View Full Version : พาธนูคอมปาวด์ไว้ท้ายรถเก๋งถูกจับด้วยหรอครับ
Big_com
23-02-13, 01:04 PM
ขอเท้าความก่อนนะครับ เหตุเกิดเมื่อคืนวานครับผมบ้านอยู่ตรังในเมืองเลยนะครับซึ่งผมยิ่งธนูคอมปาวด์มาได้ปีกว่าๆแหละเอาใส่ท้ายรถขึ้นลง กทม อยู่บ่อยๆ พอดีผมเป็นคนนนทบุรีแต่ได้แฟนตรังเลยไปกลับบ่อยๆซึ่งปกติผมจะเอาธนูไว้ที่ตรังเป็นหลัก. เรื่องมีอยู่เมื่อวานผมเอาธนู vector 35 ไปซ้อมที่บ้านญาติแฟนผมที่อีกอำเภอนึงก็ไปซ้อมตามปกติแต่ขากลับเจอด่านพี่ตำรวจเค้าตรวจค้นอยู่. ดูแล้วเหมือนตรวจค้นหายาเสพติดมากว่าเพราะเน้นค้นมอเตอร์ไซค์กับรถเก่งแต่งซิ่ง ด่านนี้ตั้งประจำทุกทีผ่านไม่เคยเรียกตรวจค้น คราวนี้ไม่รู้พี่แกเป็นไรสั่งชิดซ้ายและขอตรวจค้นพอเปิดท้ายกระโปร่งพี่แกก็เจอ เจ้า vector 35 ดำๆเงาๆ แกก็งงว่ามันคืออะไรแล้วก็ถามผมว่ามันคืออะไร พี่แกไม่รู้จักด้วยสำไป ผมก็ไม่ได้คิดไรก็ตอบแบบเต็มใจว่าธนู. จบปุ๊ป พี่ตำรวจแกก็ร้องอู๊ย!!!! อ่าวไม่ได้นะนี่มันอาวุธร้ายแรง ผิดกฏหมายห้ามพกพา เดียวต้องขอยึดและไปโรงพักด้วยกันและพี่แกก็ไปเรียกพวกอีก 2-3 คน ผมก็เลยตกใจแล้วถามว่าอ่าวผิดด้วยหรอแค่มีธนูอยู่ท้ายรถเนี่ยถ้าผมบอกพี่ว่านี่มันคือชิ้นส่วนจักรยานพี่ก็ไม่รู้แล้ว พี่ยังไม่รู้จักด้วยสำแล้วจะมาบอกเป็นอาวุธร้ายแรงได้ไง. อีกอย่างคนในกรุงเทพเค้ายิงกันเป็นชมรมเค้าก็ใส่ท้ายรถกันทั้งนั้น อย่างนั้นพวกนั้นเค้าก็ผิดด้วยอะสิ. พี่ตำรวจแกไม่ฟังใดๆทั้งสิ้นบอกเป็นอาวุธสามารถทำอันตรายแกมนุษย์ด้วยกันได้ซึ่งผิดกฏหมายไปแบบข้างๆคูๆคลองๆ เลย ผมกับแฟนเลยขี้เกียจพูดแหละเลยถามตัดบทว่าแล้วจะต้องทำไงครับพี่. จ่ายค่าปรับมา 2000 และครั้งต่อไปอย่านำใส่รถอีก ผมเลยร้อง โอ๊!!! แล้วก็ส่ายหัวแบบไม่เอาๆ ไม่จ่าย. ไร้สาระสิ้นดี ผมบอกยังไงๆก็ไม่จ่าย เพราะผมมั่นใจว่าไม่ผิด ผมก็เริ่มอารมณ์ขึ้นแล้วเลยบอกถ้างั้นพี่ต่อสายนายพี่ให้ผมเลย เค้าก็ไม่ยอมต่อสายให้. พอดีแฟนมีเบอร์สารวัตรอยู่ซึ่งเป็นลูกค้าที่ร้านซักรีดของผมอยู่ นึกได้เลยโทรไปปรึกษาดูแกบอกว่าพาใส่รถไปไหนมาไหนได้นิทำไมหรอ? มีไรกันหรอ ผมเลยเล่าให้เค้าฟังว่าถูกตรวจรถและเจอธนูตำรวจจับเค้าเลยขอคุยกับหัวหน้าที่ตั้งด่านตรวจ สารวัตรที่ผมโทรไปคนละพื้นที่กับที่โดนตรวจนะครับแต่เค้าก็คงคุยกันได้. ท้ายที่สุดพี่ตำรวจที่ด่านก็ยอมปล่อยแบบมึนๆแล้วบอกว่าครั้งนี้จะยอมให้นะครั้งต่อไปไม่ยอมนะ
ผมเลยขอบคุณและขับรถจากมาแบบโมโห. สักพักพออารมณ์ดีขึ้นเลยโทรไปขอบคุณลูกค้าท่านนี้ที่เป็นสารวัตรอยู่พร้อมถามว่าพี่คุยยังไงเค้าถึงปล่อยผม เค้าก็บอกว่า มันไม่มีกฏหมายที่แน่ชัด. จับไปตอนนี้เค้าไปอุทรณ์ภายหลังเค้าก็หลุด. เสียเวลา. เสียหน้านายปล่าวๆ ปล่อยไปเหอะ แต่ถ้าพี่ไม่ปล่อยผมก็ไม่ว่าอะไร
อย่างที่เขาบอกนั่นล่ะครับ กฎหมายมันไม่ชัดเจน ขึ้นกับวินิจฉัยของเจ้าพนักงาน แต่ถ้าเขาวินิจฉัยว่ามันเป็นอาวุธและคุณมีไว้ในครอบครองเพื่อทำร้ายผู้อื่น คุณก็สู้คดียาว เรื่องนี้เคยถามตำรวจมาแล้วเหมือนกัน
