View Full Version : มีดใบตาย Busse Knife Natural Outlaw
pronthep
10-04-13, 04:19 PM
วันนี้ขอเสนอมีดใบตายจากค่ายนอก Busse Knife รุ่น Natural Outlaw เชิญชมกันได้เลยครับ
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse01_zps6c815e0f.jpg
แกะห่อมาก็เจอแบบนี้เลย ทางค่ายนี้เค้าไม่ทำซองให้ ขายแต่ตัวมีดอย่างเดียว ลูกค้าต้องเอาไปทำซองเอาเอง
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse02_zps13fe2b56.jpg
ข้างในกระดาษ มีตาข่ายพลาสติกป้องกันไว้อีกชั้นนึง ยังดีว่าส่งมาถึงผมได้อย่างปลอดภัย ไม่ไปบาดมือพนักงานไปรษณีย์เข้าซะก่อน อิอิ
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse03_zpsfe86794a.jpg
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse04_zpscbb6874c.jpg
ตัวเต็มๆเป็นแบบนี้
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse05_zpse3f4ca6f.jpg
ใบมีดยาว 7 นิ้ว
ใบมีดหนา 6.35 mm.
ความยาวรวม 12.87 นิ้ว
น้ำหนัก 19.0 oz.
เหล็กใช้ทำใบมีด INFI ค่าความแข็งประมาณ 58-60 HRC
ด้ามจับ Black, Gray, Red Micarta
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse06_zpsb5f61108.jpg
ตัวมีดเป็นแบบ Full Tang หนาดี แต่ก็นั่นแหละ หนักด้วย ด้ามจับถ่ายแนวนี้ ลวดลายสวยดี
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse07_zpse33fba43.jpg
This fixed blade has grey, black and red G-10 scales. Full tang construction with just under a 1/4" blade stock
and 1 7/8" blade depth. Satin finish blade. Brand new from the maker at the 2012 Blade Show.
pronthep
10-04-13, 04:20 PM
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse08_zps6a56d175.jpg
ย้อนกลับไปช่วงปลายปี 1970 Jerry Busse ได้เริ่มต้นทำมีดแบบ custom knives ขึ้นมา เริ่มทำกันในห้องขนาดเล็ก ที่ผนังไม่มีฉนวนกันความร้อน
อบชุบใบมีดด้วยน้ำเพียงอย่างเดียว ในเวลาต่อมาเมื่อเขาเรียนจบปริญาตรี ในปี 1982 เขาได้เริ่มต้นอาชีพเป็น ช่างทำมีด แบบเต็มตัว
เขาทำงานมีดช่วงเวลาปกติ และยังมีเวลาที่จะศึกษาต่อในช่วงค่ำด้วย จนได้รับปริญาเพิ่มอีกสองใบ จากมหาวิทยาลัยที่ต่างกัน
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse09_zps5bd871b8.jpg
ในปี 1991 Jerry ได้พบกับ Jennifer ในขณะที่เขากำลังสอนหนังสืออยู่ที่รัฐ Michigan และพวกเขาก็ได้แต่งงานกันในปีถัดมา (เร็วจัง)
ในปี 1992 พวกเขาก็ร่วมกันเปิดบริษัท Busse Combat Knife และได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันเพื่อทำงานมีดร่วมกัน และได้ใช้เครื่อง CNC
มาช่วยในงานมีดด้วย พวกเขาทำมีดรุ่นมารตฐาน ออกมามากมายในราคาที่ไม่แพง ผสมผสานการทำมีดแบบยุคเก่าที่ใช้คนทำ
ทำงานร่วมกันกับเครื่อง CNC ทำให้บริษัทสามารถผลิตมีดที่มีประสิทธิภาพสูง และมีการเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse10_zpsca7ec8ab.jpg
พวกเขาได้เปิดโรงงานใหม่ และเติบโตจากร้านมีดที่มีช่างมีดเพียงคนเดียวให้ทันสมัยมากขึ้น และเพิ่มสายการผลิต เป็นแบบอัตโนมัติ
ในขณะที่บริษัทกำลังเติบโตนั้น Jerry และ Jennifer ก็ยังมุ่งมั่นที่จะหา นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับ Busse Combat ต่อไป
หลังจากนั้น Jennifer ก็จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ และทำงานด้านการตลาดไปพร้อมๆกัน ในขณะที่ Jerry ยังคงค้นคว้าเรื่องโลหะวิทยา
