มารกิ
28-09-11, 09:15 AM
:rolleyes: เมือหลายวันผ่านมา คืนไหนก็จำไมได้แล้ว ผมได้เห็นละครในทีวีเรื่องนึงเป็นเรื่องทางเหนือ เจ้าๆไรนี่ละ ในละครมีฉากที่ต้องมีผีออกมาด้วย .... เป็นผีผู้หญิงผมยาวๆ แต่ลักษณะท่าทางของการออกมาโชว์พาว มันดูเพี้ยนๆเหมือนผีเป็นสันนิบาต ไอ้ผมเห็นแล้วก็ขำ พาลนึกไปไกล :D ... เออ! ทำไมผีเดี๋ยวนี้ต้องเป็นแบบนี้(วะ)
ผีไทย .... เป็นผีที่มีขนบธรรมเนียมและประเพณีปฏิบัติอย่างชัดเจนมานมนาน มีการแบ่งชั้นวรรณะชัดเจน ไม่รู้ว่ารูปแบบของผีไทยที่ทำให้เรารู้สึกและผูดพันนั้นเกิดมีมาแต่เมื่อใด อาจจะเป็นไปได้ว่ารูปแบบมันเห็นและเด่นชัดตั้งแต่สมัยมีการสือสารทางเสียงคือ วิทยุ และต่อมาคือ ภาพยนตร์ทางจอที่เรียกกันว่า "จอเงิน" (ก็เพาะสมัยก่อนจอภาพที่จะรับภาพได้นั้นเค้าต้องฉาบด้วยปรอทเค้าจึงเรียกกันว่าจอเงิน) ต่อมาก็เป็นจอแก้วก็คือทีวี เหล่านี้ที่ทำให้ได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องจินตนาการกันอีก
ผี... ยังต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือลอกเลียนแบบผีต่างชาติด้วยรึไง ... ระยะหลังๆมานี่ ผมเห็นผีต้องออกมาแบบพิกลพิการ คลานมามั่ง ทำตัวเหมือเป็นสันนิบาตออกมามั่ง โธ่.. จะมาหลอกทั้งทีเมิงยังพิการเรยยยย ตะก่อนผีไทยจะออกมาหลอกที เราจะมีอินโทรกันอย่างชัดเจน... หมาหอน พายุมา กลิ่นธูป อินโทรมาเสร็จ ก็เมโลดี้ตามมแล้วก็ท่อนฮุ๊ค ผมว่าเป็นรูปแบบที่น่ากลัวมั่กๆ :p
สมัยเด็กๆ ... วัดหนัง มีงานวัด ผมจะต้องเดินมั่ง ขี่คอมั่งไปหลายขนัดสวนเพื่อจะไปดูหนังงานวัด ไฟฟ้าไม่ต้องถาม เพราะยังไม่มีได้บรรยากาศมั่กๆ ไฟฉาย 2 หรือ 4 ท่อนแบบริบหรี่ ที่เหลือก็ตะเกียงหรือไม่ก็คบมะพร้าว เวลาเดินเราก็จะเดินแย่งกัน หน้า/หลัง เพราะเราว่ากันว่า ผีมันจะมาหลอกคนเดินหลังก่อน ... ตรงไหนที่มีคบไม้ใหญ่ เราก็จะพะวักพะวงกับการที่ผีจะห้อยหัวลงมาจากคบไม้ หรือ ยื่นนมือยาวววลงมา นี่เผพาะขาไปนะครับ ยังไม่ขนหัวลุกเท่าหลังจากดู แม่นาคพระโขนงที่มี ปรียา รุ่งเรือง เป็นแม่นาค ไม่ต้องแต่งหน้า ไม่ต้องมีเอฟเฟคท์ ... แค่เห็นหน้าเธอ ตาคมๆ โตๆ ผมยาวๆ ก็สยองแล้ว
