TOORC: ThailandOutdoor Off-Road Club ช่วยเพื่อนเลือกซื้อรถไว้เข้าป่า ตอน Mitsubishi Pajero

[ตาเกิ้น]

หลังจากเปิดตัวได้สองปี Misubishi Pajero ก็เริ่มเข้าร่วมการแข่งขัน Rally ที่เรารู้จักกันในชื่อ Paris - Dakar ในปี 1983


การแข่งขันแรลลี่สุดทรหดนี้ เป็นการเดินทางข้ามทะเลทรายที่สุดแห้งแล้งทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา เป็นระยะทางกว่า 10,000 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 3 สัปดาห์ :eek:

ในปีแรกที่เข้าแข่งขัน Misubishi Pajero เข้าแข่งในรุ่น standard rim ซึ่งก็หมายถึงว่าต้องเป็นรถปรกติที่ใช้กันบนถนนในชีวิตประจำวันจะดัดแปลงได้ก็เพียงเล็กน้อย และอยู่ใน Marathon Class ซึ่งก็หมายถึงว่าสามารถซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ได้น้อยมากตลอดการเดินทาง แม้่จะไม่ได้รางวัลกลับบ้านในการแข่งขันครั้งแรก แต่การที่สามารถผ่านเส้นทางนี้ได้สำเร็จในครั้งแรกของการแข่งขัน ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ารถปาเจโร่เดิมๆจากโรงงานนั้นมีความทนทรหดขนาดไหน

และโดยที่ไม่มีใครคาดคิด อีกสองปีต่อมา ในปี 1985 บนเส้นทาง Paris-Algiers -Dakar ระยะทางกว่า 14,000 กิโลเมตร ปาเจโร่ก็ชนะการแข่งขันโดยเข้าเป็นที่หนึ่งและที่สองของรุ่น Top Modified
http://www.mitsubishi-motors.com/corporate/museum/motorsports/e/85.gif
http://www.mitsubishi-motors.com/corporate/museum/autogallery/e/history/images/pajero_paris_01.jpg
http://cache.pakwheels.com/forums/2010/attachments/Wheels-Fan-Clubs/56209-Mitsubishi-Pajero-Fan-Club-to-be-ps-effect.jpg

จากนั้นเป็นต้นมาปาเจโร่ก็มีชื่ออยู่ในท็อปเทนของการแข่งขัน Paris-Dakar ทุกปี จนกลายเป็นรถที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันรายการนี้ และนั่นก็ทำให้ปาเจโร่ได้ชื่อว่าเป็น "รถยนต์ Off-Road สมรรถนะสูง ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก"
http://www.motorshow.me/GalleryPics/30000/B32367.jpg

[ตาเกิ้น]

Mitsubishi Pajero รุ่นแรก ที่ตอนนี้มีชื่อเล่นแบบไทยๆว่า "ปาเหลี่ยม" นั้นเปิดตัวใน Tokyo Mortor Show ในปี 1981 และออกวิ่งบนถนนในปีถัดมา

http://3.bp.blogspot.com/_rhLRTZsb7WI/S2wDMatfSNI/AAAAAAAAAfI/EeOrkKOKEL4/s1600/DSCN6105.JPG

โดยที่รุ่นแรกที่เปิดตัวเป็นรุ่น 3 ประตู ช่วงสั้น จนกระทั่งปี 1983 จึงได้เปิดตัวรุ่น 5 ประตูที่เราคุ้นตากัน

ด้วยชื่อเสียงจากการแข่งขันทริปทรหด ประกอบกับความลงตัวของรถที่มีช่วงล่างนุ่มนวลเหนือกว่ารถ 4x4 ญี่ปุ่นอื่นๆที่ดัดแปลงมาจากรถกระบะอยู่หลายขุม และมีอุปกรณ์ตกแต่งภายในที่สวยงามไม่แพ้รถเก๋งในยุคเดียวกันทำให้ปาเจโร่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

ในเมืองนอกปาเจโร่รุ่นนี้มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ
2.0-litre 4-cylinder petrol (2000/2.0)
2.6-litre 4-cylinder petrol (Astron 2.6)
2.3-litre naturally aspirated diesel (2300 D)
2.5 liter turbocharged diesel (2500 TD/2.5 TD). 4D56
3.0 liter V6 petrol (3000/3.0).