และเทคโนโลยี CNC ต่อไป
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse11_zps3f283029.jpg
มีดรุ่นต่อมา ของสายการผลิตมีดจาก Busse combat ในที่นี้ จะกล่าวถึง การอบชุบมีดของ Busse ในรุ่นที่สองนี้ ได้มีการปรับปรุงด้ามจับ
เคลือบผิวที่ดีขึ้น และซอง ก็ดีขึ้นด้วย มีดรุ่น Natural Outlaw นี้ น่าจะเป็นมีดขนาดกลางของสายการผลิตจาก Busse มาพร้อมด้วยใบมีด 6 นิ้ว
ความยาวรวม 11.5 นิ้ว มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากจะมีมีดของ Busse
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse12_zpse3cb7449.jpg
แต่ถ้าเทียบกับความต้องการการใช้งาน และเรื่องการอบชุบเหล็กแล้ว คนที่ซื้อไปจะได้มากกว่าที่คาดหวังไว้ หมายความว่า
ใครที่มีมีดรุ่น Natural Outlaw นี้ คุณก็จะได้ข้อดีทุกอย่างของ Busse ติดไปด้วย ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบมีดที่บึกบึนเหมือนรถถัง อย่างไรก็ตาม
มันก็ต้องดูเรื่อง ผิวมีด และน้ำหนักด้วย ถ้ามันเบา และ สั้น มันก็เหมาะที่จะเป็น มีดแคมป์ปิ้ง ดังนั้น น้ำหนักของมีดจึงเป็นเรื่องสำคัญ
เพื่อแบ่งไปตามการใช้งานแต่ละประเภท
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse13_zps87590e52.jpg
ภาพนี้โชว์สมดุลย์การปาดใบมีด งามแจ่ม
http://i1241.photobucket.com/albums/gg509/pronthep_t/Blade%204/Busse14_zps36359471.jpg
สำหรับ Natural Outlaw รุ่นนี้ ผมว่ามันเยี่ยมมาก เป็นมีดลุยงานหนัก อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่มันก็ให้ความพึงพอใจในแบบที่มีดควรจะเป็น
ถ้าคุณต้องการมีด Busse มันจะมาพร้อมกับความใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดาเลยของมีดจากค่าย Busse สำหรับด้ามจับมีดยุคที่สองนี้
ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ยังคงใช้ Micarta เป็นวัสดุหลัก เพียงแค่เล่นลวดลาย และสีสรรเท่านั้น มันไม่สะดวกสบาย
แต่มันให้ประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับยุคแรก ที่ด้ามจะตรงๆ
ใบมีด 6 นิ้ว หนา 0.25 นิ้ว มาในทรง drop point ใบมีดทำจากเหล็ก INFI มันแข็งแกร่งมาก และตั้งคมมาได้ดี เป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่มีใครเหมือน
นั่นคือ Semi-Convex (asymmetrical convex) เป็นมารตฐานการตั้งคม ของมีดจาก Busse combat knives ทุกเล่ม
ยังมีข้อมูลอีกมากมายเกี่ยวกับการตั้งคมของ Busse semi-convex knives สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bladeforums.com
ในทางเดียวกันเรื่องข้อมูลของเหล็ก INFI ก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มได้ที่ bladeforums.com & Cliff Stamp's article Busse Battle Mistress.
ข้อความข้างต้นแปลมาจากผู้ขายนะครับ อาจจะติดคำโฆษณาไปบ้าง สำหรับตัวผมเอง มีดค่ายนี้ เพิ่งมีเล่มนี้เล่มแรกนี่แหละ สัมผัสแรกที่ได้รับคือ
มันช่างเป็นมีดที่ หนา และ หนัก ดูจะทนทานการใช้งาน ดูใหญ่ๆแบบนี้ ผมเอามาโกนขนแล้ว โกนได้ขาดหมดตลอดช่วงความคม ทำหล่นใส่นิ้ว
ความสูงซัก 1 ไม้บรรทัดนะ นิ้วขาดชนิดรอยแผลต่อง่ายแน่นอน (เคยได้ยินมาว่ายิ่งรอยขาดคมยิ่งต่อง่าย) หุหุ ด้ามจับทำมาลวดลายสวยดี
เหล็กที่ใช้ทำใบมีด หาข้อมูลไม่เจอ เหมือนเป็นสูตรลับของทางบริษัท Busse เค้า แต่งานเนี้ยบมาก คุ้มราคาจริงๆ เล่มหน้า Tanto Balisong :)
Powered by vBulletin® Version 4.2.3 Copyright © 2025 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.