ชื่อกระทู้: ด้านมืดของอรชุน

  1. #31
    ใจจริงแล้วก็อย่างที่เกริ่นไว้ว่า

    แรกเริ่มที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะเห็นว่ามีข่าวอย่างที่สำนวนคุณทนายเรียกว่า "หมวยแก่รังแกเด็กสาว"
    ใส่ร้ายป้ายสีเหมือนตัวอิจฉาในละครน้ำเน่าเป็นทำนองบั่นทอนขวัญกำลังใจในการยิงธนูของเด็กที่ท่าทางมีอนาคตจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับตนได้
    ผมจึงนึกถึงเรื่องราวในหนังสือที่ได้อ่านเมื่อตอนเป็นเด็กขึ้นมา
    นั่นคือเรื่องมหากาพย์มหาภารตะ คุ้นๆ ว่าน่าจะมีที่เกี่ยวข้อง
    พอไปค้นจากสื่อสมัยใหม่ก็พบจริงๆ นั่นคือ "ตอนที่อรชุนไปฟ้องโทรณาจารย์ จนเอกลัพย์ต้องตัดนิ้วโป้งและหมดอนาคตการเป็นนักยิงธนู"

    แต่เมื่อหาทางวกวนกว่าจะเข้าประเด็น จนเกือบจะผิดข้อบังคับการประชุมมาตรา ๖๑ จึงทำให้มีเกร็ดนอกประเด็นไปมาก
    กระผมก็จะแสดงความรับผิดชอบต่อสมาชิกท่านอื่นด้วยการโม้ต่ออีกสักเล็กน้อย
    แต่อาจจะทำได้ไม่มากเพราะผมอ่านเรื่องนี้เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว
    ประเด็นพลความที่ผู้แต่งต้องการสื่อผมก็ไม่มีโอกาสได้พิเคราะห์ใหม่เพราะหนังสือถูกปลวกกินไปหมดแล้ว
    ที่พอจำได้บ้างก็เพียงบางตอนที่ตื่นเต้นเป็นที่สนใจสมัยวัยเด็ก
    แล้วจับนำเอามาประสมกับข้อวิเคราะห์จากประสบการณ์ส่วนตัวเอาเอง
    จึงอยากขอให้ อ.แย็ป ช่วยเสริมต่อในฐานะที่น่าจะคลั่งใคล้ติดตามผลงานของอรชุนมามากกว่าผมครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แวบมา : 28-11-12 เมื่อ 02:11 AM
    Let UsPut Our Minds Together And See What Life We Can Make For Our Children. - Sitting Bull

  2. #32
    สำหรับประเด็นพระนางกุนตีที่พี่ตาเกิ้นว่ามีความสามารถเหมาเทวดาได้ถึง ๔ องค์ คือ
    พระสุริยเทพ บิดาของ กรรณะ
    พระธรรมเทพ บิดาของ ยุธิษฐิระ
    พระพาย บิดาของ ภีมะ หรือภีมเสน
    พระอินทร์ บิดาของอรชุน
    แต่ก็เป็นเพียงการอัญเชิญเทวดามาเป็นการเฉพาะกิจระยะสั้น

    ซึ่งนั่นคงยังไม่เทียบเท่ากับความสามารถของนางเทราปที หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม "นางกฤษณา"
    ที่ต้องดูแลสามีพี่น้องปาณฑพลูกเทวดาทั้ง ๕ คน พร้อมกันเป็นเวลายาวนาน
    จนกระทั่งพระกฤษณะพานางสัตยภามาผู้เป็นชายา(หนึ่งในหมื่นกว่าๆ)ของพระองค์มาเยี่ยม
    นางสัตยภามาจึงแอบขอเคล็ดลับมัดใจสามีจากนางเทราปที
    จนเกิดเป็นวรรณกรรมเรื่องสำคัญนั่นคือ "กฤษณาสอนน้อง" นั่นเองครับ

    ผมเคยอ่านบทวิจารณ์วรรณกรรมเรื่องนี้
    มีแม่บ้านสมัยใหม่บางคนถึงกับเอ่ยว่า "รับไม่ได้กับการที่นางกฤษณามีสามีพร้อมกันถึง ๕ คน"
    อย่างนี้เดี๊ยนไม่ยอมเอาเป็นแบบอย่างดอก (น่าจะเข้าสมาคมเจ๊เบียบได้)

