออกไปที่ลานหน้าโบสถ์ ณ บริเวณนั้นมีกองดุริยางค์และกองทหารผู้ชราภาพราว ๑๕๐ นาย ถวายความเคารพและบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี"(๗)

จากภาพที่ยกมา จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ธงช้างถูกแขวนอยู่ใกล้กับธงจีน ซึ่งน่าจะตรงกับตำแหน่งเดิมที่แขวนไว้ตั้งแต่สมัยนั้น
ซึ่งหนังสือพิมพ์บรรยายว่า พระพุทธเจ้าหลวงทรงตรัสถามถึงธงจีนกับธงช้าง

และจากเว็บไซต์ที่มาของข้อมูลยังอธิบายถึงที่มาของการติดธงช้างไว้ที่แองวาลิด โดยอ้างถึงพงศาวดารฝรั่งเศษไว้ ดังนี้

"ตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ เป็นต้นมา กองทัพฝรั่งเศสสามารถนำธงชาติของฝ่ายศัตรูที่พ่ายแพ้ในการสู้รบกับเรากลับมาได้ไม่ต่ำกว่า ๓,๐๐๐ ผืน ธงทั้งหมดถูกนำมาเก็บรักษาไว้ครั้งแรกที่โบสถ์โนเทรอดาม ปารีส จนกระทั่งในปี ค.ศ. ๑๗๙๓ [พ.ศ. ๒๓๓๖] ธงทั้งหมดก็ถูกย้ายมาเก็บไว้ที่แองวาลิดแทน แองวาลิดได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะของฝรั่งเศส จึงเหมาะสมที่จะเป็นบ้านหลังใหม่ของอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหล่านั้น ธงที่ระลึกจากสงครามถูกนำเข้ามาเพิ่มเติมอีกในยุคนโปเลียนที่ ๑ ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๘๒๔ [พ.ศ. ๒๓๖๗] ภายหลังนโปเลียนแพ้ในสงครามวอเตอร์ลูกับอังกฤษ และทัพศัตรู [อังกฤษ] เคลื่อนพลเข้ามาประชิดกรุงปารีส เวลานั้นยังพอมีธงเหลือยู่ถึง ๑,๔๑๗ ผืน ธงทั้งหมดก็ยังแขวนอยู่ภายในโบสถ์เซ็นต์หลุยส์ นายพลเซรูริเยร์ ผู้อำนวยการแองวาลิด เกรงว่าธงแห่งชัยชนะทั้งหลายจะตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม จึงมีคำสั่งให้ปลดลงมาเผาทิ้งเสียก่อนที่ลานหน้าโบสถ์ ธงที่เหลืออยู่เป็นอนุสรณ์ในเวลานี้ล้วนเป็นธงชาติที่ได้มาจากการสู้รบในสมัยหลัง กล่าวคือ ภายหลังยุคนโปเลียนที่ ๑ แล้ว ซึ่งก็ยังมีธงมากถึง ๑๐๔ ผืน"(๖)

จึงอาจตั้งข้อสมมติฐานได้จากข้อมูลดังกล่าวว่า ธงที่ตรัสถามน่าจะเป็นธงจีนที่ฝรั่งเศษยึดได้จากการสู้รบยึดครองกรุงปักกิ่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๓
ส่วนธงช้างนั้นอาจจะเป็นธงที่ฝรั่งเศษยึดได้จากเขตแดนสยามที่ใดที่หนึ่งในสมัยนั้น
ก็ลองคิดถึงพระราชหฤทัยของพระองค์ท่านดู...