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมโดนจับเพราะในรถมีมีดขนาดเขื่อง 5 เล่ม แต่ละเล่มลับไว้คมกริบน่ากลัวทั้งนั้น พยายามอธิบายว่าผมชอบมีด ทราบว่าช่างที่ไหนมีฝีมือดีก็ไปหางานของเขามาสะสมไว้ คุณตำรวจแกก็ไม่ฟัง อาจจะเป็นเพราะมีดของผมมันกระจายกันอยู่ในที่ฉกฉวยสะดวกทั่วทั้งรถก็ได้
Big_com
23-02-13, 03:00 PM
ผมว่าแบบนี้อีกหน่อยอะไรๆที่เข้าข่ายเป็นอันตรายต่อมนุษย์ก็คงโดนพี่แกจับหมดไม่ว่าจะมีอยู่ในกฏหมายหรือไม่ก็ตามเครียดๆไม่ชัดเจน
แต่ผมงงตรงที่ตำรวจเห็นคอมปาวด์ผมแล้วเค้าก็ไม่รู้จักสักหน่อยถ้าผมไม่บอกก็คงไม่รู้
ไม่ผิดแน่นอนครับ ไม่งั้นตอนซื้อก็ต้องมีในอนุญาต ขนาดเอาใส่เครื่องบินไปต่างประเทศที่ว่าเข้มๆ ยัง/ม่เป็นไรเลยครับ
The_Ttent
23-02-13, 08:19 PM
ผมก็เคยเจอด่านที่กำแพงเพชร ตอนขับลงจากเชียงใหม่
เค้าขอตรวจ ก็เปิดให้ตรวจ เค้าเห็นกระเป๋าธนู ถามว่าอะไร ก็บอก ธนู เค้าขอดู ก็เปิดให้ดู
เปิดให้ดูแล้ว ตำรวจทั้งด่านก็เข้ามารุมท้ายรถผมหมา ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง กับการอธิบายว่า คอมปาว ต่างกับธนูโรบินฮู้ดยังไง มีธนูแบบไหนบ้าง แถวกำแพงเพชรมีสนามยิงธนูมั๊ย เข้าใจว่า ถ้าเอาคันฝึกหัดกับเป้าติดไปด้วยคงได้สอนยิงกันข้างทางเลย
แต่ถามว่าผิดมั๊ย ก็ไม่ผิดนะครับ เมื่อก่อน สมัยที่มีร้านธนู Bigchamp ในเซนทรัลลาดพร้าว ผมก็ถือเดินในห้าง ไม่เห็นมีไร
ไอ้เจ้าปอ ถือคอมปาวไปเรียนกรุงเทพคริสเตียน บางคนถือลงรถใต้ดิน
พี่โชคร้ายที่ไปเจอพวกแวมไพร์เข้าน่ะครับ
siriwut
23-02-13, 10:45 PM
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตราที่ 271 การพกพาอาวุธต้องพกอย่างมิดชิด หากฝ่าฝืนปรับ 100 บาท และหรือให้ศาลมีคำสั่งยึดอาวุธนั้น
กรณีที่กล่าวมานั้น ตร. ผิดทั้งหมดครับ จะปรับ 2,000 บาท หมายค้นก็ไม่มี ตั้งด่านมีร้อยเวรหรือสารวัตรสั่งการหรือเปล่าก็ไม่รู้
หลายครั้งคิดว่าเราไม่รู้กฎหมายเลยโมดิฟายกฎหมายขึ้นมาใหม่ แล้วเราก็ไม่รู้ คิดว่าที่เขาพูดนั้นถูกต้อง
หากถือว่าธนูเป็นอาวุธ หากเก็บอย่างมิดชิดก็ไม่ผิดครับ และของสิ่งนี้ไม่ต้องมีใบอนุญาติในการครอบครองและการพกพา
ต่างกับปืนที่ ตร. พก จะพกได้ขณะเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น หากออกเวรแล้วก็ไม่มีสิทธิพกอย่างเปิดเผยเช่นเดียวกัน
ตั้งด่าน...มีร้อยเวรหรือสารวัตรสั่งการหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าไม่มีก็ด่านเถื่อน :mad:
The_Ttent
24-02-13, 09:21 AM
"บอกเป็นอาวุธสามารถทำอันตรายแกมนุษย์ด้วยกันได้ซึ่งผิดกฏหมาย"
งั้น พกวงเวียน ไม้บรรทัด กรรไกร ตะเกียบ ช้อน ฯลฯ ก็ไม่ได้ เพราะมันสามารถเปนอาวุธ ทำอันตรายแก่มนุษย์ด้วยกันได้ทั้งนั้น
ก็เปนซะอย่างนี้ ไม่แปลกใจเลยที่มีเพจ "เกลียดตำรวจ" ก็แม่งทำตัวน่ารังเกียจจริงๆ
GreenArrow
24-02-13, 10:45 AM