ผีไทย... มีระดับการจัดการของผีอย่างที่ว่าไว้ว่ามีชั้นวรรณะชัดเจน ผีแบบไหนจัดอยู่ในขั้นไหน ผีบางตัวเป็นผีกึ่งเทพ เผ็นผีที่มีอิทธิฤทธิ์มากมาย ผมเพิ่งจะเศร้าใจกับการตีความผีระดับสูง อย่าง "กุมารทอง" ของผู้กำกับบางคนที่ทำออกมาได้แค่นั้น .... ผีอย่างนางตานีหรือ โหงพราย เป็นผีระดับมิสยูนิเวิร์สไม่ใช่ผีพิกลพิการอย่างที่เราเลียนแบบผีต่างชาติมากันทุกวันนี้ เธอต้องสวย หุ่นดี ห่มผ้าสะไบแล้วรัดรึงงดงาม .. เดินเหิน หรือ ลอยมา หายตัวได้อย่างสง่างาม ไม่ใช่คลานออกมาจากใต้ตู้ ข้างถนน จะมาหลอกทั้งทีก็มาแบบเดี้ยงๆ โธ่.. ดูตัวเมิงก่อน แล้วค่อยมาหลอก ... หัดไปดูระบบน็อคดาวน์อย่างกรือสือ หรือ เทคโนโลยี่การบินอย่างกระหังดูบ้าง แล้วทำไมผีญี่ปุ่น ผีเกาหลี ไม่คิดจะพัมนาสายพันธุ์แบบผีไทยบ้างนะ :rolleyes:
ผีไทย... เราจะมีการเข้าจู่โจมและทำร้ายแบบมีศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า คือ เรา "หักคอ" เป็นการจรรโลงไว้ด้วยยุทธวิธีการต้องสู้แบบมือเปล่าที่ทั่วโลกต้องฝึกฝน ผิดกับผีต่างชาติที่จะมาหลอกหลอนกันทีต้องใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเหลือง อยู่ๆ เปิดน้ำจากก็อกให้มันไหลท่วมออกมาเป็นเลือดซะงั้น หรือไม่ก็คนโดนผีอำทำอาการเหมือนเบลอๆ เพ้อๆ ไอ้อาการแบบนี้ สมัยผมรุ่นๆเมิงโดบตบแก้วหูแตก เพราะเมิงไม่ได้โดนผีหลอก อาการแบบนี้เมิง "ดีดแป๊ะ" มามากเกินขนาด ต้องตบให้ฟื้นม่ายก็ส่งนิติเวชไปเลย
มันคงเป็นเรื่องราวของวิวัฒนาการทางสังคมที่แม้กระทั่งผีที่ว่าหลอกหลอนก็ยังหนีไม่พ้นคนหลอกผีอีกทีอยู่ดี หลังๆมานี่ไม่ได้ทำตัวเป็นมนุษย์ค้างคาวมานานมากแล้ว เลยไม่รู้ว่า เดี๋ยวนี้ผีขนุน ผีตลองหลอด ได้วัฒนาการกันไปถึงไหนแล้ว ล่าสุดเห็นแปลงร่างเป็นผีสก๊อยกันแล้ว... เรื่องราวแบบนี้ คงต้องถาม "ไร้จันทร์" :p
ผีไทย .... เป็นผีที่มีขนบธรรมเนียมและประเพณีปฏิบัติอย่างชัดเจนมานมนาน มีการแบ่งชั้นวรรณะชัดเจน ไม่รู้ว่ารูปแบบของผีไทยที่ทำให้เรารู้สึกและผูดพันนั้นเกิดมีมาแต่เมื่อใด อาจจะเป็นไปได้ว่ารูปแบบมันเห็นและเด่นชัดตั้งแต่สมัยมีการสือสารทางเสียงคือ วิทยุ และต่อมาคือ ภาพยนตร์ทางจอที่เรียกกันว่า "จอเงิน" (ก็เพาะสมัยก่อนจอภาพที่จะรับภาพได้นั้นเค้าต้องฉาบด้วยปรอทเค้าจึงเรียกกันว่าจอเงิน) ต่อมาก็เป็นจอแก้วก็คือทีวี เหล่านี้ที่ทำให้ได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องจินตนาการกันอีก
ผี... ยังต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือลอกเลียนแบบผีต่างชาติด้วยรึไง ... ระยะหลังๆมานี่ ผมเห็นผีต้องออกมาแบบพิกลพิการ คลานมามั่ง ทำตัวเหมือเป็นสันนิบาตออกมามั่ง โธ่.. จะมาหลอกทั้งทีเมิงยังพิการเรยยยย ตะก่อนผีไทยจะออกมาหลอกที เราจะมีอินโทรกันอย่างชัดเจน... หมาหอน พายุมา กลิ่นธูป อินโทรมาเสร็จ ก็เมโลดี้ตามมแล้วก็ท่อนฮุ๊ค ผมว่าเป็นรูปแบบที่น่ากลัวมั่กๆ :p