<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/3hpM1F8bevY?hl=th_TH&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/3hpM1F8bevY?hl=th_TH&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>





สืบเนื่องจากก่อนวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ คือตั้งแต่สมัยสงครามปราบฮ่อครั้งหลัง พ.ศ. ๒๔๒๘ - ๒๔๓๐
ทหารฝรั่งเศษในดินแดนอาณานิคมเวียดนาม เริ่มเคลื่อนเข้ามาประชิดดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำของซึ่งขณะนั้นเป็นประเทศราชสยาม
และมีการกระทบกระทั่งเรื่องปัญหาเขตแดนกับหัวเมืองประเทศราชของเราประปราย
จนถึงวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) จึงเกิดกรณีพิพาทครั้งใหญ่ขึ้นที่แก่งเจ็กแขวงเมืองคำม่วน เขตต่อท่าอุเทน
ผลของการปะทะ ฝ่ายสยาม ขุนวังท่าอุเทนและทหารสยามเสียชีวิตรวม 6 นาย
ส่วนฝ่ายฝรั่งเศษ มองซิเออร์กรอสกุแรงผู้บัญชาการฝ่ายฝรั่งเศษ ถูกกระสุนปืนเข้าที่ศรีษะนอนตายอยู่ที่เรือนที่กำลังลุกไหม้ ทหารญวนเศษฝรั่งเสียชีวิตไป 12 นาย

<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/AflvGcGvUXg?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/AflvGcGvUXg?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>


รายละเอียดเรื่องการปะทะกันครั้งนั้นหาอ่านได้จากหนังสือ "พระยอดเมืองขวาง"
(ตอนเด็กผมอ่านจากฉบับนิยายภาพของศึกษาภัณฑ์ ตอนนี้จำไม่ค่อยได้แล้ว)

http://file.siam2web.com/somkhitsin/ksf/2010911_28017.jpg
ที่มาจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=639788

ภาพพระยอดเมืองขวาง
"เราเป็นข้าหลวงต่างพระเนตรพระกรรณแห่งองค์พระพุทธเจ้าหลวง จึงไม่สามารถมอบเมืองคำมวนให้แก่การรุกรานของท่านได้ ยกเว้นแต่มีคำสั่งมาจากรัฐบาลสยามเท่านั้น"



http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/192/7192/images/Prayod/PY1.jpg
หนังสือเรื่องนี้ ที่ผมอ่านตอนเด็กครับ อาจจะยังพอหาซื้อฉบับพิมพ์ใหม่ได้จากมุมหนังสือนิยายภาพของศึกษาภัณฑ์





http://www2.sarakadee.com/feature/2010/10/images/rs112_01.jpg
เหตุการณ์ที่แก่งเจ็ก ทำให้วิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ เกิดขึ้นสมบูรณ์แบบ ในวันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๖
เมื่อฝรั่งเศษใช้เป็นข้ออ้าง ให้เรือรบฝรั่งเศษ ๒ ลำ คือ เรือสลุปแองคองสตังค์ และเรือปืนโคแมต รุกล้ำสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามายัง กรุงเทพ ฯ



http://www2.sarakadee.com/feature/2010/10/images/rs112_02.jpg
โดยมี เรือ เจ. เบ. เซย์ (Jean Baptist Say) เรือสินค้าเป็นเรือนำร่อง (เรือลำนี้ถูกฝ่ายเรายิงเสียหายต้องแล่นไปเกยตื้นที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา)



http://www2.sarakadee.com/feature/2010/10/images/rs112_06.jpg
http://www2.sarakadee.com/feature/2010/10/images/rs112_07.jpg
เรือสลุปแองคองสตังค์ และเรือปืนโคแมต ฝ่าแนวป้องกันของเราเข้ามาจอดทอดสมออยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศษ (ใกล้กับศุลกสถาน ตรอกโรงภาษี บางรัก)