แต่รถที่ประกอบในบ้านเรา มีเครื่องยนต์ให้เลือกเพียงสองแบบคือ
4G54 เบนซินขนาด 2,555 cc
ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร ไม่ทีเทอร์โบ (เป็นเครื่องที่วางในรถกระบะ L-200 ในยุคนั้น)

ถ้าใครบางคนที่กำลังคิดจะหารถคลาสสิคที่ใช้เข้าป่าได้สักคัน ตอนนี้ปาเหลี่ยมนับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะตัวรถยังหาได้ราคาไม่แพง อะไหล่ก็ไม่มีปัญหา จะหาเครื่องแรงๆมาวางก็ไม่ยาก

เอาไว้ให้สมาชิก ค.ย.ส. คนอื่นๆมาต่อบ้าง เราทำงานกันเป็นทีมครับ ;)

[ลมมันแรง]

มาเร็วเลยนะ
:D:D:D

[Tua_Kub]

ถ้าเป็นผมเลือก คงจะเลือกไม่ถูก
:D

[หนูเล]

ชื่อเสียงอันโด่งดังของ"ปาเหลี่ยม" ดีเซล นอกจาก รูปทรงคลาสิค ทนทาน และช่วงล่างที่มีสมรรถนะสูงกว่ารถกระบะ 4x4 แล้ว คือ "ออกตัวช้า" (แปลได้ว่าอืด:p)
เครื่องดีเซลที่วางในปาเหลี่ยม เป็นเครื่องรหัส 4D56 (ไม่มี Turbo) ซึ่งแปลกว่า ปาเหลี่ยมที่ขายในประเทศอื่นที่วางเครื่องดีเซลเป็น 4D56T มีเทอร์โบมาช่วยเพิ่มแรงม้า จาก 68HP เป็น 90HP ...นัยว่าคงกลัวว่าวางเครื่องเทอร์โบแล้วจะมีปัญหาจุกจิกตามมา...
ซึ่งเรื่องนี้เป็นอะไรที่ชาวบ้าน(ในอดีต)ด่าทอ มิตซูเมืองไทยมาก เพราะไม่ยอมเอาเครื่องดีเซลที่มีโบว์มาใช้ ไม่ว่าจะในปาเหลี่ยม หรือในรถกระบะที่ขายในเมืองไทย (ตัวที่ส่งออกเครื่องมีโบว์ทุกตัว:mad:)
http://www.google.co.th/url?source=imglanding&ct=img&q=http://www.tsnclub.com/images/column_1256634305/1256634388tsnclubcom1.jpg&sa=X&ei=xgpyTpnZMYOrrAfBj9iXBw&ved=0CAYQ8wc4NA&usg=AFQjCNHT26Bo0ZlY1tf43uGGk-oZ04PZtA
เครื่อง 4D56T มีโบว์ แต่ไม่อินเตอร์คูล

คำถามบนโต๊ะลาบส้มตำ ที่เพื่อน(รุ่นพี่)ที่กำลังเล็งว่าจะหาเจ้าปาเหลี่ยมมา"ทำใหม่" แต่ติดว่าจะวางเครื่องอะไรดี เพื่อให้มีสมรรถนะเร่งแซงได้
หลังจากไปทำการบ้านมา คำตอบก็คือ เจ้าเครื่องมิตซู รหัส 4D56 ตัวนี้แหล่ะครับ..... เหมาะสุด

เพราะเครื่อง 4D56 เป็นเครื่องดีเซลความจุ 2,500cc และเป็นเครื่องตัวเก่งของ Mitsubishi ก็ว่าได้...เพราะเครื่องตัวนี้ผลิตออกมาใช้งานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปัจจุบัน!! (ไม่เชื่อไปดู spec เครื่องยนต์ Pajero Sport รุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นเครื่อง 2500cc ก็ได้ !!!!:D )
http://www.google.co.th/url?source=imglanding&ct=img&q=http://www.caronline.net/Images/Uploaded/10232053.jpg&sa=X&ei=FAtyTpaADM7MrQeblfzuBg&ved=0CAcQ8wc&usg=AFQjCNGKzVPHG2oSHOflqpVxKw2OFf4nPA
อันนี้ก็รหัสเครื่อง 4D56 เหมียนกัน..