สถิติอาวุธที่ปรากฏมากที่สุดในคดีอาชญากรรม ทำร้ายร่างกายคือ..........มีดปอกผลไม้ครับ
บอกไปแล้วไม่รู้ว่าต่อจากนี้ต้องขอใบอนุญาติมีและใช้ด้วยหรือปล่าว
Big_com
24-02-13, 08:42 PM
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ร่วมกันให้ข้อมูลครับ ผมเพิ่มเติมนิดนึงครับเหรุการณ์ที่ผมเจอนี้ผมได้อ้างไปแล้วตอนยืนเถียงตำรวจอยู่ว่ากฏหมายไม่ได้ห้ามพาธนูไปไหนมาไหนสะหน่อยผมจะผิดได้ไง พี่ตำรวจเลยบอกว่ามันเป็นดุลยพินิศของผม เพราะประโยคแบบนี้เลยทำให้ผมค้างคาใจมากเลยครับ ทำให้ต้องเถียงกันนานสองนาน หากผมไม่ได้ลูกค้าที่เป็นตำรวจช่วยคุยให้คงเสียต่าปรับ 2000 แน่ๆ
เพราะถ้าให้พี่ตำรวจยึดไปและรอสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องก็คงนานและยาว มีแต่เสียๆกะบเสียเนอะพี่ถ้าเจอพี่ตำรวจแบบนี้
หรือเราจะพอมีแนวทางใดบ้างไหมครับถ้าเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ หรือถ้าเป็นพี่ๆโดนจะทำยังไงกันครับ
Big_com
24-02-13, 08:45 PM
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตราที่ 271 การพกพาอาวุธต้องพกอย่างมิดชิด หากฝ่าฝืนปรับ 100 บาท และหรือให้ศาลมีคำสั่งยึดอาวุธนั้น
กรณีที่กล่าวมานั้น ตร. ผิดทั้งหมดครับ จะปรับ 2,000 บาท หมายค้นก็ไม่มี ตั้งด่านมีร้อยเวรหรือสารวัตรสั่งการหรือเปล่าก็ไม่รู้
หลายครั้งคิดว่าเราไม่รู้กฎหมายเลยโมดิฟายกฎหมายขึ้นมาใหม่ แล้วเราก็ไม่รู้ คิดว่าที่เขาพูดนั้นถูกต้อง
หากถือว่าธนูเป็นอาวุธ หากเก็บอย่างมิดชิดก็ไม่ผิดครับ และของสิ่งนี้ไม่ต้องมีใบอนุญาติในการครอบครองและการพกพา
ต่างกับปืนที่ ตร. พก จะพกได้ขณะเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น หากออกเวรแล้วก็ไม่มีสิทธิพกอย่างเปิดเผยเช่นเดียวกัน
ตั้งด่าน...มีร้อยเวรหรือสารวัตรสั่งการหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าไม่มีก็ด่านเถื่อน :mad:
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้
ตาเกิ้น
24-02-13, 09:34 PM
เมื่อหลายปีก่อนเพื่อนชาวญี่ปุ่นของเราคนหนึ่งมาแข่งธนูที่เมืองไทย เอาคันธนู Recurve ถอดใส่กระเป๋าแข็งเรียบร้อยจะลงรถใต้ดินเจอ ร.ป.ภ.ห้ามไม่ให้เข้า เขาโทรหาผมให้ช่วยคุยให้เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมช่วยคุยยังไงก็ไม่ยอม จนเพื่อนผมต้องขึ้นแท็กซี่แทน
วันรุ่งขึ้นผมเลยเดินหิ้วคัน Compound เปลือยๆไม่ใส่กล่องเดินไปเข้าประตูทางเข้าที่มีปัญหานั้นเพื่อจะให้รู้กันไปว่ากฎระเบียบเป็นยังไงกันแน่ พอร.ป.ภ.ห้าม ผมไม่อยากทะเลาะกับเขาเพราะเขาก็ทำไปตามหน้าที่ จึงบอกว่าไปเรียกเจ้านายเขามาคุยกันดีกว่า หัวหน้าร.ป.ภ กับผู้จัดการมาคุยเถียงกันอยู่พักนึงเขาก็ต้องยอมผม แต่ขอให้ร.ป.ภ.เดินลงไปส่ง ผมก็เลยถือธนูนั่งรถไฟเล่นสักนิดหน่อยแล้วก็กลับบ้าน
ไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอน ไอ้ที่ว่าตาม "ดุลย์พินิจ" นี่ละน่ากลัวที่สุดครับ
jackagee
24-02-13, 09:52 PM