เหม่ๆ ดูดู๋... มันมาจอดจ่อจนจวนเจียนจะเหยียบจมูกอยู่ตรงข้ามกับฝั่งบ้านของผมนี่เอง
ถ้าเกิดทันสมัยนั้นผมคงได้ไปยืนด่าอยู่ที่ท่าบ้านแขกแล้ว ที่ยังไม่ข้ามไปเพราะผมว่ายน้ำไม่เป็นครับ
ก็แหม... อ้ายจุ่นเรือแจวรับจ้างนี่มันช่างชักช้าสิ้นดี ยืนรอมาตั้งก๊ะเพลจนบ่ายมันยังไม่ยอมเอาเรือมารับเราไปรบ
แล้วนี่ให้อ้ายจบมันกลับบ้านไปหยิบหีบกระสุนปัศตันมาให้ จนป่านนี้มันไปเสียทางไหน ประเดี๋ยวมืดค่ำไม่ต้องรบฝรั่งกันพอดี

จินตนาการเข้าใจถึงอารมณ์ตอนที่ท่านเจ้าคุณสุรศักดิ์ฯ เลยครับ ที่ท่านว่า
"ลำพังเรือฝรั่งสองสามลำเพียงเท่านี้ ยกเข้ารบมันพักเดียวเดี๋ยวมันก็แหลกหมด"

<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/FLt_bFfYlZo?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/FLt_bFfYlZo?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>





หมายเห็ด: ชุด ๔ ภาพหลังนี้มาจาก http://www2.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=printpage&artid=1054

กดฟังเพลงด้านบนประกอบการอ่านไปด้วย จะช่วยสร้างอารมณ์ได้นิโหน่ยนะขอรับ
แวบมา
17-01-13, 04:38 AM
<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/0-8jf-iF1_A?hl=th_TH&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/0-8jf-iF1_A?hl=th_TH&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>


http://i11.photobucket.com/albums/a153/lanzenritter/433px-The_French_Wolf_and_The_Siame.jpg
ภาพ "The French wolf and the Siamese lamb" ถูกตีพิมพ์ในอังกฤษ ในปี ค.ศ. ๑๘๙๓ (พ.ศ. ๒๔๓๖)


http://i11.photobucket.com/albums/a153/lanzenritter/02-1.jpg
ภาพกะลาสีฝรั่งเศสกำลังฉุดคร่าหญิงสาวชาวสยาม แล้วมีทหารอังกฤษมาบอกให้ปฏิบัติต่อสาวสยามด้วยมนุษยธรรม
แต่กะลาสีฝรั่งเศสก็ตอบกลับไปว่า "แค่นี้ก็กรุณามากแล้ว"
(ผมว่า คำว่า"มนุษยธรรม" ของอังกฤษ อาจจำกัดความเหมือนที่ตนทำกับพม่าก็ได้ครับ)


http://i11.photobucket.com/albums/a153/lanzenritter/05-2.jpg
อ่านไม่ออก ไม่แน่ใจว่าเป็นภาพที่ทางฝรั่งเศษใช้โฆษณาชวนเชื่อในอีหรอปว่า "ข้าราชการไทยกดขี่ข่มเหงคนพื้นเมือง (ลาวเขมร) " หรือเปล่า


http://i11.photobucket.com/albums/a153/lanzenritter/03-1.jpg
ภาพนี้ฝรั่งอังกฤษเยาะเย้ยทหารไทยว่า "เป็นแค่ตัวตุ๊กตุ่นตุ๊กตา" น่าจะตรงกับสำนวนไทยว่า "เสือกระดาษ"
ไม่แน่ใจว่าขัดใจที่ไม่ได้เป็นฝ่ายลงมือกับเราก่อนฝรั่งเศษหรือเปล่า
แต่ใจผมคิดว่าภาพนี้ฝรั่งคิดยั่วยุเราอย่างตื้นๆ เพราะอย่างที่ท่านเจ้าคุณสุรศักดิ์ท่านว่า
"เรือฝรั่งสองสามลำเพียงเท่านี้ ท่านกับทหารกองหนุนปลดระวางแล้ว ขออาสาสู้ศึกเอง"
เห็นไหมครับ เหมือนบทภาพยนตร์เรื่องทวิภพตอนที่ฝังใจผมว่า "ชาวสยามมิได้กลัวฝรั่ง แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เกเร"
ประเด็นความเห็นส่วนตัวเรื่องรบไม่รบ ทำไมนี่ ขอเก็บไว้หลังไมค์ครับ