ลองมาดูกันครับว่าเครื่อง 4D56 นั้นถูกพัฒนาไปแค่ไหนในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
4D56 ไม่โบว์ ที่วางในปาเหลี่ยมเมืองไทย
Power - 51 kW (68 hp) at 4,200 rpm

4D56 โบว์แบบไม่คูล Non-intercooled Turbo (TD04 Turbo) วางในปาเหลี่ยมขายใน ตปท.
Power - 90 hp (67 kW) at 4,200 rpm

4D56 โบว์แบบคูล Intercooled Turbo (TD04 watercooled Turbo) วางในปาเหลี่ยมขายใน ตปท.
Power - 78 kW (104 hp) at 4,200 rpm

เครื่อง 4D56T (และ Intercooled T) ก็ยังเป็นเครื่อง ทน/ถูก ที่วางในปาเจโร Gen 2 (โชกุน) และ Gen 3 เพื่อเป็นทางเลือกที่ขายในหลายประเทศที่ต้องการเครื่องยนต์ cc ต่ำ แต่เมื่อมาถึง ปาเจโร Gen 4 เครื่องรหัส 4D56 ก็ถูกถอดออกไป นัยว่า "แรงไม่พอ" และกลายเป็นเครื่องม้าใช้ ที่เอาไว้ใส่รถกระบะ cc ไม่สูง

แต่นั่นแหล่ะเครื่องดีซะอย่าง วิศวกรมิตซูก็เลยเอาเครื่อง 4D56 ไปติด หัวฉีดอิเลคทรอนิคส์เข้าไป ให้ "ม้า"มันออกมาเยอะ หน่อย
Intercooled Turbo (1st Generation DI-D)
Power - 85 kW (114 hp) at 4,000 rpm

และก็เอา "รางร่วม" มาติดเข้าไป ม้าก็มาอีก 20 กว่าตัว
Intercooled Turbo (2nd Generation DI-D)
Power - 104 kW (139 hp) at 4,000 rpm
Torque - 320 N·m (236 ft·lb) at 2,000 rpm

พอเอา "โบว์แปรผัน" มารวมกับ "รางร่วม" คราวนี้ม้าครอกใหญ่ๆ ก็อยู่ในเคร่ือง 2,500cc แล้วครับ
Intercooled Turbo (3rd Generation DI-D with variable geometry turbo)
Power - 130 kW (175 hp) at 4,000 rpm
Torque - 400 N·m (295 ft·lb) at 2,000 rpm

ดังนั้นถ้าพี่หาเครื่อง 4D56 รุ่นหลาน มาแทนรุ่นคุณปู่ ที่ไม่มีโบว์ แล้ว รับรองวิ่งฉิวครับ...ที่สำคัญ Block เท่ากัน ไม่ต้องแปลง!!!!

[Tu555]

ดูเครื่อง ร้อยเจ๊ดสิบกว่าแรง มากกว่าเดิมมาอีกเท่านึง
น่าจะขับสบายครับพี่ ถ้าแปดสิบแรงเบื่อตาย:)

[วิธ]

:p:p:p ที่มาของกระทู้ชวนบานนี้น่าจะมาจากโต๊ะเบียร์ดำเมื่อคืนแหงๆ(เมื่อคืนรอดเพราะโดนคุณนายตามกลับบ้าน) และเป้าหมายน่าจะเป็นท่านเจ้าคุณ

[Tula]

โปรเจคใครอะครับ อิอิอิอิ อยากรู้:rolleyes:

[ตาเกิ้น]

มายลโฉมกันหน่อย
http://www.4x4wire.com/mitsubishi/featured_mitsu/crobinson/CR_Front.jpg
http://img200.imageshack.us/img200/8272/autowprumitsubishipajern.jpg
http://img200.imageshack.us/img200/6403/autowprumitsubishipajer.jpg

http://img195.imageshack.us/img195/6403/autowprumitsubishipajer.jpg
http://img136.imageshack.us/img136/976/1988l2.jpg
http://img208.imageshack.us/img208/6403/autowprumitsubishipajer.jpg
http://www.4x4wire.com/mitsubishi/featured_mitsu/crobinson/CR_Back.jpg
http://www.4x4wire.com/mitsubishi/featured_mitsu/crobinson/CR.jpg

ตัวนี้ก็น่าสนแฮะ ใช้ช่วงล่างเดียวกันเลย
http://img12.imageshack.us/img12/7051/841096.jpg
http://img183.imageshack.us/img183/9063/871093.jpg

[หนูเล]

