ตาเกิ้น
17-03-13, 09:52 AM
เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาได้นั่งสนทนากับสหายหลายๆท่าน หัวข้อเรื่องที่สนทนาไหลออกไปสู่เรื่องของนายพรายผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งผู้มีนามว่า Jim Corbett จึงขอเอามาเล่าสู่กันฟังในที่นี้ครับ
http://www.irisresorts.com/images/jimcorbettphoto.jpg
หลายคนกล่าวถึงเคอเนิล จิม คอร์เบ็ท ในฐานะพรานและนักอนุรักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในศตวรรตที่ผ่านมา
จิมเป็นชาวอังกฤษที่เกิดในอินเดียตอนเหนือในช่วงประมาณร้อยปีที่แล้ว ป่าดงของอินเดียเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วยังแน่นทึบ ชาวบ้านอยู่กันอย่างกระจัดกระจายในป่า หมู่บ้านที่อยู่ห่างกันสามารถไปมาหาสู่กันได้ด้วยการเดินเพียงอย่างเดียว ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่า ประมาณกันว่าในขณะนั้นมีเสืออยู่ถึง 40,000ตัวในอินเดีย
บ่อยครั้งที่เสือบางตัวกลายเป็นเสือลำบากจากฝีมือของคนหรือสัตว์ด้วยกันและ ได้เปลี่ยนพฤติกรรมมาล่าคนเป็นอาหารเพราะคนเป็นสัตว์ที่ไล่จับได้ง่ายที่สุด ด้วยความฉลาดของเสือและความกว้างใหญ่ของพื้นที่ทำให้เสือบางตัวกินคนไปถึงกว่า400คนก่อนที่มันจะจบชีวิตลง
ทุกวันนี้เรามองว่าการล่าเสือเป็นการทำลายสมดุลย์ธรรมชาติอย่างร้ายแรงเนื่องด้วยเสือมีเหลืออยู่ในธรรมชาติน้อยมาก แต่เมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนี้เราคงต้องทำความเข้าใจถึงสภาพความเป็นจริงในขณะนั้นที่แตกต่างไปจากปัจจุบัน
ลองจินตนาการว่าคุณเกิดในหมู่บ้านกลางป่าตอนเหนือของอินเดียในปี 1910 ไม่มีไฟฟ้าไม่มีถนน เกือบทุกเช้าจะมีข่าวร้ายให้ได้ยินว่ามีคนที่คุณรู้จักในหมู่บ้านเดียวกันหรือใกล้เคียงถูกเสือคาบไปกลางดึกขณะที่นอนอยู่ในบ้าน แล้ววันหนึ่งขณะที่คุณนอนอยู่กับพี่น้องและพ่อแม่ในความมืดสนิท คุณตื่นขึ้นเพราะเสียงหวีดร้องและมองเห็นเพียงเงาดํามืดที่กระโจนออกนอกบ้านไป หลังจากนั้นคุณถึงได้รู้ว่าพี่น้องของคุณคนหนึ่งพึ่งถูกเสือคาบไปเหลือทิ้งไว้เพียงรอยเลือด
ทั้งหมดนี้มิได้เป็นเพียงจิตนาการแต่หากเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นซํ้าแล้วซํ้าอีก ในสถานะการณ์เช่นในสายตาคุณจิม คอร์เบ็ทจะไม่ได้เป็นพรานที่ชอบทำลายชีวิตสัตว์ แต่หากเป็นตัวแทนของพระเจ้าที่ถูกส่งมาช่วยเหลือชีวิตมนุษย์
จิม คอร์เบทเขียนหนังสือเล่าเรื่องเสือกินคนที่เขาได้เผชิญหน้าไว้หลายเล่ม เช่น Man-eater of Kumaon, The man-eating Leopard of Rudraprayag, The Temple Tiger, Jungle Lore เป็นเรื่องจริงที่ตื่นเต้นกว่านิยายเสียอีก ด้วยด้วยสำนวนอันละเมียดละมัยและความละเอียดในการเล่าเรื่องของจิมจะทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพของป่าอินเดียเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความชำนาญในเรื่องป่าดงของจิมจนทำให้คุณคิดว่านี้คือรพินทร ไพรวัลย์(ภาคอินเดีย) ที่มีตัวตนอยู่จริง
http://2.bp.blogspot.com/_7GiXxdrk8bk/TMbhonsbX-I/AAAAAAAACew/LnPz9PSB2Oo/s400/Jim-Corbett-with-slain-maneater.jpg
http://www.explore-india.net/images/jim_corbett.jpg
ถึงแม้จะทำหน้าที่เป็นพรานล่าเสือกินคนเพื่อปกป้องชาวบ้าน จิมกลับเป็นคนที่รักและหวงแหนธรรมชาติอย่างจริงจัง จิมเป็นผู้ที่มีส่วนในการก่อตั้งเขตป่าอนุรักษ์ของอินเดีย จนกระทั่งชื่อของเขาได้ถูกนำมาตั้งเป็นเขตุรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในตอนเหนือของอินเดีย ซึ่งก็คือพื้นที่เดิมที่จิมเคยเดินท่องป่าอยู่นั้นเอง
จิมเสียชีวิตในอัฟริกาเมื่ออายุ 80 ในปี 1955ด้วยโรคหัวใจ เวลานี้จิมก็คงจะอยู่ในที่ๆเขาเรียกว่า Happy Hunting Ground