    แต่อย่าลืมสิ่งที่ผมเคยพูดถึงไปแล้วนะครับ นั่นคือ
    อย่าเอาวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีในปัจจุบันของตนเองไปตัดสินคนอื่น
    เรื่องผู้หญิงมีสามีหลายคนพร้อมกันในบางที่บางถิ่นก็อาจจะมีให้เห็นเป็นปกติครับ
    สมัยเด็กผมเคยอ่านป๊อกเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่คนทั่วไปคิดว่าแปลก พบว่า
    ในชนเผ่าแถบหิมาลัย ยังมีประเพณีการแต่งงานผู้หญิงคนเดียวกับผู้ชายหลายคนที่เป็นพี่น้องกันอยู่จริงๆ ครับ
    ดังนั้นการที่นางเทราปทีมีสามีถึง ๕ คน แล้วยังปฏิบัติหน้าที่ภรรยาที่ดีได้อย่างไม่มีบกพร่อง
    หากมีความเห็นในทางลบเกี่ยวกับเรื่องนี้ผมก็ว่าเป็นการหมิ่นกันมากไปสักหน่อย หรืออาจเกิดจากความอิจฉาก็ไม่ทราบ
    เพราะดูตัวอย่างแม่บ้านสมัยนี้หลายๆ คน สามีคนเดียวยังดูแลเอาใจใส่ไม่ได้เต็มที่ จนสามีต้องไปหาผู้ช่วยภรรยามาเสริมครับ

    สำหรับเรื่องความลำเอียงของพระกฤษณะ ขออนุญาตติดไว้ก่อน
    ว่างๆ จะมาเสนอแนวคิดขวางโลกให้ฟังกันอีก
    ขอบคุณแฟนๆ ที่ยังเหนียวแน่นติดตาม
    หรือหากใครมีใจเมตตาจะให้ทานตอบแทนเป็นสุรายาเบียร์เพื่อหล่อเลี้ยงลำไส้ที่คอดกิ่ว
    วณิพกผู้เล่านิทานนี้ก็ยินดีน้อมรับครับผม
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แวบมา : 28-11-12 เมื่อ 02:32 AM
    Let UsPut Our Minds Together And See What Life We Can Make For Our Children. - Sitting Bull

  3. #33
    ในเคส หนึ่งหญิงหลายชาย พี่น้อง ปัจจุบันนี้ ยืนยันว่ายังมีอยู่จริง แต่คงยังรั้งไว้ เมื่อสามีที่แท้ ที่ปลงใจ ชิงตายไปเสียก่อน จึงจักรับ เอาพี่หรือเอาน้อง มาเปนสามีคนต่อไปขอรับกระผม
    "......ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดี
    ไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดี
    ฉันเป็นคนบ้า ไม่ใช่คนไม่ดี
    ฉันสติไม่ดี ฉันเป็นคนบ้า........"

  4. #34
    ถ้า อ.แย้ป ว่าอย่างนั้นก็คงเป็นเช่นนั้น

    ผมก็ได้แต่เอาจากเรื่องเล่าในหนังสือที่ไม่รู้ว่าคนแต่งโม้มากน้อยแค่ไหน มาใส่สีตีไข่เพิ่มเข้าไปอีกหน่อยหนึ่ง
    แต่ก็อดเดาๆเอาไม่ได้ว่า หรือที่เขาเล่าอาจเป็นเรื่องของบางกลุ่ม บางเผ่า หรือบางท้องถิ่นหมู่บ้านตำบล ชนกลุ่มเล็กๆ
    ไม่ใช่วัฒนธรรมที่แพร่หลายก็ได้ เขาถึงเอามาเขียนเล่าว่าแปลกเป็นพิเศษครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แวบมา : 29-11-12 เมื่อ 05:24 AM
    Let UsPut Our Minds Together And See What Life We Can Make For Our Children. - Sitting Bull

  5. #35
    เปนวัฒนธรรมที่แพร่หลายอยู่ในอดีต แต่ในปัจจุบันนี้หาพบน้อยแล้วครับ สารวัตร
    "......ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดี
    ไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดี
    ฉันเป็นคนบ้า ไม่ใช่คนไม่ดี
    ฉันสติไม่ดี ฉันเป็นคนบ้า........"

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
  • BB code is ใช้ได้
  • Smilies are ใช้ได้
  • [IMG] code is ใช้ได้
  • [VIDEO] code is ใช้ได้
  • HTML code is ใช้ได้