น่าจะถ่าย VDO ไว้ทุกขั้นตอนครับ
ปัจจุบันนี้ ผมแนะนำว่า หากเรามั่นใจว่าเราไม่มีสิ่งผิดกฏหมาย
อย่างเช่นกรณีนี้ (ธนู) หากเกิดการเจรจากันที่ด่าน
แนะนำให้ถ่าย VDO ครับ
แต่..ก็ต้องถามผู้รู้อีกครับว่า หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราสามารถถ่ายได้ไหมครับ?
หากตำรวจบอก ห้ามถ่าย ถ่ายไม่ได้ เราจะเถียงยังไง?
แต่เชื่อผมเถอะว่า โจรถือปืน กับ คนดีถือกล้อง
ตำรวจกลัวอย่างหลังมากกว่า
toong's father
24-02-13, 11:02 PM
ขอเท้าความก่อนนะครับ เหตุเกิดเมื่อคืนวานครับผมบ้านอยู่ตรังในเมืองเลยนะครับซึ่งผมยิ่งธนูคอมปาวด์มาได้ปีกว่าๆแหละเอาใส่ท้ายรถขึ้นลง กทม อยู่บ่อยๆ พอดีผมเป็นคนนนทบุรีแต่ได้แฟนตรังเลยไปกลับบ่อยๆซึ่งปกติผมจะเอาธนูไว้ที่ตรังเป็นหลัก. เรื่องมีอยู่เมื่อวานผมเอาธนู vector 35 ไปซ้อมที่บ้านญาติแฟนผมที่อีกอำเภอนึงก็ไปซ้อมตามปกติแต่ขากลับเจอด่านพี่ตำรวจเค้าตรวจค้นอยู่. ดูแล้วเหมือนตรวจค้นหายาเสพติดมากว่าเพราะเน้นค้นมอเตอร์ไซค์กับรถเก่งแต่งซิ่ง ด่านนี้ตั้งประจำทุกทีผ่านไม่เคยเรียกตรวจค้น คราวนี้ไม่รู้พี่แกเป็นไรสั่งชิดซ้ายและขอตรวจค้นพอเปิดท้ายกระโปร่งพี่แกก็เจอ เจ้า vector 35 ดำๆเงาๆ แกก็งงว่ามันคืออะไรแล้วก็ถามผมว่ามันคืออะไร พี่แกไม่รู้จักด้วยสำไป ผมก็ไม่ได้คิดไรก็ตอบแบบเต็มใจว่าธนู. จบปุ๊ป พี่ตำรวจแกก็ร้องอู๊ย!!!! อ่าวไม่ได้นะนี่มันอาวุธร้ายแรง ผิดกฏหมายห้ามพกพา เดียวต้องขอยึดและไปโรงพักด้วยกันและพี่แกก็ไปเรียกพวกอีก 2-3 คน ผมก็เลยตกใจแล้วถามว่าอ่าวผิดด้วยหรอแค่มีธนูอยู่ท้ายรถเนี่ยถ้าผมบอกพี่ว่านี่มันคือชิ้นส่วนจักรยานพี่ก็ไม่รู้แล้ว พี่ยังไม่รู้จักด้วยสำแล้วจะมาบอกเป็นอาวุธร้ายแรงได้ไง. อีกอย่างคนในกรุงเทพเค้ายิงกันเป็นชมรมเค้าก็ใส่ท้ายรถกันทั้งนั้น อย่างนั้นพวกนั้นเค้าก็ผิดด้วยอะสิ. พี่ตำรวจแกไม่ฟังใดๆทั้งสิ้นบอกเป็นอาวุธสามารถทำอันตรายแกมนุษย์ด้วยกันได้ซึ่งผิดกฏหมายไปแบบข้างๆคูๆคลองๆ เลย ผมกับแฟนเลยขี้เกียจพูดแหละเลยถามตัดบทว่าแล้วจะต้องทำไงครับพี่. จ่ายค่าปรับมา 2000 และครั้งต่อไปอย่านำใส่รถอีก ผมเลยร้อง โอ๊!!! แล้วก็ส่ายหัวแบบไม่เอาๆ ไม่จ่าย. ไร้สาระสิ้นดี ผมบอกยังไงๆก็ไม่จ่าย เพราะผมมั่นใจว่าไม่ผิด ผมก็เริ่มอารมณ์ขึ้นแล้วเลยบอกถ้างั้นพี่ต่อสายนายพี่ให้ผมเลย เค้าก็ไม่ยอมต่อสายให้. พอดีแฟนมีเบอร์สารวัตรอยู่ซึ่งเป็นลูกค้าที่ร้านซักรีดของผมอยู่ นึกได้เลยโทรไปปรึกษาดูแกบอกว่าพาใส่รถไปไหนมาไหนได้นิทำไมหรอ? มีไรกันหรอ ผมเลยเล่าให้เค้าฟังว่าถูกตรวจรถและเจอธนูตำรวจจับเค้าเลยขอคุยกับหัวหน้าที่ตั้งด่านตรวจ สารวัตรที่ผมโทรไปคนละพื้นที่กับที่โดนตรวจนะครับแต่เค้าก็คงคุยกันได้. ท้ายที่สุดพี่ตำรวจที่ด่านก็ยอมปล่อยแบบมึนๆแล้วบอกว่าครั้งนี้จะยอมให้นะครั้งต่อไปไม่ยอมนะ