หนังสือของจิมเคยมีการแปลและพิมพ์เป็นภาษาไทยเมื่อนานมาแล้วปัจจุบันนี้คงจะหาได้ยาก ส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษยังหาซื้อจาก Amazon.com ได้ทุกเล่ม ใครมีโอกาสลองหามาอ่านกันนะครับ หนังสือดีมากๆ
http://www.irisresorts.com/images/jimcorbettphoto.jpg
หลายคนกล่าวถึงเคอเนิล จิม คอร์เบ็ท ในฐานะพรานและนักอนุรักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในศตวรรตที่ผ่านมา
จิมเป็นชาวอังกฤษที่เกิดในอินเดียตอนเหนือในช่วงประมาณร้อยปีที่แล้ว ป่าดงของอินเดียเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วยังแน่นทึบ ชาวบ้านอยู่กันอย่างกระจัดกระจายในป่า หมู่บ้านที่อยู่ห่างกันสามารถไปมาหาสู่กันได้ด้วยการเดินเพียงอย่างเดียว ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่า ประมาณกันว่าในขณะนั้นมีเสืออยู่ถึง 40,000ตัวในอินเดีย
บ่อยครั้งที่เสือบางตัวกลายเป็นเสือลำบากจากฝีมือของคนหรือสัตว์ด้วยกันและ ได้เปลี่ยนพฤติกรรมมาล่าคนเป็นอาหารเพราะคนเป็นสัตว์ที่ไล่จับได้ง่ายที่สุด ด้วยความฉลาดของเสือและความกว้างใหญ่ของพื้นที่ทำให้เสือบางตัวกินคนไปถึงกว่า400คนก่อนที่มันจะจบชีวิตลง
ทุกวันนี้เรามองว่าการล่าเสือเป็นการทำลายสมดุลย์ธรรมชาติอย่างร้ายแรงเนื่องด้วยเสือมีเหลืออยู่ในธรรมชาติน้อยมาก แต่เมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนี้เราคงต้องทำความเข้าใจถึงสภาพความเป็นจริงในขณะนั้นที่แตกต่างไปจากปัจจุบัน
ลองจินตนาการว่าคุณเกิดในหมู่บ้านกลางป่าตอนเหนือของอินเดียในปี 1910 ไม่มีไฟฟ้าไม่มีถนน เกือบทุกเช้าจะมีข่าวร้ายให้ได้ยินว่ามีคนที่คุณรู้จักในหมู่บ้านเดียวกันหรือใกล้เคียงถูกเสือคาบไปกลางดึกขณะที่นอนอยู่ในบ้าน แล้ววันหนึ่งขณะที่คุณนอนอยู่กับพี่น้องและพ่อแม่ในความมืดสนิท คุณตื่นขึ้นเพราะเสียงหวีดร้องและมองเห็นเพียงเงาดํามืดที่กระโจนออกนอกบ้านไป หลังจากนั้นคุณถึงได้รู้ว่าพี่น้องของคุณคนหนึ่งพึ่งถูกเสือคาบไปเหลือทิ้งไว้เพียงรอยเลือด
ทั้งหมดนี้มิได้เป็นเพียงจิตนาการแต่หากเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นซํ้าแล้วซํ้าอีก ในสถานะการณ์เช่นในสายตาคุณจิม คอร์เบ็ทจะไม่ได้เป็นพรานที่ชอบทำลายชีวิตสัตว์ แต่หากเป็นตัวแทนของพระเจ้าที่ถูกส่งมาช่วยเหลือชีวิตมนุษย์
จิม คอร์เบทเขียนหนังสือเล่าเรื่องเสือกินคนที่เขาได้เผชิญหน้าไว้หลายเล่ม เช่น Man-eater of Kumaon, The man-eating Leopard of Rudraprayag, The Temple Tiger, Jungle Lore เป็นเรื่องจริงที่ตื่นเต้นกว่านิยายเสียอีก ด้วยด้วยสำนวนอันละเมียดละมัยและความละเอียดในการเล่าเรื่องของจิมจะทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพของป่าอินเดียเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความชำนาญในเรื่องป่าดงของจิมจนทำให้คุณคิดว่านี้คือรพินทร ไพรวัลย์(ภาคอินเดีย) ที่มีตัวตนอยู่จริง
http://2.bp.blogspot.com/_7GiXxdrk8bk/TMbhonsbX-I/AAAAAAAACew/LnPz9PSB2Oo/s400/Jim-Corbett-with-slain-maneater.jpg
http://www.explore-india.net/images/jim_corbett.jpg
ถึงแม้จะทำหน้าที่เป็นพรานล่าเสือกินคนเพื่อปกป้องชาวบ้าน จิมกลับเป็นคนที่รักและหวงแหนธรรมชาติอย่างจริงจัง จิมเป็นผู้ที่มีส่วนในการก่อตั้งเขตป่าอนุรักษ์ของอินเดีย จนกระทั่งชื่อของเขาได้ถูกนำมาตั้งเป็นเขตุรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในตอนเหนือของอินเดีย ซึ่งก็คือพื้นที่เดิมที่จิมเคยเดินท่องป่าอยู่นั้นเอง
จิมเสียชีวิตในอัฟริกาเมื่ออายุ 80 ในปี 1955ด้วยโรคหัวใจ เวลานี้จิมก็คงจะอยู่ในที่ๆเขาเรียกว่า Happy Hunting Ground
หนังสือของจิมเคยมีการแปลและพิมพ์เป็นภาษาไทยเมื่อนานมาแล้วปัจจุบันนี้คงจะหาได้ยาก ส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษยังหาซื้อจาก Amazon.com ได้ทุกเล่ม ใครมีโอกาสลองหามาอ่านกันนะครับ หนังสือดีมากๆ