http://i11.photobucket.com/albums/a153/lanzenritter/04-2.jpg
แต่สุดท้าย ด้วยพระอัจฉริยภาพ และวิจารณญาณของพระพุทธเจ้าหลวง สยามเราก็คงดำรงเอกราชอยู่ได้
(พระบรมฉายาลักษณ์คู่กับพระเจ้าซาร์ นิโคลัส กษัตริย์ของประเทศที่ถือว่าเป็นหนึ่งในมหาอำนาจในยุโรป ภาพนี้แสดงว่าสยามมิได้อยู่โดดเดี่ยวในเวทีโลก)



ข้อมูลจากhttp://enamtan.exteen.com/20100618/entry-1






<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/rDUZ_HNv6rQ?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/rDUZ_HNv6rQ?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
แวบมา
17-01-13, 05:53 AM
ยังครับ ยัง ผมยังไม่ว่าถึงเรื่อง "เมื่อธนบุรีรบ" เพราะเรื่องยุคนั้น เกิดไม่ทัน เลยจำไม่ค่อยได้แม่นครับ
ขอเล่าเกร็ดเรื่อง ร.ศ. ๑๑๒ ต่อไปอีกสักเรื่องหนึ่ง

นับจากวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ สยามต้องเสียดินแดนไป ครั้งแล้ว ครั้งเล่า

ไม่ว่าให้แก่ฝรั่งเศษ

http://www.torakom.com/images/imageArticle/1251045017_1img1891.jpg
http://www.torakom.com/images/upload_images/1251044795_97.jpg
http://i54.photobucket.com/albums/g101/apgts/siamflag/trad/trad_frenchweb.jpg

<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ZJthi98N30o?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/ZJthi98N30o?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>



หรืออังกฤษ
http://i54.photobucket.com/albums/g101/apgts/siamflag/2555/1909-2_Rahman.jpg

เราก็ต้องเก็บความเจ็บนั้นฝังแน่นอยู่ในอก
เหมือนดังเช่นเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมาดังนี้

“การสัก ร.ศ.๑๑๒ และตราด นี้ ก็เนื่องมาจากที่ชาติไทยถูกอินโดจีน ฝรั่งเศส รุกรานใน ร.ศ. ๑๑๒ นั้น
และยังโกงยึดเมืองตราดไว้อีก จนไทยต้องยอมยกมณฑลบูรพาแลกเปลี่ยน
เรื่องนี้ในกรมหลวงชุมพรฯ พระอาจารย์ของข้าพเจ้า ทรงเกรี้ยวกราดและเจ็บแค้นฝังพระทัยนักหนา
ทรงทนไม่ไหว และจะได้เป็นที่ระลึกและฝังใจกันได้เพื่อทำการตอบแทน
จึงได้ทรงสัก ร.ศ.๑๑๒ และ ตราด ในพระองค์ท่าน และบรรดาสานุศิษย์ที่โปรดปรานทั่วไป
ข้าพเจ้าสักในวันรุ่งขึ้นจากวันที่พระองค์ทรงสัก อายุราว ๑๖ ปี”

http://www.exnavalcadet.com/sara/pic/cadet001.jpg

ข้างต้นเป็นคำบรรยายภาพของ พลเรือตรี พระยาหาญกลางสมุทร ร.น. (บุญมี พันธุมนาวิน)

http://1.bp.blogspot.com/_nPu3753ETEg/SoxD-2FPXkI/AAAAAAAAAA4/HcuQsBKWrkY/s320/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%811.jpg