ผมเลยขอบคุณและขับรถจากมาแบบโมโห. สักพักพออารมณ์ดีขึ้นเลยโทรไปขอบคุณลูกค้าท่านนี้ที่เป็นสารวัตรอยู่พร้อมถามว่าพี่คุยยังไงเค้าถึงปล่อยผม เค้าก็บอกว่า มันไม่มีกฏหมายที่แน่ชัด. จับไปตอนนี้เค้าไปอุทรณ์ภายหลังเค้าก็หลุด. เสียเวลา. เสียหน้านายปล่าวๆ ปล่อยไปเหอะ แต่ถ้าพี่ไม่ปล่อยผมก็ไม่ว่าอะไร
คุณจำชื่อตำรวจคนนั้ได้ไหมครับ ผมอยากให้คุณทำเรื่องร้องเรียนเป็น3-4ฉบับเป็นหนังสือลับ ไปที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับบอกในหมายเหตุว่าส่งสำเนาไปที่ใดบ้าง เช่น รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ส่วนของเอกชน ก็ผู้คุ้มครองผู้บริโภค และอื่นๆตามที่คิดได้ สื่อมวลชน เช่น ช่อง 3และช่องอื่น ในรายการร้องทุกข์ เพราะคุณมีความผิดครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปคุณจะเจอะอีกตามดุลยพินิจ ขอให้คุณเล่าเรื่องตามที่พบบอกชื่อที่อยู่จริงให้ตรวจสอบได้ คุณต้องบอกวัตถุประสงค์ที่ร้องเรียนเรื่องนี้
ผมเคยเจอดุลยพินิจบ่อยๆในกรุงเทพสมัยก่อน10กว่าปี ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว โบกให้จอดแล้วตั้งข้อหา เปลี่ยนเลนไม่ให้สัญญานไฟผมถามไปว่า ผมเปลี่ยนตรงไหนผมขับมาในถนนสายนี้ยังไม่เคยเปลี่ยนเลนเลย เขาบอกมาผมก็ต้องจับ ผมบอกผมไม่ผิด เขาบอกต้องผิดเป็นความผิดซึ่งหน้า ผมรำคาญผมบอกจะจับปรับก็ปรับ เขาบอกจะเปลี่ยนข้อหาให้เบาลง จะได้เสียค่าปรับน้อยลง ผมบอกให้ใช้หาเดิมที่คุณตั้งนั่นแหละแล้วเขาก็เอาใบขับขี่ของผมมาเพื่อจะเขียนใบสั่ง แต่ก็ไม่ได้เขียนพิจารณาใบขับขี่แล้วคืนให้บอกว่าตักเตือนให้ขับรถระวังก็แล้วกันครับ
ผมก็เคยเจอ แต่ก็คุยกันดีๆอย่างมีเหตุผล พร้อมทั้งชี้แจงว่าไม่มีกฏหมายอันไหนที่บอกว่าห้ามขนอุปกรณ์กีฬา ผมก็บอกว่าถ้าเป็นปืนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งผมพิมพ์เก็บไว้เวลาคุยด้วย เผื่อเจอพวกชอบอ้างแต่ดุลยพินิจแต่ไม่ดูข้อเท็จจริง
กองวิจัยและวางแผน ส่วนราชการกรมตำรวจ ที่ 0503 ( ส ) / 27663
วันที่ 30 กันยายน 2525
เรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถาน
ผบช. , ผบก. , หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าทุกหน่วยงาน
ตามบันทึก ตร.ที่ 0501 /30476 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2517 กำหนดแนวทาง
ในการปฏิบัติของข้าราชการตำรวจ ให้ใช้ดุลพินิจในการตรวจค้น จับกุม
ผู้พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถานให้เป็นการถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 371 ได้บัญญัติไว้ ต่อมาได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน
ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 8 ทวิ แห่ง พรบ. อาวุธปืนฯ
พ.ศ. 2490 ขึ้นอีก ในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันยังคงมีปัญหา
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยมีเพียงใบอนุญาต
ให้มีและใช้อาวุธปืน ( ป. 4 ) แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ( ป. 12 )