ช่วงล่างของปาเหลี่ยม(ช่วงยาว ที่จำหน่ายในเมืองไทย) นั้น อาจจะไม่ได้ "วิลิศมาหรา" เหมือนรถ Off Road ยุคใหม่ๆครับ โดยข้างหน้าเป็น Torsion Bar และข้างหลังเป็นแหนบ
http://i527.photobucket.com/albums/cc357/Everything_4WD/Ironman-TL.jpg
ภาพชุดยกช่วงล่างของปาเหลี่ยม
อาจจะไม่ได้เป็นช่วงล่างที่ชาว Off Road ไฝ่ฝัน คือ คานแข็ง หน้า/หลัง หรือที่นักเลงอ๊อฟโรดเรียกกันว่า "รถสองเพลา" แต่ก็ดีพอที่จะพาเจ้าของไปเที่ยวทุกที่บนทางดำและบนทางดินครับ
อาจจะไม่ได้ลงหลุมแล้วลื่นไหล ให้ตัวสุดๆ หรือวิ่งทางขุขระแล้ว "นิ่มก้น" สุดๆ แต่ก็แลกมาเรื่องความทนทาน /บำรุงรักษาง่ายครับ

เอาเป็นว่าช่วงล่างแบบนี้ถูกใช้ในรถกระบะบ้านเรามานาน... จนเมื่อ 3-4 ปีหลังจึงเปลี่ยนเป็น "หน้าคอล์ยสปริง หลังแหนบ" ครับ
ถ้าเพื่อน TOORC ไปได้เจ้า ปาเหลี่ยม สภาพ"เดิมๆ" มา สิ่งหนึ่งที่น่าพิจารณาคือการปรับปรุง ระบบช่วงล่างครับ
เพราะด้วยน้ำหนักตัวรถที่มากโข บวกอายุอานามที่ไม่น้อย ทำให้แหนบที่ติดมากับรถมักจะล้า.. เมื่อแหนบล้า การให้ตัวก็ลดลง ความสะเทือนก็เข้ามาเยือนครับ
และถ้าเราอยากใส่รองเท้าหล่อ ยางเบอร์ใหญ่กว่าเดิมสัก 1-2 นิ้วแล้ว การเปลี่ยนช่วงล่างเป็นชุดยก (ที่ทำให้รถสูงขึ้น) ก็เป็นทางเลือกหนึ่งครับ
(จริงๆปาเหลี่ยม สามารถทำการยกความสูงรถ โดย"ยกตัวถัง" ได้ 2-3 นิ้ว ครับ แต่ถ้าช่วงล่างเดิมเสื่อมสภาพแล้ว เชียร์ให้เพิ่มความสูงด้วยชุดยกครับ)
เท่าที่สำรวจตลาด คร่าวๆ ชุดยกของปาเหลี่ยมก็มีอยู่หลายค่ายครับ (แต่อาจจะเริ่มหายากตามจำนวนรถบนถนน) แต่ถ้าให้ผมเลือกชุดยกที่ Editorใช้ก็เป็นตัวนี้ครับ
http://img18.imageshack.us/img18/9479/heronitrojpg.jpg
:D:D

[Tu555]

รถตู้สวยมากเลยครับ:)

[หนอน]

ข้อมูลเพียบ เป็นกระทู้ที่น่ากลัวมาก :eek: ขอเป็นเด็กท้ายรถละกันนะครับ:D

[ton]

ยอมรับว่าตอนหารถเข้าป่า ก็เล็งปาเจโร่ ทั้งเหลี่ยม ทั้งโชกุน
เนื่องจากเป็นรถญี่ปุ่น ดูแลง่าย อะไหล่ถูก ราคาไม่แพงมาก พ่อตาชอบ :confused:
แต่เพราะโชคชะตาเล่นตลกซะก่อน ไม่งั้นก็ต้องถอย ปาเจโร่ แล้วล่ะครับ :D

[ลมมันแรง]

อืมม์ มมมมมมมม ดูๆไปมันก็สวยขึ้นเรื่อยๆ นะ
หากเครื่อง ดีเซล มีประวัติเป็นเช่นนี้ เราก็สามารถ โมดิฟาย ให้มี สมรรถนะ ดังรุ่นปัจุบันได้ ไม่ยาก
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ (เสียงหัวเราะแบบ อำมหิต "เลียนแบบ หมอพลอย")
สงสัย จะโดน เดี๋ยวหาอู่ ที่ชำนาญก่อน
อิๆๆๆๆ (เสียงในลำคอ แบบมีเลศนัย)
:p:p:p:p