ท่านเป็นนักเรียนนายเรือศิษย์ในบังคับบัญชาของกรมหลวงชุมพรฯ รุ่นแรกๆ ประมาณ พ.ศ.๒๔๔๙
ส่วนภาพรอยสักนี้ท่านถ่ายขณะอายุได้ ๕๑ ปี เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๔


<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/mveq4Jpq7Qk?hl=th_TH&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/mveq4Jpq7Qk?hl=th_TH&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>


นอกจากนี้กรมหลวงชุมพรฯ ท่านยังบัญชาให้สร้างเรือจำลองขึ้นมาลำหนึ่ง ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการฝึกแก้มุมทิศ
เรือลำนี้พระองค์ท่านให้จารึกไว้ที่หัวเรือว่า "ร.ศ. ๑๑๒" และให้ชื่อว่า "เรือน้ำตาล"

http://www.bloggang.com/data/sundowner/picture/1202488435.jpg

http://www.bloggang.com/data/sundowner/picture/1202488486.jpg

http://www.bloggang.com/data/sundowner/picture/1202488577.jpg

http://www.bloggang.com/data/sundowner/picture/1202488632.jpg

ว่ากันว่าเป็นนัยว่า พระองค์ท่านจะทรงฝึกเด็กนักเรียนนายเรือให้เป็นน้ำตาลที่ "แก้เผ็ด" ฝรั่งได้ครับ


<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/t72jPaL_Bek?hl=th_TH&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/t72jPaL_Bek?hl=th_TH&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>



และเมื่อเด็กชาย เติบโตมากลายเป็นชายฉกรรจ์
คู่ศึกฝังแค้นครั้งเก่าก็ได้โคจรมาพบกันจนเกิดยุทธนาวีที่เกาะช้าง
วันนั้น...
เรากล้า ที่จะกัดกรามแล้วพูดออกไปว่า "เข้ามา... หมูป่าไม่ถอยให้ราชสีห์ดอก"

<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ski4Vq5dtJU?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/ski4Vq5dtJU?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/0myXlvSFBEU?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/0myXlvSFBEU?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
แวบมา
17-01-13, 06:52 AM
แต่ถ้าอยากอ่านเรื่องที่สะใจต้องอ่านเรื่องการรบที่สมรภูมิคลองพร้าวในเขมรครับ

ที่นั่นทหารไทยถล่ม กองพันทหารต่างด้าว (french foreign legion) III/5 REI อันเป็นหน่วยรบพิเศษอันเกรียงไกรของฝรั่งเศสแบบย่อยยับ ทั้งตายทั้งถูกจับเป็นเชลย ขนาดทิ้งธงไชยเฉลิมพลไว้ให้ทหารกองพันทหารราบที่ ๓ของไทยนำไปย้ำชัยชนะจนปฏิเสธไม่ออก

http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=28912;image
http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=28910;image

ลองอ่านกันที่นี่ครับ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4942.0

เรายึดธงประจำหน่วยรบฝรั่งเศษ

ทำไมไม่เอาไปแลกธงช้างสยามของเราที่ถูกยึดไป กลับมาจากแองวาลิดครับ
ตาเกิ้น
17-01-13, 07:45 AM
เรายึดธงประจำหน่วยรบฝรั่งเศษ

ทำไมไม่เอาไปแลกธงช้างสยามของเราที่ถูกยึดไป กลับมาจากแองวาลิดครับ

เข้าใจว่าธงผืนนี้คืนให้กับฝรั่งเศษไปหลังจากจบสงครามโลกครั้งที่สองและไทยเกือบจะกลายเป็นผู้แพ้สงครามพร้อมๆกับญี่ปุ่นครับ
ตาเกิ้น
17-01-13, 08:43 AM
ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจหรือว่าเป็นเหตุบังเอิญที่มาเล่าเรื่องนี้ในตอนนี้

ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆครับ เช้าวันนี้ถึงได้พบว่า วันนี้คือวันครบรอบ 72 ปีของยุทธนาวีที่เกาะช้าง วันที่วีรบุรุษไทยเอาเลือดทาแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง

http://i1045.photobucket.com/albums/b453/NyeNAVA/HTMS%20Thonburi-Fight/Thonburi_Battle-002.jpg

ขอสดุดีวีรกรรมของพวกท่านไว้อีกครั้งหนึ่ง ณ ที่นี้ครับ
ตาเกิ้น
17-01-13, 08:46 AM
ถ้าอ่านแล้วนึกไม่ออกว่าทหารเรือไทยใจถึงแค่ไหนต้องดูภาพนี้ครับ แสดงให้เห็นขนาดของเรือ ร.ล.ธนบุรี กับเรือลามอตต์ปิเกต์ เล็กใหญ่กว่ากันกว่าสามเท่า

http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4768.0;attach=25014;image
ตาเกิ้น
17-01-13, 09:15 AM
อ้าว พอไปอ่านเข้า สมรภูมิบ้านพร้าวก็ครบรอบ 72 เมื่อวานนี้ วันที่ 16 มกราคม วันนี้ตั้งกระทู้นี้พอดี

ขยายความถึงกองทหารฝรั่งเศษที่มารบที่คลองพร้าวสักนิดครับจะได้เข้าใจว่าการรบชนะที่คลองพร้าวนั้นมีความสำคัญแค่ไหน

III/5 REI เป็นชื่อย่อของกองพันที่๓ ของกรมทหารต่างด้าวที่๕ครับ

ทหารต่างด้าวนี้ ว่ากันตรงๆก็คือทหารรับจ้างรบที่รัฐบาลฝรั่งเศสไม่สนว่าประวัติของแต่ละคนจะเป็นโจร หรือฆาตกรมาจากขุมนรกไหนของโลก จะเชื้อชาติหรือสัญชาติใดไม่เกี่ยงหากทดสอบผ่านการฝึกอันทารุณได้ ดังนั้นทหารในกรมนี้จึงมีทุกสีผิว ฝรั่งเศสขุนเอาไว้ส่งไปรบในบรรดาเมืองขึ้นต่างๆ ส่วนมากในอัฟริกาที่ทหารฝรั่งเศสประสพผลสำเร็จในการสร้างความเกลียดชังจากเจ้าของประเทศเดิมอย่างเข้ากระดูกดำ เพราะพวกนี้จะฆ่าพลางปล้นพลาง มารบกับทหารไทยในสมรภูมิเขมรครั้งนี้ พอแพ้ก็ปล้นชาวบ้าน เอาเศษเล็กเศษน้อยไปด้วยไม่ยอมถอยกลับมือเปล่าๆ
http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=28815;image
http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=28820;image
http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4942.0;attach=28902;image

ตอนนั้นฝรั่งเศษเริ่มเพลี่ยงพล้ำเพราะทหารไทยรุกเข้าไปในเขตเขมรลึกพอสมควร จนรัฐบาลอินโดจีนฝรั่งเศสต้องสั่งการให้กรมทหารต่างด้าวที่๕ ซึ่งเป็นกองทหารที่ดีที่สุดในอินโดจีนฝรั่งเศษและประจำการอยู่ที่ตังเกี๋ยเคลื่อนพลมา กะจะตีโต้ทหารไทยให้กระเจิง

แต่ปรากฏว่าโดนถล่มเละ ตายไปเป็นร้อยแม้แต่ผู้บังคับกองพันก็ตายในที่รบ และยังโดนจับเป็นเฉลยอีกมาก
ชัชวาลย์
17-01-13, 09:59 AM
อ่านแล้ว...
รักชาติ ขึ้นอีกเยอะ:D
Minidevil
17-01-13, 10:22 AM
ขอบคุณครับพี่ :2TU:
air
17-01-13, 10:29 AM
เมื่อค้นเรื่องยุทธการเกาะช้างจากพี่ตาเก้นนำมาลง จึงทราบว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 72 ปี พอดี ที่เรือหลวงชลบุรี และเรือหลวงสงขลา 2 ใน 4 ลำ ที่รบกับเรือของฝรั่งเศส จมลงที่เกาะช้างในวันที่ 17 มกราคม 2484