ก็มักจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีทุกรายไป ทำให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกตรวจค้น
และจับกุม เพื่อให้การปฏิบัติของเจ้าพนักงานตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
และถูกต้อง จึงขอซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้ ตามบทบัญญัติ
มาตรา 8 ทวิ แห่ง พรบ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งคณะปฏิรูป
การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3 กำหนดว่า ห้ามมิให้
ผู้ใดพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่กรณีต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควร
แก่พฤติการณ์ ไม่ว่ากรณีใด
ห้ามมิให้พกพาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผยหรือพาไปในที่ชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น
เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด
:) ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กฎหมายยังคงเปิดโอกาส ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์
นำเอาอาวุธปืนที่ตนมีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพา
ติดตัวไปเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินได้ ภายในขอบเขตที่กฎหมายให้กระทำได้
ตามแนวคำชี้ขาดไม่ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการเกี่ยวกับการพกพาอาวุธปืนไปในเมือง
หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาจากเจ้าพนักงาน
ซึ่งถือว่าโดยสภาพเป็นกรณีที่ต้องมีอาวุธปืนติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน
ตามสมควรแก่พฤติการณ์ มีแนวทางพอสรุปได้ดังนี้คือ
1. ถ้าได้นำอาวุธปืนใส่กระเป๋าเก็บไว้ในช่องเก็บของท้ายรถ ซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด
2. เอาอาวุธปืนใส่กระเป๋าใส่กุญแจแล้ววางไว้ในรถซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ในทันทีทันใด
3. ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด จำนวนเป็นหมื่นๆ นำติดตัวมาแล้วมีอาวุธปืน
ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนแล้ว ใส่ช่องเก็บของหน้ารถยนต์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สิน
4. ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด นำอาวุธปืนติดตัวมาด้วย โดยแยกอาวุธปืน
และเครื่องกระสุนปืนออกจากกัน ใส่กระเป๋าเอกสารไว้ที่พนักเบาะหลังรถยนต์
5. ห่ออาวุธปืน และแหนบบรรจุกระสุนปืน ( แมกกาซีน ) แยกออกคนละห่อเก็บไว้ในกระโปรง
รถยนต์ซึ่งใส่กุญแจ
จึงแจ้งมาเพื่อทราบและแจ้งให้ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อใช้เป็นดุลพินิจ
ประกอบการพิจารณาในการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้ต่อไป
ลงชื่อ พล.ต.ท.ณรงค์ มหานนท์ ( ณรงค์ มหานนท์ )
รองอ.ตร.ปป.ปร.ท.อ.ตร.