สมัยเด็กๆ ... วัดหนัง มีงานวัด ผมจะต้องเดินมั่ง ขี่คอมั่งไปหลายขนัดสวนเพื่อจะไปดูหนังงานวัด ไฟฟ้าไม่ต้องถาม เพราะยังไม่มีได้บรรยากาศมั่กๆ ไฟฉาย 2 หรือ 4 ท่อนแบบริบหรี่ ที่เหลือก็ตะเกียงหรือไม่ก็คบมะพร้าว เวลาเดินเราก็จะเดินแย่งกัน หน้า/หลัง เพราะเราว่ากันว่า ผีมันจะมาหลอกคนเดินหลังก่อน ... ตรงไหนที่มีคบไม้ใหญ่ เราก็จะพะวักพะวงกับการที่ผีจะห้อยหัวลงมาจากคบไม้ หรือ ยื่นนมือยาวววลงมา นี่เผพาะขาไปนะครับ ยังไม่ขนหัวลุกเท่าหลังจากดู แม่นาคพระโขนงที่มี ปรียา รุ่งเรือง เป็นแม่นาค ไม่ต้องแต่งหน้า ไม่ต้องมีเอฟเฟคท์ ... แค่เห็นหน้าเธอ ตาคมๆ โตๆ ผมยาวๆ ก็สยองแล้ว
ผีไทย... มีระดับการจัดการของผีอย่างที่ว่าไว้ว่ามีชั้นวรรณะชัดเจน ผีแบบไหนจัดอยู่ในขั้นไหน ผีบางตัวเป็นผีกึ่งเทพ เผ็นผีที่มีอิทธิฤทธิ์มากมาย ผมเพิ่งจะเศร้าใจกับการตีความผีระดับสูง อย่าง "กุมารทอง" ของผู้กำกับบางคนที่ทำออกมาได้แค่นั้น .... ผีอย่างนางตานีหรือ โหงพราย เป็นผีระดับมิสยูนิเวิร์สไม่ใช่ผีพิกลพิการอย่างที่เราเลียนแบบผีต่างชาติมากันทุกวันนี้ เธอต้องสวย หุ่นดี ห่มผ้าสะไบแล้วรัดรึงงดงาม .. เดินเหิน หรือ ลอยมา หายตัวได้อย่างสง่างาม ไม่ใช่คลานออกมาจากใต้ตู้ ข้างถนน จะมาหลอกทั้งทีก็มาแบบเดี้ยงๆ โธ่.. ดูตัวเมิงก่อน แล้วค่อยมาหลอก ... หัดไปดูระบบน็อคดาวน์อย่างกรือสือ หรือ เทคโนโลยี่การบินอย่างกระหังดูบ้าง แล้วทำไมผีญี่ปุ่น ผีเกาหลี ไม่คิดจะพัมนาสายพันธุ์แบบผีไทยบ้างนะ :rolleyes:
ผีไทย... เราจะมีการเข้าจู่โจมและทำร้ายแบบมีศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า คือ เรา "หักคอ" เป็นการจรรโลงไว้ด้วยยุทธวิธีการต้องสู้แบบมือเปล่าที่ทั่วโลกต้องฝึกฝน ผิดกับผีต่างชาติที่จะมาหลอกหลอนกันทีต้องใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเหลือง อยู่ๆ เปิดน้ำจากก็อกให้มันไหลท่วมออกมาเป็นเลือดซะงั้น หรือไม่ก็คนโดนผีอำทำอาการเหมือนเบลอๆ เพ้อๆ ไอ้อาการแบบนี้ สมัยผมรุ่นๆเมิงโดบตบแก้วหูแตก เพราะเมิงไม่ได้โดนผีหลอก อาการแบบนี้เมิง "ดีดแป๊ะ" มามากเกินขนาด ต้องตบให้ฟื้นม่ายก็ส่งนิติเวชไปเลย
มันคงเป็นเรื่องราวของวิวัฒนาการทางสังคมที่แม้กระทั่งผีที่ว่าหลอกหลอนก็ยังหนีไม่พ้นคนหลอกผีอีกทีอยู่ดี หลังๆมานี่ไม่ได้ทำตัวเป็นมนุษย์ค้างคาวมานานมากแล้ว เลยไม่รู้ว่า เดี๋ยวนี้ผีขนุน ผีตลองหลอด ได้วัฒนาการกันไปถึงไหนแล้ว ล่าสุดเห็นแปลงร่างเป็นผีสก๊อยกันแล้ว... เรื่องราวแบบนี้ คงต้องถาม "ไร้จันทร์" :p