ผมเคยตามคณะดำนำไปถ่ายวีดิโอใต้น้ำ การค้นหาเรือหลวงชลบุรี โดยการบอกพิกัดอย่างลับๆ จากพี่นักโบราณคดีใต้น้ำท่านหนึ่ง และก็เจอด้วย สภาพเรือเก่ามากที่ยังเห็นได้ชัดก็เป็นแค่เสากระโดงเรือ ตอนไปทราบแต่ว่าไปดำหาเรือจม เลยไม่มีข้อมูล แต่พอกลับมาค้นเรื่องดูถึงกับขนลุกเลย เพราะทราบถึงวีรกรรมการรบของทหารเรือไทย ที่เสียสละชีวิตมากมายหลายท่าน เพื่อแผ่นดินไทย

ขอสรรเสริญความเสียสละอันยิ่งใหญ่ครับ
quixote
17-01-13, 11:02 AM
เสียดายคนไทยไม่ค่อยรู้ ผมเองว่าอ่านมาเยอะ ยังรู้สึกว่าที่รู้ยังน้อยไป จะอ่านให้ละเอียดแล้วไปเล่าต่อให้เด็กๆฟังกัน
แวบมา
17-01-13, 02:13 PM
ถ้าอ่านแล้วนึกไม่ออกว่าทหารเรือไทยใจถึงแค่ไหนต้องดูภาพนี้ครับ แสดงให้เห็นขนาดของเรือ ร.ล.ธนบุรี กับเรือลามอตต์ปิเกต์ เล็กใหญ่กว่ากันกว่าสามเท่า

http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4768.0;attach=25014;image

"เข้ามา... หมูป่าไม่ถอยให้ราชสีห์ดอก"
แวบมา
17-01-13, 02:43 PM
ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจหรือว่าเป็นเหตุบังเอิญที่มาเล่าเรื่องนี้ในตอนนี้

ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆครับ เช้าวันนี้ถึงได้พบว่า วันนี้คือวันครบรอบ 72 ปีของยุทธนาวีที่เกาะช้าง วันที่วีรบุรุษไทยเอาเลือดทาแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง

http://i1045.photobucket.com/albums/b453/NyeNAVA/HTMS%20Thonburi-Fight/Thonburi_Battle-002.jpg

ขอสดุดีวีรกรรมของพวกท่านไว้อีกครั้งหนึ่ง ณ ที่นี้ครับ


อ้าว พอไปอ่านเข้า สมรภูมิบ้านพร้าวก็ครบรอบ 72 เมื่อวานนี้ วันที่ 16 มกราคม วันนี้ตั้งกระทู้นี้พอดี



วันเดียวกันเลยครับพี่ เวลาผมตรงด้วย ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน

เพราะคืนวันจันทร์ผมไปสะดุดตาภาพธงช้างสยามที่แองวาลิด
จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องนี้ในศิลปวัฒนธรรมเมื่อนานมาแล้ว
แต่นึกอย่างไรไม่รู้เลยตามอ่านเรื่อง ร.ศ. ๑๑๒ ต่อ
จนไปเห็นภาพที่ฝรั่งมองทหารไทยว่า "เป็นทหารตุ๊กตุ่นตุ๊กตา" ผมขัดตาขึ้นมาทันที
ซึ่งผมก็เชื่อว่า หากทหารรุ่นคุณทวดในยุคนั้นได้เห็นภาพนี้ก็คงเจ็บจำฝังใจอยู่ไม่น้อย
และได้ทราบมาว่า "ภาพนี้เคยเป็นภาพต้องห้าม" เข้าใจว่าน่าจะเกรงกระทบความรู้สึกอย่างที่ผมว่า
ผมได้เซฟไฟล์ภาพเหล่านี้ โดยตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า ร.ศ. ๑๑๒ ไว้
และเมื่อลองคลิกดู ก็ปรากฏว่า "ผมเซฟไฟล์เมื่อ วันที่ ๑๖ ม.ค. ๒๕๕๖ เวลา ๐๔๔๒ น. "