ขอบคุณพี่หนอนครับ
เพราะเรากลัวเสียเรื่อง เสียเวลา เลยยอมแทนที่จะสู้ จ่ายตังไป ทั้งๆที่รู้ว่าหาเรื่อง
ต่อให้เป็นเรื่องไปถึงศาลจริง เราก็ชนะ อุปกรณ์กีฬา ก็คือ อุปกรณ์กีฬา จะให้เป็นอาวุธร้ายแรงเช่นไร ไม่ได้นำไปก่อเรื่อง
มันเป็นอุปกรณ์กีฬาโดยสภาพ ไม่ใช่อาวุธโดยสภาพ....
คราวหน้าท่านได้ใจก็ตั้งข้อหาเดิมอีก...
คราวหน้า คุยดีๆ ท่านไม่ยอม ก็ เรียกนักข่าวมาทำข่าวเลย
แจ้งข้อกล่าวหา รับทราบข้อกล่าวหา ไม่ใช่ยอมรับผิดเลย
หากขู่ โดนจับกุม ก็ให้จับกุมไป หาเงิน หรือ ข้าราชการเอาตำแหน่งมาประกันตัวออกไป สู้คดี ที่ถูกยัดเยียดข้อหา.... ชนะก็ฟ้องกลับเรียงรายตัว เรียกค่าเสียหาย ขอขมากันไปเลย
ด่านที่ว่า มีทุกวัน ตั้งประจำตอนดึกๆ รถติดมาก ผมก็ต้องผ่านกลับบ้านเสมอเลยครับ
ตาเกิ้น
26-02-13, 07:27 AM
ขอบคุณพี่หนอนครับ
เพราะเรากลัวเสียเรื่อง เสียเวลา เลยยอมแทนที่จะสู้ จ่ายตังไป ทั้งๆที่รู้ว่าหาเรื่อง
ต่อให้เป็นเรื่องไปถึงศาลจริง เราก็ชนะ อุปกรณ์กีฬา ก็คือ อุปกรณ์กีฬา จะให้เป็นอาวุธร้ายแรงเช่นไร ไม่ได้นำไปก่อเรื่อง
มันเป็นอุปกรณ์กีฬาโดยสภาพ ไม่ใช่อาวุธโดยสภาพ....
คราวหน้าท่านได้ใจก็ตั้งข้อหาเดิมอีก...
คราวหน้า คุยดีๆ ท่านไม่ยอม ก็ เรียกนักข่าวมาทำข่าวเลย
แจ้งข้อกล่าวหา รับทราบข้อกล่าวหา ไม่ใช่ยอมรับผิดเลย
หากขู่ โดนจับกุม ก็ให้จับกุมไป หาเงิน หรือ ข้าราชการเอาตำแหน่งมาประกันตัวออกไป สู้คดี ที่ถูกยัดเยียดข้อหา.... ชนะก็ฟ้องกลับเรียงรายตัว เรียกค่าเสียหาย ขอขมากันไปเลย
ด่านที่ว่า มีทุกวัน ตั้งประจำตอนดึกๆ รถติดมาก ผมก็ต้องผ่านกลับบ้านเสมอเลยครับ
พี่น้ำกลับบ้านดึกไปไหนมาเหรอครับ เวลามาสนามธนูเห็นกลับไปตั้งแต่เย็นๆทุกที :rolleyes:
พี่น้ำกลับบ้านดึกไปไหนมาเหรอครับ เวลามาสนามธนูเห็นกลับไปตั้งแต่เย็นๆทุกที :rolleyes:
:) :)
อ่านแล้วเซ็งมากกว่าครับ
ถ้าอนุญาตให้นำอาวุธปืนติดตัวไปเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน แต่ปืนไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน พกหลวงพ่อขลังๆ ไม่ดีกว่าหรือ
ตาเกิ้น
26-02-13, 08:07 AM
ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ท้าทายคุณตำรวจนะครับ เพราะจริงแล้วมันไม่ได้ชัดเจนนักหรอกครับว่าธนูเป็นอุปกรณ์กีฬาไม่ใช่อาวุธ
ตำรวจเขาก็ทำหน้าที่ครับ คุยกับเขาดีๆอย่างสุภาพว่ากันด้วยเหตุผล ถ้าเขามีเจตนาดีพอเห็นว่าเราเป็นสุจริตชนเขาก็จะไม่ว่าอะไร หากเขามีเจตนาไม่ดีเมื่อเห็นเราไม่ยอมง่ายๆเขาก็จะเลิกเช่นกัน
แต่ถ้าหากท้าทายกันแล้วมันจะกลายเป็นความแค้นส่วนตัวที่เขาก็ไม่อยากจะยอมให้เสียฟอร์ม เราก็ไม่ได้อยากได้ฟอร์มเขา และอาจจะเสียเวลาไปโดยใช่เหตุครับ
คิดว่ามีหน้าเป้าติดไว้ อัดรูปตอนแข่งแมทใหญ่ๆอย่างชิงถ้วยพระราชทานโดยที่มีรูปเราอยู่ด้วย ซัก 1 - 2 เล่ม น่าจะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นนะครับ
quixote
26-02-13, 10:17 AM
กฏหมายการพกพาอาวุธของไทย