ผมไม่เคยอ่านเรื่องบ้านพร้าวดดยละเอียด แต่เมื่อสักครู่จากที่อ่านพบ
ปรากฏว่า ร.ต. ยง ณ นคร ผู้ให้อาณัติสัญญาณกองทหารสยามที่ซุ่มอยู่เข้าทำการโจมตีกองทหารเศษฝรั่ง
"ได้เริ่มลั่นไกยิงกระสุนปืนกลนัดแรกเมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค. ๒๕๕๖ เวลาใกล้ ตีห้า ครับ" :rolleyes:
Marshal Thorsak
17-01-13, 03:02 PM
ขอบคุณทั้งท่านตาเกิ้นและท่านแวบมา สำหรับข้อมูลประวัติศาสตร์การสร้างชาติไทยที่สำคัญ ที่คนไทยหลายคนอาจลืมไปแล้ว หรือไม่เคยสนใจด้วยครับ
Marshal Thorsak
17-01-13, 03:16 PM
ประวัติศาสตร์การสร้างและรักษาเอกราชของชาติไทยในยุคใหม่ หากนับเรื่อง รศ 112 เป็นตอนที่ 1 และสงครามอินโดจีนเป็นตอนที่ 2 แล้ว

ผมคิดว่า ตอนที่ 3 น่าจะเป็นเรื่องการยึดครองของญี่ปุ่น

จากนั้นตามด้วยตอนที่ 4 บทบาทของเสรีไทย

ส่วนตอนที่ 5 น่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนสถานะ จากฝ่ายผู้แพ้มาเป็นฝ่ายผู้ชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งจะมีหลายประเด็นผูกย้อนกลับไปถึงตอนที่ 2 ด้วย
แวบมา
17-01-13, 03:22 PM
ถ้าอ่านแล้วนึกไม่ออกว่าทหารเรือไทยใจถึงแค่ไหนต้องดูภาพนี้ครับ แสดงให้เห็นขนาดของเรือ ร.ล.ธนบุรี กับเรือลามอตต์ปิเกต์ เล็กใหญ่กว่ากันกว่าสามเท่า

http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4768.0;attach=25014;image

เราได้เปรียบขนาดนี้เลยหรือครับพี่

เรือฝรั่งเศษกล้าสู้เราได้อย่างไร

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

v

เป้าเราเล็กกว่า ยิงยาก :p
Marshal Thorsak
17-01-13, 03:25 PM
http://i11.photobucket.com/albums/a153/lanzenritter/05-2.jpg
อ่านไม่ออก ไม่แน่ใจว่าเป็นภาพที่ทางฝรั่งเศษใช้โฆษณาชวนเชื่อในอีหรอปว่า "ข้าราชการไทยกดขี่ข่มเหงคนพื้นเมือง (ลาวเขมร) " หรือเปล่า


น่าจะหมายถึง ทหารสยามทำการสังหารหมู่คนในบังคับฝรั่งเศส ครับ
หนอน
17-01-13, 10:44 PM
ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆครับ ทีนำมาเล่าให้ฟังในรอบกองไฟ
zonbank
18-01-13, 12:53 AM
โอ้ววววว.... ผมกำลังคิดจะไปหาอ่านอยู่เลยครับ
ขอบพระคุณรับ :2TU::2TU:
Galipz
18-01-13, 07:37 PM
:cool:ได้อ่านในส่วนที่ยังไม่รู้อีกหลายเรื่อง ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