มาตรา 371 ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดย เปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มี ขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน หนึ่งร้อยบาท และให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น
มาตรา1(5)"อาวุธ" หมายความรวมถึงสิ่งซึ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพแต่ซึ่งได้ ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ
ข้อเท็จจริงบางประการทางด้านกฏหมาย
1. เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหน้าที่ประเมินความผิด หรือไม่ผิดของการพกพามีดไปในที่สาธารณะของผู้ต้องหา (ประชาชน ที่พกพามีดไปในที่ดังกล่าว) เป็นเบื้องต้น ก่อนที่จะสามารถเปรียบเทียบปรับ หรือจับกุม ควบคุมตัวเพื่อสอบสวน หรือส่งฟ้อง การใดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำไปโดยที่ไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหามาก่อน ไม่น่าจะเข้าข่ายการกลั่นแกล้ง และเจ้าหน้าที่เองก็มีกฎหมายคุ้มครองอยู่แน่นหนา
2. กฏหมายอยู่ข้างของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ และนี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดีงามในสังคมประเทศชาติ ดังนั้น การประเมินสภาพความเป็นอาวุธของเจ้าหน้าที่ ย่อมอยู่ในวิจารณญาณโดยชอบ
วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ที่ดี)
1. นอกจากจะต้องชอบด้วยกฏหมายแล้ว ควรจะชอบด้วยหลักการทางรัฐศาสตร์ ศีลธรรมอันดี และเอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายของประชาชน พลเมืองดี ดังนั้น โดยหลักการแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่หาเรื่องประชาชนที่ดูแล้วเหมือน "เหยื่อ" มากกว่าเหมือน "อาชญากร"
2. เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนไม่น้อยถุกกลั่นแกล้งจากตำรวจผู้ใหญ่ จากนักร้อง (พวกที่ชอบร้องเรียน ) ผู้มีอิทธิพลทางการเงิน และอิทธิพลในรูปแบบต่างๆ .....ดังนั้นเจ้าหน้าที่ อาจจะปล่อยผู้ต้องหา (ประเภทที่พกพามีดไป โดยไม่ได้คิดก่ออาชญากรรม) ไปบ้างก็ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลในข้อนรี้ หรือข้อแรกก่อนหน้านี้
ยกมาจาก http://strikebacktactics.com/forums/index.php?topic=1511.0
Chi-rashi
26-02-13, 11:40 AM
ขอบคุณกระทู้ดีๆ และทุกความเห็น ... ไว้เป็นข้อมูลครับ
Big_com
27-02-13, 04:11 AM
โฮ้ผมต้องขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านอย่างมากที่เข้ามาร่วมกันแชร์แลกเปลี่ยนทัศนคติต่อกัน. ทีแรกผมตั้งกระทู้นี้อยากจะเพื่อระบายให้คนอื่นฟังบ้างไม่คิดว่าจะมีใครสนใจ. ตรงกันข้ามเลย. ทุกคนล้วนแต่สนใจ และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลต่อกัน. ผมรู้สึกดีมากที่ได้มาอยู่ในบ้านแห่งนี้ครับ. ค่อยรู้สึกหน่อยว่าไม่ได้มีผมคนเดียวที่เครียดและสนใจในปัญหาแบบนี้
Powered by vBulletin® Version 4.2.3 Copyright © 2025 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.